หรืออังศุมาลินจะเพิ่งอยู่ ม.ปลาย/ ตาผล-ตาบัวเป็นพวก homeless / หรือว่า..

ผมไปดูคู่กรรมมาครับ Pavalai รอบ 20.10
ไม่ได้คาดหวัง ไม่เคยอ่านนิยาย
ไม่ได้เป็นแฟนคลับใคร แต่ไปดู เพราะคิดว่า มันอาจไม่ได้แย่อย่างที่เค้าลือกัน

ผมเคยดูตอนเป็นมิวสิคัล และก็เคยดูเวอร์ชั่นหนูนาอยู่ครั้งนึง ตอนฉากแต่งงาน
ก็พอจะมีภาพจำในหัวอยู่บ้างเกี่ยวกับคู่กรรม

แต่ต่อให้หัวผมครีเอทมากแค่ไหน ตีความหลุดโลกได้มากเท่าไร ก็ผมคิดว่าผมไม่มีวันตีความคู่กรรมออกมาหลุดโลกได้เท่าหนังเวอร์ชั่นนี้แน่ๆ

ที่ผมรู้สึกว่า "มันใช่หรอ?" ก็คือ ..

- ตอน opening credit ที่เป็นคล้ายๆแอนนิเมชั่น สุดยอดอะครับ แนวมากเลย นี่นึกว่ากำลังดูคุณนายโฮอยู่หรือเปล่า มันดูล้ำสมัย โดดเด่นออกมาจากหนังพีเรียดมากกกกก อารมณ์ประมาณดูสี่แผ่นดิน แต่มี soundtrack เป็นเพลง pop-rock
รวมถึง score ที่คลอตลอดเรื่องด้วยนะ อารมณ์รถไฟฟ้ามาหานะเธอมากเลย ดูเป็นหนังสดใส หวานแหวว หลั่นล้าสุดๆ

- บ้านอังศุมาลิน ดูโมเดิ้นมากครับ จัดได้.. ไงเนี่ย ดูเหมือนว่า จริงๆแล้ว คู่กรรมเรื่องนี้ อาจเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง ไม่ใช่สมัย ร.8 เป็นบ้านที่อาจหาดูได้ตามหนังสือบ้านและสวนทั่วไป หรือองค์ประกอบภายในก็อาจพบได้ตาม OOM หรือ Martha Stewart Living

- พ่อ แม่ ยาย ของอัง แอคติ้งแย่มากกกกกกครับ เหมือนกับเพิ่งคิดได้ว่าควรมีบทนี้ตอนกำลังถ่ายทำ เลยเรียกคนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นมาเข้าฉาก อย่างตอนที่พ่อมาพูดกับแม่เรื่องจะให้อังแต่งงาน ยังกะกำลังซ้อมบทกันอยู่ ส่วนยายก็มีหน้าที่อย่างเดียวคือ แก่ ไม่ได้มีปากเสียงอะไรเลย

- รวมทั้ง แอคติ้ง นักแสดงคนอื่นๆ อย่างเช่น ชายสูงวัยคนนึง ที่มาเกาะเอวโกโบริ (เค้าเกาะจริงๆครับ) แล้วขอร้องแบบไม่มีวิญญาณ ให้โกโบริช่วยเจรจาเรื่องยาป้องกันมาลาเรีย ฝืดมากครับ ขอชมตรงนี้

- ตาผล-ตาบัว  homeless 2 คนนี้ที่มาฟันหลังโกโบริ อาจเพราะหวังทรัพย์สินอะไรบางอย่าง ? ที่ไม่ใช่การแก้แค้นจากการถูกจับกรอกน้ำมัน เพราะหนังไม่ได้พูดถึง (ที่ผ่านมา คู่กรรมเวอร์ั่นอื่น จะนำเสนอความตลกเฮฮาของสองคนนี้ แต่เวอร์ชั่นนี้คือสื่อให้รู้ว่าสองคนนี้คือโจร!)

- ฉากข่มขืน นี่คงต้องการให้คนดูได้ผ่อนคลายอารมณ์? เพราะมันตลกมากครับ คนขำกันมาก

- ที่จริงแล้ว วนัสอาจเป็นอาร์ตติสท์ นักเรียนมัณฑนศิลป์ สถาปัตย์ หรืออะไรเทือกนี้ คงไม่ใช่นักเรียนนอก(ยุโรป)อย่างที่เราเข้าใจ

- อังศุมาลิน ก็แย่อย่างที่เค้าพูดกันนั่นแหละ ผมไม่แน่ใจนะ ว่าแย่กว่าหรือเปล่า แต่ไม่มีเสน่ห์เลย เหมือนคนไม่เคยเตรียมตัวมาสำหรับการรับบทนี้ ยืนแข็งตลอดเรื่อง พูดก็แข็ง ตาก็แข็ง  คงเพราะดวงแข็ง..เลยได้มารับบทนี้มังครับ ?

และสุดท้าย ฉากสำคัญของเรื่อง ทำออกมาให้คนเกลียดหมอมาก ที่ไม่ช่วยเพื่อน เพราะบอกว่าต้องเก็บมอร์ฟีนไว้ให้คนที่ยังมีหวัง แต่ตัวเองกลับไปนั่งร้องไห้ในที่ปลอดภัย ปล่อยให้เพื่อนนอนพะงาบ-พะงาบ ตั้งหลายชั่วโมง (ก็ตั้งแต่มืดยันสว่างอะครับ) คือถ้ามันนานขนาดนี้จับส่งสมิติเวชยังทันอะครับ อ้อ ลืมไป ว่าไม่ได้เกิดขึ้นในยุคนี้

สรุปคือ ผมไม่เสียดายตังค์หรอกครับ ที่ไปดู เพราะใช้โปร ยิ้ม
ท่านไหนที่ลังเล ก็ยังแนะนำให้ไปดูนะครับ
จะได้รู้ ว่าผู้กำกับ กล้าจริงๆ (ปรบมือ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่