เห็นมีหลายข่าวมากแล้วที่ ช่อง 3 รายงานข่าวผิดบ่อยๆ ชื่อผิดบางสถานที่ผิดบ้าง บางครั้งข้อมูลก็ผิดไปเลย
เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ผมได้เห็นข่าวช่อง 3 บอกว่า สถานที่ที่หนึ่งเกิดภัยแล้งอย่างมาก ทำให้ยางพาราใบเหลือง และกำลังจะยืนต้นตาย
อันที่จริงแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับภัยแล้งแต่อย่างไร มันเป็นช่วงฤดูที่ยางพารามันต้องผลัดใบ ซึ่งแต่ละสวนมันจะผลัดพร้อมๆกัน หรือใกล้เคียงกัน มันจะผลัดช่วงฤดูหนาว ช่วงนี้ชาวสวนยางจะหยุดกรีดยาง เรียกว่า ปิดหน้ายาง
ที่ผมรู้ก็เพราะว่า จังหวัดที่ผมอยู่เป็นพื้นที่ที่ปลูกยางพารา ซึ่งปลูกมาตั้งแต่รุ่นทวดผมยังไม่เกิดเสียอีก
เมื่อวาน (1 เมษายน 56) ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วงแตกประเด็น นำเสนอเรื่อง “ปัญหาทุเรียนอ่อน”
พอดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เพราะว่าบ้านผมทำสวนทุเรียนอยู่ ข้อมูลที่ช่อง 3 นำเสนอค่อนข้างคาดเคลื่อนจากความเป็นจริงมาก และผิดแทบทุกอย่าง
ลิงค์รายกรย้อนหลัง
http://www.krobkruakao.com/video.php?type=videoDetail&video=19&path=17886&year=2013&month=04
ปัญหาทุเรียนอ่อน ไม่ได้เป็นอย่างที่ช่อง 3 รายงานแต่อย่างไร การส่งออกทุเรียนจะส่งไปขายใน 3 ประเทศคือ ไต้หวัน เกรด A จีน เกรด B และอินโดนีเซีย เกรด C
การขายทุเรียนสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ
1. เจ้าของสวนขายเอง อันนี้ไม่มีปัญหาอะไร
2. การเหมาทุเรียนทั้งสวน อันนี้แหละที่ทำให้เกิดปัญหาทุเรียนอ่อน เพราะ ผู้ที่เข้ามาเหมาส่วนใหญ่จะเป็นแผงทุเรียนส่งออก โดยมีนายทุนจากไต้หวันอีกที เพราะการเหมามันต้องใช้เงินจำนวนมาก สวนทุเรียนขนาดเล็ก ประมาณ 15 ไร่ ใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ขนาดกลางประมาณ 2-4 ล้านบาท ส่วนขนาดใหญ่อาจถึง 5-10 ล้านบาท ดังนั้นถ้าเงินทุนไม่หนาพอ มาเหมาไม่ได้หรอกครับ
ผู้ที่มาเข้ามาเหมาจะประเมินราคาทุเรียน ว่ารุ่นนี้น่าจะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ บางที่เข้ามาเหมาตั้งแต่ลูกยังเล็กอยู่เลย อย่างเช่น กิโลกรัมละ 60 บาท ตกลงกับชาวสวนได้แล้วว่า 60 บาทต่อกิโลกรัม พอถึงเวลาถ้าตลาดปลายทางเริ่มมีปัญหา ซึ่งมันมีหลายสาเหตุ ตอนนั้นแหละครับ ปัญหาทุเรียนอ่อนจะออกมา อย่างเช่นไปเหมาไว้ 60 บาท แต่ราคาซื้อขายในตลาดเหลือ 62 บาท พวกที่เข้ามาเหมาก็จะเข้ามาเก็บเกี่ยว (ชาวสวนเรียกว่าตัดทุเรียน) ในสวนทันทีโดยไม่สนว่าทุเรียนจะนั้นมันยังอ่อน (ชาวสวนเรียกว่าทุเรียนตรึง) เพื่อหลีกเลี่ยงกับโอกาสที่จะขาดทุน ชาวสวนก็แต่ยืนมอง ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ทั้งๆที่เราเองก็ยังไม่อยากให้ตัด เพราะทุกอย่างเราตกลงกันไปแล้ว เช่นเดียวกัน อย่างกรณีเหมา 60 บาท แต่กลับเป็นว่าช่วงนั้นทุเรียนกำลังขึ้นราคา ขายในตลาด 65 บาท ช่วงนี้จะเป็นช่วงทุเรียนแก่ดี เพราะพวกเหมาจะยังไม่เข้ามาตัด รอราคาขึ้นสูงสุด ณ ช่วงเวลานั้น แล้วค่อยเข้ามาตัดทุเรียน ชาวสวนก็ขายได้ กก.ละ 60 บาท เพราะว่าตกลงราคาไว้แล้ว ส่วนพวกเหมาก็รับกำไรอย่างมหาศาล
ความจริงอีกหลายอย่างเกี่ยวกับทุเรียนอ่อนที่ช่อง 3 รายงานข่าวไป ยังมีอีกเยอะที่ข้อมูลที่ช่อง 3 รายงานแบบผิดๆ เหมือนกับไม่มีข้อมูลที่แท้จริง แต่ขอจบแค่นี้ก่อนครับครับ เพราะมันมีข้อโต้แย้งเยอะมาก ถ้ามาเขียนทั้งหมด คงจะไม่มีคนอ่าน มันเยอะมาก
ทำไมช่อง 3 รายงานข่าว แบบไม่ค่อยกรองข้อมูลเลย ไม่ค่อยหาข้อมูลที่แท้จริง
เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ผมได้เห็นข่าวช่อง 3 บอกว่า สถานที่ที่หนึ่งเกิดภัยแล้งอย่างมาก ทำให้ยางพาราใบเหลือง และกำลังจะยืนต้นตาย
อันที่จริงแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับภัยแล้งแต่อย่างไร มันเป็นช่วงฤดูที่ยางพารามันต้องผลัดใบ ซึ่งแต่ละสวนมันจะผลัดพร้อมๆกัน หรือใกล้เคียงกัน มันจะผลัดช่วงฤดูหนาว ช่วงนี้ชาวสวนยางจะหยุดกรีดยาง เรียกว่า ปิดหน้ายาง
ที่ผมรู้ก็เพราะว่า จังหวัดที่ผมอยู่เป็นพื้นที่ที่ปลูกยางพารา ซึ่งปลูกมาตั้งแต่รุ่นทวดผมยังไม่เกิดเสียอีก
เมื่อวาน (1 เมษายน 56) ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วงแตกประเด็น นำเสนอเรื่อง “ปัญหาทุเรียนอ่อน”
พอดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เพราะว่าบ้านผมทำสวนทุเรียนอยู่ ข้อมูลที่ช่อง 3 นำเสนอค่อนข้างคาดเคลื่อนจากความเป็นจริงมาก และผิดแทบทุกอย่าง
ลิงค์รายกรย้อนหลัง
http://www.krobkruakao.com/video.php?type=videoDetail&video=19&path=17886&year=2013&month=04
ปัญหาทุเรียนอ่อน ไม่ได้เป็นอย่างที่ช่อง 3 รายงานแต่อย่างไร การส่งออกทุเรียนจะส่งไปขายใน 3 ประเทศคือ ไต้หวัน เกรด A จีน เกรด B และอินโดนีเซีย เกรด C
การขายทุเรียนสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ
1. เจ้าของสวนขายเอง อันนี้ไม่มีปัญหาอะไร
2. การเหมาทุเรียนทั้งสวน อันนี้แหละที่ทำให้เกิดปัญหาทุเรียนอ่อน เพราะ ผู้ที่เข้ามาเหมาส่วนใหญ่จะเป็นแผงทุเรียนส่งออก โดยมีนายทุนจากไต้หวันอีกที เพราะการเหมามันต้องใช้เงินจำนวนมาก สวนทุเรียนขนาดเล็ก ประมาณ 15 ไร่ ใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ขนาดกลางประมาณ 2-4 ล้านบาท ส่วนขนาดใหญ่อาจถึง 5-10 ล้านบาท ดังนั้นถ้าเงินทุนไม่หนาพอ มาเหมาไม่ได้หรอกครับ
ผู้ที่มาเข้ามาเหมาจะประเมินราคาทุเรียน ว่ารุ่นนี้น่าจะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ บางที่เข้ามาเหมาตั้งแต่ลูกยังเล็กอยู่เลย อย่างเช่น กิโลกรัมละ 60 บาท ตกลงกับชาวสวนได้แล้วว่า 60 บาทต่อกิโลกรัม พอถึงเวลาถ้าตลาดปลายทางเริ่มมีปัญหา ซึ่งมันมีหลายสาเหตุ ตอนนั้นแหละครับ ปัญหาทุเรียนอ่อนจะออกมา อย่างเช่นไปเหมาไว้ 60 บาท แต่ราคาซื้อขายในตลาดเหลือ 62 บาท พวกที่เข้ามาเหมาก็จะเข้ามาเก็บเกี่ยว (ชาวสวนเรียกว่าตัดทุเรียน) ในสวนทันทีโดยไม่สนว่าทุเรียนจะนั้นมันยังอ่อน (ชาวสวนเรียกว่าทุเรียนตรึง) เพื่อหลีกเลี่ยงกับโอกาสที่จะขาดทุน ชาวสวนก็แต่ยืนมอง ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ทั้งๆที่เราเองก็ยังไม่อยากให้ตัด เพราะทุกอย่างเราตกลงกันไปแล้ว เช่นเดียวกัน อย่างกรณีเหมา 60 บาท แต่กลับเป็นว่าช่วงนั้นทุเรียนกำลังขึ้นราคา ขายในตลาด 65 บาท ช่วงนี้จะเป็นช่วงทุเรียนแก่ดี เพราะพวกเหมาจะยังไม่เข้ามาตัด รอราคาขึ้นสูงสุด ณ ช่วงเวลานั้น แล้วค่อยเข้ามาตัดทุเรียน ชาวสวนก็ขายได้ กก.ละ 60 บาท เพราะว่าตกลงราคาไว้แล้ว ส่วนพวกเหมาก็รับกำไรอย่างมหาศาล
ความจริงอีกหลายอย่างเกี่ยวกับทุเรียนอ่อนที่ช่อง 3 รายงานข่าวไป ยังมีอีกเยอะที่ข้อมูลที่ช่อง 3 รายงานแบบผิดๆ เหมือนกับไม่มีข้อมูลที่แท้จริง แต่ขอจบแค่นี้ก่อนครับครับ เพราะมันมีข้อโต้แย้งเยอะมาก ถ้ามาเขียนทั้งหมด คงจะไม่มีคนอ่าน มันเยอะมาก