ภาพเก่าเล่าเรื่อง (๖๔)

กระทู้สนทนา


จังหวัดพิบูลสงคราม เป็น ๑ ใน ๔ จังหวัดที่ประเทศไทยได้ดินแดนคืนจากฝรั่งเศสในช่วง พ.ศ.๒๔๘๔ โดยยกท้องที่การปกครองเสียมราฐขึ้นเป็นจังหวัด พื้นที่ของจังหวัดนี้เดิมอยู่ในมณฑลบูรพาในสมัยรัชกาลที่ ๕ และตกอยู่ภายใต้ความปกครองของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๐

ชื่อจังหวัดพิบูลสงครามนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ จอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้น ทั้งนี้ ยังปรากฏว่ามีการสร้างอนุสาวรีย์ไก่ขาวกางปีกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจอมพลแปลกไว้เป็นอนุสรณ์ของจังหวัดนี้

เมื่อมีการกำหนดให้มีตราประจำจังหวัดทั่วประเทศ กรมศิลปากรก็ได้นำอนุสาวรีย์ดังกล่าวมาผูกเป็นรูปตราประจำจังหวัดไว้ด้วย ส่วนชื่ออำเภอต่างๆ ที่ตั้งขึ้นในทั้ง ๔ จังหวัด ที่ได้คืนมาจากฝรั่งเศสนั้น ส่วนหนึ่งตั้งชื่อตามบุคคลที่มีบทบาทอย่างสูงในการรบสงครามอินโดจีน

เมื่อแรกตั้งจังหวัดนั้น ได้แบ่งการปกครองออกเป็น ๖ อำเภอ ตามประกาศเรื่องตั้งอำเภอ ลงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๔ ดังนี้

๑. อำเภอไพรีระย่อเดช (ตามเขตอำเภอบ้านพวกเดิม) ตั้งชื่อตาม พันเอกหลวงไพรีระย่อเดช (ชมะบูรณ์ ไพรีระย่อเดช ยศสุดท้ายเป็นที่พลโท) ผู้บัญชาการกองพลบูรพา และรองแม่ทัพด้านบูรพา (คนที่ ๒) ในขณะนั้น

๒. อำเภอกลันทบุรี (ตามเขตอำเภอกลันทบุรีเดิม)

๓. อำเภอพรหมขันธ์ (ตามเขตอำเภอพรหมขันธ์เดิม)

๔. อำเภอเกรียงศักดิ์พิชิต (ตามเขตอำเภอสำโรงเดิม) ตั้งชื่อตาม พันเอกหลวงเกรียงศักดิ์พิชิต (พิชิต เกรียงศักดิ์พิชิต ยศสุดท้ายเป็นที่พลโท) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๑ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพด้านอีสาน และผู้ช่วยแม่ทัพบกในขณะนั้น

๕. อำเภอวารีแสน (ตามเขตอำเภอวารีแสนเดิม)

๖. อำเภอจอมกระสานติ์ (ตามเขตอำเภอจอมกระสานติ์เดิม)

หลังจากนั้น วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๔ สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาจัดตั้งศาลจังหวัด โดยคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๔

ต่อมา ทางการได้ปรับปรุงเขตการปกครองจังหวัดพิบูลสงครามใหม่ โดยโอนท้องที่อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพิบูลสงคราม ไปขึ้นจังหวัดนครจัมปาศักดิ์ และโอนท้องที่ อำเภอศรีโสภณ และ อำเภอสินธุสงครามชัย จังหวัดพระตะบอง มาขึ้นจังหวัดพิบูลสงครามแทนในเดือนธันวาคม ปีเดียวกัน

จังหวัดพิบูลสงคราม จึงมีเขตการปกครองจนถึง พ.ศ.๒๔๘๙ รวมทั้งสิ้น ๗ อำเภอ คือ อำเภอไพรีระย่อเดช อำเภอกลันทบุรี อำเภอพรหมขันธ์ อำเภอเกรียงศักดิ์พิชิต อำเภอวารีแสน อำเภอศรีโสภณ และอำเภอสินธุสงครามชัย

อย่างไรก็ตาม ในการได้ดินแดนเสียมราฐคืนมาเป็นจังหวัดพิบูลสงครามนั้น นครวัด ยังคงอยู่ในเขตของฝรั่งเศส และปราสาทบันทายศรี แม้ตามเส้นแบ่งแดนจะอยู่ในเขตจังหวัดพิบูลสงคราม แต่ฝรั่งเศสได้ขอให้ขีดวงล้อมให้ดินแดนที่ตั้งของปราสาทบันทายศรี เป็นของฝรั่งเศสตามเดิม ทั้งนี้ ญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ไกล่เกลี่ยได้เห็นชอบตามคำขอของฝรั่งเศส ปราสาททั้งสองจึงไม่อยู่ในเขตอธิปไตยของไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไทยต้องส่งดินแดนจังหวัดพิบูลสงครามคืนให้แก่ฝรั่งเศส ซึ่งปกครองกัมพูชาอยู่ในขณะนั้น ปัจจุบัน คือ จังหวัดเสียมราฐ จังหวัดอุดรมีชัย และจังหวัดบันเตียเมียนเจย  ราชอาณาจักรกัมพูชา

................................

ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ Wikipedia Thai มา ณ โอกาสนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่