ตอนแรกมีอาการ ชาเป็นเหน็บ หรือบางครั้งจะมีอาการปวด แสบร้อนบริเวณฝ่ามือ นิ้วนางด้านหน้าและด้านหลังผ่ามือ
ครั้งแรกที่มาหาหมอ ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร มาโรงพยาบาลนี้เป็นครั้งแรกวันที่22กุมภาพันธ์2555คะมากับคุณแม่เพราะตอนนั้นมีอาการชาที่มือมา กลัวว่าจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ก็วัดความดันกรอกประวัติผู้ป่วยใหม่ เจ้าหน้าที่ส่งดิฉันไปตู้8ประกันสังคมคะ
ก็ไปนั่งรอ คิวค่อนข้างเยอะ มีแต่ผู้ป่วยวัยกลางคนแต่ละคนก็สภาพแย่มาก
หันกลับมามองตัวเองคะ ที่มารักษาที่ รพ.นี้เพราะได้รับสิทธิ์ประกันสังคมจากการทำงานพาททามช่วงปิดเทอม ส่งเบี้ยเองบ้างเลยทำให้ขาดสิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองไปเลยคะ ก็ทำใจนั่งรอนะคะคิดไว้ในใจไม่บั่นทอนจิตใจตัวเองว่าเราเป็นไม่หนักเนาะ รอได้รอเถอะตัดสินใจจะมาแล้ว ดันไปติดพักเที่ยงคะ แต่ก็รอคะเห็นใจคุณแม่ที่สละเวลามาดูแล แล้วพอได้เข้าไปตรวจ เจอคุณหมอเป็นผู้ชายอายุเยอะแล้วแหละ เรายกมือไหว้คุณหมอ คุณหมอแทบจะไม่มองหน้าเลยคะ ถามนะว่าเป็นอะไรมา
เราก็เล่าว่าเราปวดที่บริเวณนิ้วเสียวและชาแปรบๆพยายามจะบอกอาการ ระหว่างนั่งรอครึ่งค่อนวันแทบจะคิดเป็นสคลิปมาพูดแบบละเอียด แต่คุณหมอตัดความอย่างไม่มีเยื้อใยเลยคะ มองที่แฟ้มประวัติไม่มองเราที่เป็นผู้ป่วย(ประกันสังคม)ถามแทรกมาเลยว่าไปทำงานอะไรมา เราตอบว่าไปคีย์ข้อมูลในช่วงเวลาปิดเทอมคะสั้นๆประมาณ3เดือน คุณหมอบอกว่าเรายังไม่แก่เลยยังไม่น่าจะเสื่อมหรอก เราก็แบบมือรอไว้เผื่อคุณหมอเค้าจะดู แต่ไม่เลยคะหยิบใบสั่งยามาเขียน ใช้เวลาไม่ถึง5นาทีเลย "นี่เรารอทั้งวันเพื่อมาให้เค้าพูดกับเราแค่นี้หรอ" หมอยาแถวบ้านยังรับฟังมากว่านี้อีก
บอกว่าน่าจะขาดวิตามินบีแหละ เดี๋ยวจ่ายวิตามินให้ไปทานละกัน
อารมณ์หงุดหงิดในใจเลยคะ เพราะตัวเองเป็นคนรักสุขภาพมากอยู่แล้วทานวิตามินไม่เคยขาดคะเพราะรู้ตัวว่าใช้สมองและร่างกายในการเรียนและทำงานมาก พักผ่อนน้อยกว่าผู้อื่น
ออกมาจากห้องตรวจ คุณแม่ถามเลยว่าเสร็จแล้วหรอคุณบอกว่าไงบ้าง เราเป็นอะไร หนูขำคะ แล้วบอกแม่ว่ากลับเหอะ5555 ไม่ต่างจากหมอตี๋แถวบ้านเลย แม่บอกให้ใจเย็นๆคะแล้วไปนั่งรอยาฟรีตามสิทธิ์ที่เสียค่าประกันสังคมไปทุกๆเดือน แล้วก็ตามคาดค่ะ
ได้มาแค่วิตามินบี เหน็บชา สามเหลี่ยมสีชมพู ยาเด็กๆกินอะคะ555แล้้วก็แก้ปวดนิดๆหน่อยๆ ยาแบบนี้ที่บ้านก็มีคะ อารมณ์วันนั้นเสียความรู้สึกมากๆนะคะ แต่ก็ไม่ได้ดูถูกวิชาชีพคุณหมอเค้า เค้าอาจจะให้ยาเป็นเสต็บไป
จนกระทั่งวันนึงปวดมือในเวลาตื่นนอนจนกำมือไม่ลงทั้งๆที่ทำงานน้อยลงเพราะเราเปิดเทอมแล้ว ทำแค่เสาร์อาทิตย์ ก็คิดว่าเวลาปวดแขนปวดขาเราก็ทายาบีบๆนวดๆไป พอดีแจ๊คพ็อทค่ะไปเจอตุ่มที่ฝ่ามือนิ้วที่เคยมีอาการชาและเสียว 5555 มันดิ้นเราก็บี้ใหญ่เลยคะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่ไม่ใช่หูดหรือตาปลาแน่นอน เพราะมันไม่ได้เกิดจากผิวหนังชั้นนอก ไม่ว่างที่จะหาข้อมูลด้วยซ้ำ เอาให้ใครต่อใครจับตุ่มนั้นต่างก็ทำสีหน้าเสียและซีดๆใส่ บอกว่าไปหาหมอเถอะ
ช่วงนั้น ยังเสียความรู้สึกฝังใจอยู่คะ เลยไม่คิดที่จะกลับมาหาหมออีก ตอนนั้นปิดเทอมใหญ่ กิจวัตรของคนที่อยู่ไม่นิ่งอย่างเรามันต้องไปหางานทำเงินอยู่แล้วคะแต่พอดีเจ็บมือพี่ที่ทำงานห่วงเรากลัวเราจะเป็นหนักก็ไม่อนุญาติให้กลับมาทำงานบอกให่้ไปรักษาให้หายก่อนแล้วค่อยมาทำใหม่นะ
สรุปปิดเทอมนั้นเสียโอกาสหาเงินไปเลย ตัดสินใจไปหาคุณยายที่ต่างจังหวัด คุณยายเป็นคนขี้โรคคะ ปวดขาเดินไม่ไหวต้องนั่งรถเข็นเป็นไตปวดปัสสาวะบ่อย ก็ปวดเมื่อยต้องเรียกหมอนวดมานวด ยายก็เลยถามหมอนวดเรื่องตุ่มที่ฝ่ามือเผื่อเราด้วย พอหมอนวดจับเค้าก็อ๋อแล้วบอกว่าเส้นพันกันที่ส่วนประสาทด้านหลังต้องนวดแก้มาจากหัวไหล่ เรายังไม่ทันตกลงเลยคะว่าจะนวด แล้วเกิดมาไม่เคยนวดแผนไทยเพราะกลัวเรื่องเส้นประสาทมากๆคะ ปวดเมื่อยอย่างมากก็ทายากินยา หมอนวดจับนวดครบสูตร ดึงเส้นข้างหลังแทบจะจิกเนื้อขึ้นมาบิดเลย ความรู้สึกตอนนั้นเจ็บปวด หู้อื้อและชาไปทั้งหลังและแขนน้ำตาไหลพราก แต่พอนวดเสร็จ20นาทีเองคะ แต่พอมาจับที่ฝ่ามือตุ่มหายไปเลยคะ เค้าไม่ได้มาบีบนวดที่บริเวณฝ่ามือเลยนะคะ แต่มันหายไปได้ไง หมอนวดพูดทิ้งท้ายไว้ว่าเข้าตำราหญิงซ้ายชายขวา ทำบุญบ้างนะหนู แพทย์แผนปัจจุบันคงมองเรื่องนี้เป็นเรื่องงมงายและไร้สาระ ดีใจมากโทรไปเล่าแบ่งปันกับเพื่อนเราที่เรียนสหเวช เค้ายังไม่เชื่อเลย นี่ยังไม่ได้เป็นหมอนะ5555 แต่ยังมีอาการปวดอยู่เหมือนเดิมเลยคะแค่ไม่มีตุ่ม เจ็บแต่คุ้ม
หลังจากนั้นกลับไปของานทำเหมือนเดิมคะบอกว่าไปรักษาวิธีนวดแต่ช่วงเปิดเทอมแล้วทำแค่เสาร์อาทิตย์ แต่ก็ละเลยไม่รู้ตัวเองจริงๆว่าเป็นอะไรกันแน่
แต่หลังจากนั้นเดือนกว่ามันก็โผล่มา พร้อมอาการกำมือไม่ลงในช่วงเช้าแล้วกำสบู่เจ็บฝ่ามือมากๆ ก็เลยตัดสินใจถามในกูเกิ้ลคะว่าอาการที่เกิดมันคืออะไร สรุปเราเป็นนิ้วล็อกคะ เห้ย!!! บีบีก็ไม่ได้เล่นนะ เราใช้โทรศัพท์ทัชสกรีน หรือเพราะคีย์งานก็ไม่น่าใช่เราคีย์ระยะเวลาสั้นๆเองนะ หรือตอนเด็กติดเกมออนไลน์มาก เวลาเล้นกีต้าร์โหมเล่นทั้งคืน คิดหาต้นเหตุสารพัดคะ เวลากลับไปหาหมอ จะได้บอกคุณหมอถูก จะได้รับการรักษาถูกวิธีกันสักที(สาธุ)
ตัดสินใจโทรไปหายายคะ อยากนวดอีก แต่โชคร้ายของเราจริงๆคะหมอนวดคนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว เห้อ..เราต้องกลับไปหาหมอจริงๆหรอเนี่ย แต่ใครๆเค้าก็ให้กำลังใจว่าหมอรพ.เลิดสิน เก่งที่สุดในเรื่องการรักษานิ้วล็อก
วันนึงอาหารเป็นพิษ ไปหาหมอคลินิกแถวบ้านคะ หมอไม่กระจอกนะคะไม่ใช่หมอตี๋ หมอคนนี้เก่งและใจดีคะ รักษาและผ่าตัดนิ่วให้คุณตาเราหาย เป็นหมอระดับรองผอ.รพ.ราชวิถี เลยขอถามหมอเพิ่มว่าไอ้ตุ่มดึ๋ยๆอันน่ารำคาญนี่มันรักษายังไงหาย หมอตอบภายในไม่ถึงนาทีว่าเยื่อหุ้มเอ็นอักเสบ ว่ามันก็ไม่เป็นพิษภัยอะไรหรอก แค่ปวดๆถ้ารำคาญก็ไปเอามันออก หมอที่เลิดสินเก่งนะ ไปหาสิ
จนวันมันล็อกจริงๆเลยคะระหว่างโหนรถเม เลยตามเลยมาสุดสาย ดวงจะต้องมาคะ จำได้ว่าประมาณเดือนมิถุนายน 2555
พอเข้าคิวไปเจ้าหน้าที่ถามว่าเป็นอะไรมา เราตอบได้เต็มปากแล้วว่า"นิ้วล็อกคะ"เค้าส่งเราไปออร์โธปิดิกส์
"ออร์โธปิดิกส์ คืออะไร นั่งรอตรวจเจอผู้สูงวัยทั้งนั้น"แต่ก็ไม่เหงาและหดหู่เหมือนคราวแรกที่มาตู้8นะคะ สภาพผู้ป่วยแต่ละคนหน้าตาแจ่มใส่คะมีแต่คนชวนคุยถามว่าเราเป็นอะไรมา เราก็บอกไปว่านิ้วหนูล็อกค่ะ ป้าๆทั้งหลายตกใจ บอกว่าอายุเรายังน้อยอยู่เลยนะ เป็นมานานยังลูก เราก็เท้าความหมอตู้8ให้ฟังเลยจ้า เจ็บฝังใจ แต่ที่จริงแล้วคุณหมอเค้าไม่ผิดนะ เราเองมากกว่าที่ไม่ใส่ใจสุขภาพของตัวเราเอง ขนาดเวลาเรียนเรายังอ่านล่วงหน้าก่อนไปเรียนเลย แต่เรื่องโรคภัยมันก็คาดเดาเองไม่ได้และอาการมันมาชัดเจนตอนมีตุ่มที่ฝ่ามือ พอได้เข้าตรวจในห้องตรวจจริง คุณหมอดูไม่แก่และแอกทีฟดีมีบุรุษพยาบาลคอยจัดคิว หมอก็ถามอาการโดยละเอียดพลิกแฟ้มประวัติดู(เอาแล้วจะเป็นเหมือนคุณหมอตู้8มั้ยน้อ) ไม่เลยคะ ถามอาการแรกเริ่มกิจวัตรประจำวัน จนถึงอาการปัจจุบัน จับตรงจุดที่มีเอ็นอักเสบ คุณหมอบอกว่ามีทางให้เลือกรักษา2วิธี คือทานยาแก้ปวดกับฉีดยา...หมอยังพูดไม่จบเลย เราสวนไปทันทีด้วยความดีใจว่าฉีดยาคะ หมอคงตกใจเนาะ คุณหมอก็เอาปากกามาร์คจุดที่จะฉีดยาไว้ แล้วเขียนใบสั่งยา เราติดพักเที่ยงอีกแล้ว ระหว่างนั่งรอก็แอบเปิดแฟ้มดู คุณหมอเขียนอาการและวาดรูปมือและตำแหน่งที่เราเป็น เราคิดว่าเราโชคดีมารักษาถูกทาง พอถึงเวลาที่จะต้องฉีดยาเราลืมถึงความเจ็บปวดเลยคะ คิดแค่ว่าหายแล้วๆๆๆ ฉีดยาsteroidไปก็เยอะอยู่นะ เล่นเอานิ้วพองและเขียวไปเลยหลายวัน คุณหมอบอกว่ามันไม่หายขาดนะแค่ระงับอาการปวด
แล้วหมอก็เขียนใบนัดคะ ทำให้วันนั้นเราได้รู้จักชื่อคุณหมอ(ตุลพงษ์) หลังจากวันนั้นไป1สัปดาห์คะ จำได้ว่าวันพุธก็มาตามนัด อาการดีขึ้นไม่ปวดใช้งานได้ปกติ เราถามหมอเพิ่มอีกว่าเราปวดข้อเท้าเพราะใส่รองเท้าส้นสูง คุณหมอแนะนำวิธีการยืดกล้ามเนื้อ แล้วก็จ่ายยาแก้ปวดและเจลทาระงับปวด แล้วหมอไม่นัดอีกแล้วนะ (ดีใจสุดๆ)
หลังจากนั้นไปเป็นช่วงปิดเทอมเล็กคะ ก็ไปคีย์ข้อมูลเหมือนเดิม สารภาพเลยคะว่าหักโหมสุดๆ เพราะคิดว่ายังไงเราหนีไม่พ้นไอโรคนิ้วล็อกปั่นเงินไว้เลยดีกว่า อยู่เต็มที่3เดือนเองคะ
อาการปวดกำเริบ คราวนี้น้ำตาตกเลยปวดไปถึงข้อศอกและรู้สึกกล้ามเนื้ออ่อนแรง เวลากดคอร์คกีต้านิ้วงอไม่เป็นรูปเลยคะ งวดนี้รักตัวเองดีกว่า ตัดสินใจออกจากงาน เพื่อมารักษา เงินสำคัญที่สุดแต่เงินไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต
ถ้าเรายอมรักษาให้หายจริงจัง เราจะได้ใช้ชีวิตปกติ ได้ทำในสิ่งที่เรารักที่เล่นกีต้าร์ ถึงวัยที่จะทำงานเราค่อยกลับมาทำ
ครั้งนี้ตั้งใจจะขอผ่าตัด คือใจอยากหายขาด แต่ลืมนึกว่าผ่าตัดมันเสี่ยงนะแต่เราเชื่อมั่นในออร์โธเลิดสินมากๆ อ่านกี่เว็บบอร์ดใครๆก็หายขาดจากจากผ่าตัด แต่ก็เกิดความขัดแย้งกันในครอบครัวนะคะ คุณพ่อก็เป็นนิ้วล็อกเป็นทั้ง2มือแล้วมากว่า1นิ้ว แต่พ่อเค้าเป็นด้วยวัยหรือความเสื่อมหรือพ่อกลัวหมอ!!เราก็กลัวนะคะแต่กลัวว่าเวลามาหาหมอมันทำให้เสียเวลา ขาดเรียนขาดงาน แต่เรามารักษาฟรีได้สุขภาพที่ดีกลับไป แลกแล้วคุ้มที่จะเสีย
18ธันวาคม2555 ขอร้องให้คุณแม่พามาหาหมออีกครั้ง เกิดอุปสรรค์คือหากุญแจบ้านไม่เจอคะทำให้ต้องออกจากบ้านสาย ดูเป็นคนไข้ที่แย่เนาะ มาหาหมอซะ10โมงเลย แต่ตอนเข้าคิวก็ดีนะคะบอกไปว่านิ้วล็อกเคยฉีดยามาแล้ว
พอมาถึงแผนกออร์โธยื่นคิวไป พยาบาลก็อ่านแฟ้มว่าเคยรักษา ครั้งนี่ส่งไปตรวจชั้น2เลยคะ
เพิ่งรู้นะว่ามีชั้น2ในตู้คอนเทนเนอร์ด้วย ระหว่างรอตรวจ เจอแต่ผู้สูงวัยรอบตัว หมอใส่แว่นทุกคน5555 พอถึงคิวเราตรวจเราไม่ได้เจอหมอคนเดิมเตรียมพูดกับหมอว่าขอผ่า แต่ก่อนหน้าเราหมอตรวจคุณยายคนนึงเหมือนจะไม่ส่งเสริมให้กินยาเพราะยาค่อนข้างจะแพง และพยายามอธิบายว่าเป็นเพราะความเสื่อม ณ เวลานั้นใจเราแป้วสุดๆเลยคิดว่าไม่ได้ผ่าหรอกพอได้ตรวจเราพยายามจะสื่อกับคุณหมอว่าเราอาการหนักจริง แต่สำหรับหมอจะคิดว่าหนักมั้ย เพราะเราหยุดงานมา2สัปดาห์ก่อนมาหาหมอ ไม่อยากให้ดูสภาพช้ำจนเกินไป แล้วก็ตามนั้นจริงๆหมอตรวจแล้วตรวจอีก เดินไปปรึกษาหมอคนอื่นๆ เค้าบอกว่ามันไม่ใหญ่แต่มันก็ไม่เล็ก ตอนนั้นเราแอบได้ยินคำว่าTendon a คืออะไร ไม่รู้จักไม่คุ้นหู และไม่อยากรู้ รู้แค่อยากผ่า หมอพาเราเดินไปมาแล้วกลับมากดที่ตุ่มนั้น ถามย้ำอีกครั้งว่าจะผ่าใช่มั้ย เราดีใจมากๆที่หมอเซ็นให้ผ่า คุณหมอบอกว่าผ่าตัดเล็กแผล2เซน ไม่ต้องนอนค้าง ขอขอบคุณ(คุณหมอปฤศนัย)ที่ตัดสินใจให้เราผ่า หมอก็จ่ายยากินยาทากลับบ้านมาด้วยความดีใจเตรียมขึ้นเขียงผ่า แต่อ่านใบนัดข้อปฏิบัติและข้อห้ามก่อนผ่าตัด เยอะจังนี่แค่ผ่ามือนะ
วันที่10มกราคม2556ได้รับการผ่าตัดเอาเยื่อหุ้มเอ็นอักเสบออก วันนี่ไม่ตื่นเต้นเลย ไม่กลัวด้วย เพราะหมอที่นี่เก่งเรามาพร้อมความมั่นใจและความเชื่อ ตอนแรกในความคิดของเรานั้นผ่าตัดเล็กคิดว่านั่งผ่า ที่ไหนได้ห้องผ่าตัดมาตรฐานเลยจ้า ใส่ชุดใส่ผ่าคลุมผม เห็นแค่ลูกตาคุณหมอ แต่ไม่กลัวอยู่ดี แต่เสียดายลึกๆเพราะเราอยากเห็นเอ็นนั้นมากๆ หน้าตามันเป็นยังไงนะทำไมแค่ตุ่มอันเล็กสร้างความเจ็บปวดและรำคาญใจเอาซะมาก ผ่าตัดไม่ถึง20นาทีแผล2เซนพันแผลอย่างกะเข้าเฝือกอ่อน ไม่เจ็บเลยชู2นิ้วอัพเดทให้เพื่อนดู หลังจากนั้นไม่เท่าไรหมดริดยาน้ำตาพรากเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็มาตามหมอนัดทุกครั้งจนกระทั่งตัดไหม ได้มาหาหมอเช้าแค่วันเดียวจริงคือวันผ่ากับนัดตัดไหม จะมีผู้ชายคนนึงมาพูดให้ความรู้ น้ำเสียงชวนฟัง ผู้ชายคนนั้นพูดให้ความรู้สารพัดดีมากทำให้คนไข้ที่นั่งรอพบคุณหมอไม่ตึงเครียด แต่เราจำได้และเห็นด้วยกับประโยคนี้ "เวลามาติดต่อคุณหมอต้องบอกชื่อให้ชัดเจน ถ้าบอกว่าหมอคนที่ใส่แว่นหล่อๆ คงหาไม่เจอ เพราะหมอออร์โธที่นี่ใส่แว่นและหล่อทุกคน" เราเห็นด้วยนะ ขอเพิ่มเติมหมอใสใจและแอกทีฟมากๆ ทำให้เราไม่รู้สึกกลัวเสียเวลาที่มาหาหมอ เพราะมาแล้วกลับไปเราดีขึ้นทุกครั้ง เราจำหมอทุกคนได้ถึงแม้แต่ละวีคที่ไปจะไม่เจอหมอคนเดิมตรวจ และเราก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะเจอคนเดิม เพราะสัมผัสได้เลยว่าหมอที่นี่ใส่ใจคนไข้ทุกคนจริงๆ หมอที่ผ่าเราถึงเราจะเห็นแค่ลูกกระตาเค้าในวันนั้นแค่ไม่กี่นาที แต่เราก็จำเค้าได้ เค้าคือผู้มีพระคุณที่ทำให้เราหายจากการเจ็บป่วย เราเข้าใจยายหรือผู้สูงวัยทั้งหลายว่าทำไมถึงยกมือไหว้คุณหมอ
ขอบคุณแพทย์ออร์โธปิดิกส์ รพ.เลิดสิน ได้รับการผ่าตัดเอาเยื่อหุ้มเอ็นอักเสบออก
ครั้งแรกที่มาหาหมอ ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร มาโรงพยาบาลนี้เป็นครั้งแรกวันที่22กุมภาพันธ์2555คะมากับคุณแม่เพราะตอนนั้นมีอาการชาที่มือมา กลัวว่าจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ก็วัดความดันกรอกประวัติผู้ป่วยใหม่ เจ้าหน้าที่ส่งดิฉันไปตู้8ประกันสังคมคะ
ก็ไปนั่งรอ คิวค่อนข้างเยอะ มีแต่ผู้ป่วยวัยกลางคนแต่ละคนก็สภาพแย่มาก
หันกลับมามองตัวเองคะ ที่มารักษาที่ รพ.นี้เพราะได้รับสิทธิ์ประกันสังคมจากการทำงานพาททามช่วงปิดเทอม ส่งเบี้ยเองบ้างเลยทำให้ขาดสิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองไปเลยคะ ก็ทำใจนั่งรอนะคะคิดไว้ในใจไม่บั่นทอนจิตใจตัวเองว่าเราเป็นไม่หนักเนาะ รอได้รอเถอะตัดสินใจจะมาแล้ว ดันไปติดพักเที่ยงคะ แต่ก็รอคะเห็นใจคุณแม่ที่สละเวลามาดูแล แล้วพอได้เข้าไปตรวจ เจอคุณหมอเป็นผู้ชายอายุเยอะแล้วแหละ เรายกมือไหว้คุณหมอ คุณหมอแทบจะไม่มองหน้าเลยคะ ถามนะว่าเป็นอะไรมา
เราก็เล่าว่าเราปวดที่บริเวณนิ้วเสียวและชาแปรบๆพยายามจะบอกอาการ ระหว่างนั่งรอครึ่งค่อนวันแทบจะคิดเป็นสคลิปมาพูดแบบละเอียด แต่คุณหมอตัดความอย่างไม่มีเยื้อใยเลยคะ มองที่แฟ้มประวัติไม่มองเราที่เป็นผู้ป่วย(ประกันสังคม)ถามแทรกมาเลยว่าไปทำงานอะไรมา เราตอบว่าไปคีย์ข้อมูลในช่วงเวลาปิดเทอมคะสั้นๆประมาณ3เดือน คุณหมอบอกว่าเรายังไม่แก่เลยยังไม่น่าจะเสื่อมหรอก เราก็แบบมือรอไว้เผื่อคุณหมอเค้าจะดู แต่ไม่เลยคะหยิบใบสั่งยามาเขียน ใช้เวลาไม่ถึง5นาทีเลย "นี่เรารอทั้งวันเพื่อมาให้เค้าพูดกับเราแค่นี้หรอ" หมอยาแถวบ้านยังรับฟังมากว่านี้อีก
บอกว่าน่าจะขาดวิตามินบีแหละ เดี๋ยวจ่ายวิตามินให้ไปทานละกัน
อารมณ์หงุดหงิดในใจเลยคะ เพราะตัวเองเป็นคนรักสุขภาพมากอยู่แล้วทานวิตามินไม่เคยขาดคะเพราะรู้ตัวว่าใช้สมองและร่างกายในการเรียนและทำงานมาก พักผ่อนน้อยกว่าผู้อื่น
ออกมาจากห้องตรวจ คุณแม่ถามเลยว่าเสร็จแล้วหรอคุณบอกว่าไงบ้าง เราเป็นอะไร หนูขำคะ แล้วบอกแม่ว่ากลับเหอะ5555 ไม่ต่างจากหมอตี๋แถวบ้านเลย แม่บอกให้ใจเย็นๆคะแล้วไปนั่งรอยาฟรีตามสิทธิ์ที่เสียค่าประกันสังคมไปทุกๆเดือน แล้วก็ตามคาดค่ะ
ได้มาแค่วิตามินบี เหน็บชา สามเหลี่ยมสีชมพู ยาเด็กๆกินอะคะ555แล้้วก็แก้ปวดนิดๆหน่อยๆ ยาแบบนี้ที่บ้านก็มีคะ อารมณ์วันนั้นเสียความรู้สึกมากๆนะคะ แต่ก็ไม่ได้ดูถูกวิชาชีพคุณหมอเค้า เค้าอาจจะให้ยาเป็นเสต็บไป
จนกระทั่งวันนึงปวดมือในเวลาตื่นนอนจนกำมือไม่ลงทั้งๆที่ทำงานน้อยลงเพราะเราเปิดเทอมแล้ว ทำแค่เสาร์อาทิตย์ ก็คิดว่าเวลาปวดแขนปวดขาเราก็ทายาบีบๆนวดๆไป พอดีแจ๊คพ็อทค่ะไปเจอตุ่มที่ฝ่ามือนิ้วที่เคยมีอาการชาและเสียว 5555 มันดิ้นเราก็บี้ใหญ่เลยคะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่ไม่ใช่หูดหรือตาปลาแน่นอน เพราะมันไม่ได้เกิดจากผิวหนังชั้นนอก ไม่ว่างที่จะหาข้อมูลด้วยซ้ำ เอาให้ใครต่อใครจับตุ่มนั้นต่างก็ทำสีหน้าเสียและซีดๆใส่ บอกว่าไปหาหมอเถอะ
ช่วงนั้น ยังเสียความรู้สึกฝังใจอยู่คะ เลยไม่คิดที่จะกลับมาหาหมออีก ตอนนั้นปิดเทอมใหญ่ กิจวัตรของคนที่อยู่ไม่นิ่งอย่างเรามันต้องไปหางานทำเงินอยู่แล้วคะแต่พอดีเจ็บมือพี่ที่ทำงานห่วงเรากลัวเราจะเป็นหนักก็ไม่อนุญาติให้กลับมาทำงานบอกให่้ไปรักษาให้หายก่อนแล้วค่อยมาทำใหม่นะ
สรุปปิดเทอมนั้นเสียโอกาสหาเงินไปเลย ตัดสินใจไปหาคุณยายที่ต่างจังหวัด คุณยายเป็นคนขี้โรคคะ ปวดขาเดินไม่ไหวต้องนั่งรถเข็นเป็นไตปวดปัสสาวะบ่อย ก็ปวดเมื่อยต้องเรียกหมอนวดมานวด ยายก็เลยถามหมอนวดเรื่องตุ่มที่ฝ่ามือเผื่อเราด้วย พอหมอนวดจับเค้าก็อ๋อแล้วบอกว่าเส้นพันกันที่ส่วนประสาทด้านหลังต้องนวดแก้มาจากหัวไหล่ เรายังไม่ทันตกลงเลยคะว่าจะนวด แล้วเกิดมาไม่เคยนวดแผนไทยเพราะกลัวเรื่องเส้นประสาทมากๆคะ ปวดเมื่อยอย่างมากก็ทายากินยา หมอนวดจับนวดครบสูตร ดึงเส้นข้างหลังแทบจะจิกเนื้อขึ้นมาบิดเลย ความรู้สึกตอนนั้นเจ็บปวด หู้อื้อและชาไปทั้งหลังและแขนน้ำตาไหลพราก แต่พอนวดเสร็จ20นาทีเองคะ แต่พอมาจับที่ฝ่ามือตุ่มหายไปเลยคะ เค้าไม่ได้มาบีบนวดที่บริเวณฝ่ามือเลยนะคะ แต่มันหายไปได้ไง หมอนวดพูดทิ้งท้ายไว้ว่าเข้าตำราหญิงซ้ายชายขวา ทำบุญบ้างนะหนู แพทย์แผนปัจจุบันคงมองเรื่องนี้เป็นเรื่องงมงายและไร้สาระ ดีใจมากโทรไปเล่าแบ่งปันกับเพื่อนเราที่เรียนสหเวช เค้ายังไม่เชื่อเลย นี่ยังไม่ได้เป็นหมอนะ5555 แต่ยังมีอาการปวดอยู่เหมือนเดิมเลยคะแค่ไม่มีตุ่ม เจ็บแต่คุ้ม
หลังจากนั้นกลับไปของานทำเหมือนเดิมคะบอกว่าไปรักษาวิธีนวดแต่ช่วงเปิดเทอมแล้วทำแค่เสาร์อาทิตย์ แต่ก็ละเลยไม่รู้ตัวเองจริงๆว่าเป็นอะไรกันแน่
แต่หลังจากนั้นเดือนกว่ามันก็โผล่มา พร้อมอาการกำมือไม่ลงในช่วงเช้าแล้วกำสบู่เจ็บฝ่ามือมากๆ ก็เลยตัดสินใจถามในกูเกิ้ลคะว่าอาการที่เกิดมันคืออะไร สรุปเราเป็นนิ้วล็อกคะ เห้ย!!! บีบีก็ไม่ได้เล่นนะ เราใช้โทรศัพท์ทัชสกรีน หรือเพราะคีย์งานก็ไม่น่าใช่เราคีย์ระยะเวลาสั้นๆเองนะ หรือตอนเด็กติดเกมออนไลน์มาก เวลาเล้นกีต้าร์โหมเล่นทั้งคืน คิดหาต้นเหตุสารพัดคะ เวลากลับไปหาหมอ จะได้บอกคุณหมอถูก จะได้รับการรักษาถูกวิธีกันสักที(สาธุ)
ตัดสินใจโทรไปหายายคะ อยากนวดอีก แต่โชคร้ายของเราจริงๆคะหมอนวดคนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว เห้อ..เราต้องกลับไปหาหมอจริงๆหรอเนี่ย แต่ใครๆเค้าก็ให้กำลังใจว่าหมอรพ.เลิดสิน เก่งที่สุดในเรื่องการรักษานิ้วล็อก
วันนึงอาหารเป็นพิษ ไปหาหมอคลินิกแถวบ้านคะ หมอไม่กระจอกนะคะไม่ใช่หมอตี๋ หมอคนนี้เก่งและใจดีคะ รักษาและผ่าตัดนิ่วให้คุณตาเราหาย เป็นหมอระดับรองผอ.รพ.ราชวิถี เลยขอถามหมอเพิ่มว่าไอ้ตุ่มดึ๋ยๆอันน่ารำคาญนี่มันรักษายังไงหาย หมอตอบภายในไม่ถึงนาทีว่าเยื่อหุ้มเอ็นอักเสบ ว่ามันก็ไม่เป็นพิษภัยอะไรหรอก แค่ปวดๆถ้ารำคาญก็ไปเอามันออก หมอที่เลิดสินเก่งนะ ไปหาสิ
จนวันมันล็อกจริงๆเลยคะระหว่างโหนรถเม เลยตามเลยมาสุดสาย ดวงจะต้องมาคะ จำได้ว่าประมาณเดือนมิถุนายน 2555
พอเข้าคิวไปเจ้าหน้าที่ถามว่าเป็นอะไรมา เราตอบได้เต็มปากแล้วว่า"นิ้วล็อกคะ"เค้าส่งเราไปออร์โธปิดิกส์
"ออร์โธปิดิกส์ คืออะไร นั่งรอตรวจเจอผู้สูงวัยทั้งนั้น"แต่ก็ไม่เหงาและหดหู่เหมือนคราวแรกที่มาตู้8นะคะ สภาพผู้ป่วยแต่ละคนหน้าตาแจ่มใส่คะมีแต่คนชวนคุยถามว่าเราเป็นอะไรมา เราก็บอกไปว่านิ้วหนูล็อกค่ะ ป้าๆทั้งหลายตกใจ บอกว่าอายุเรายังน้อยอยู่เลยนะ เป็นมานานยังลูก เราก็เท้าความหมอตู้8ให้ฟังเลยจ้า เจ็บฝังใจ แต่ที่จริงแล้วคุณหมอเค้าไม่ผิดนะ เราเองมากกว่าที่ไม่ใส่ใจสุขภาพของตัวเราเอง ขนาดเวลาเรียนเรายังอ่านล่วงหน้าก่อนไปเรียนเลย แต่เรื่องโรคภัยมันก็คาดเดาเองไม่ได้และอาการมันมาชัดเจนตอนมีตุ่มที่ฝ่ามือ พอได้เข้าตรวจในห้องตรวจจริง คุณหมอดูไม่แก่และแอกทีฟดีมีบุรุษพยาบาลคอยจัดคิว หมอก็ถามอาการโดยละเอียดพลิกแฟ้มประวัติดู(เอาแล้วจะเป็นเหมือนคุณหมอตู้8มั้ยน้อ) ไม่เลยคะ ถามอาการแรกเริ่มกิจวัตรประจำวัน จนถึงอาการปัจจุบัน จับตรงจุดที่มีเอ็นอักเสบ คุณหมอบอกว่ามีทางให้เลือกรักษา2วิธี คือทานยาแก้ปวดกับฉีดยา...หมอยังพูดไม่จบเลย เราสวนไปทันทีด้วยความดีใจว่าฉีดยาคะ หมอคงตกใจเนาะ คุณหมอก็เอาปากกามาร์คจุดที่จะฉีดยาไว้ แล้วเขียนใบสั่งยา เราติดพักเที่ยงอีกแล้ว ระหว่างนั่งรอก็แอบเปิดแฟ้มดู คุณหมอเขียนอาการและวาดรูปมือและตำแหน่งที่เราเป็น เราคิดว่าเราโชคดีมารักษาถูกทาง พอถึงเวลาที่จะต้องฉีดยาเราลืมถึงความเจ็บปวดเลยคะ คิดแค่ว่าหายแล้วๆๆๆ ฉีดยาsteroidไปก็เยอะอยู่นะ เล่นเอานิ้วพองและเขียวไปเลยหลายวัน คุณหมอบอกว่ามันไม่หายขาดนะแค่ระงับอาการปวด
แล้วหมอก็เขียนใบนัดคะ ทำให้วันนั้นเราได้รู้จักชื่อคุณหมอ(ตุลพงษ์) หลังจากวันนั้นไป1สัปดาห์คะ จำได้ว่าวันพุธก็มาตามนัด อาการดีขึ้นไม่ปวดใช้งานได้ปกติ เราถามหมอเพิ่มอีกว่าเราปวดข้อเท้าเพราะใส่รองเท้าส้นสูง คุณหมอแนะนำวิธีการยืดกล้ามเนื้อ แล้วก็จ่ายยาแก้ปวดและเจลทาระงับปวด แล้วหมอไม่นัดอีกแล้วนะ (ดีใจสุดๆ)
หลังจากนั้นไปเป็นช่วงปิดเทอมเล็กคะ ก็ไปคีย์ข้อมูลเหมือนเดิม สารภาพเลยคะว่าหักโหมสุดๆ เพราะคิดว่ายังไงเราหนีไม่พ้นไอโรคนิ้วล็อกปั่นเงินไว้เลยดีกว่า อยู่เต็มที่3เดือนเองคะ
อาการปวดกำเริบ คราวนี้น้ำตาตกเลยปวดไปถึงข้อศอกและรู้สึกกล้ามเนื้ออ่อนแรง เวลากดคอร์คกีต้านิ้วงอไม่เป็นรูปเลยคะ งวดนี้รักตัวเองดีกว่า ตัดสินใจออกจากงาน เพื่อมารักษา เงินสำคัญที่สุดแต่เงินไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต
ถ้าเรายอมรักษาให้หายจริงจัง เราจะได้ใช้ชีวิตปกติ ได้ทำในสิ่งที่เรารักที่เล่นกีต้าร์ ถึงวัยที่จะทำงานเราค่อยกลับมาทำ
ครั้งนี้ตั้งใจจะขอผ่าตัด คือใจอยากหายขาด แต่ลืมนึกว่าผ่าตัดมันเสี่ยงนะแต่เราเชื่อมั่นในออร์โธเลิดสินมากๆ อ่านกี่เว็บบอร์ดใครๆก็หายขาดจากจากผ่าตัด แต่ก็เกิดความขัดแย้งกันในครอบครัวนะคะ คุณพ่อก็เป็นนิ้วล็อกเป็นทั้ง2มือแล้วมากว่า1นิ้ว แต่พ่อเค้าเป็นด้วยวัยหรือความเสื่อมหรือพ่อกลัวหมอ!!เราก็กลัวนะคะแต่กลัวว่าเวลามาหาหมอมันทำให้เสียเวลา ขาดเรียนขาดงาน แต่เรามารักษาฟรีได้สุขภาพที่ดีกลับไป แลกแล้วคุ้มที่จะเสีย
18ธันวาคม2555 ขอร้องให้คุณแม่พามาหาหมออีกครั้ง เกิดอุปสรรค์คือหากุญแจบ้านไม่เจอคะทำให้ต้องออกจากบ้านสาย ดูเป็นคนไข้ที่แย่เนาะ มาหาหมอซะ10โมงเลย แต่ตอนเข้าคิวก็ดีนะคะบอกไปว่านิ้วล็อกเคยฉีดยามาแล้ว
พอมาถึงแผนกออร์โธยื่นคิวไป พยาบาลก็อ่านแฟ้มว่าเคยรักษา ครั้งนี่ส่งไปตรวจชั้น2เลยคะ
เพิ่งรู้นะว่ามีชั้น2ในตู้คอนเทนเนอร์ด้วย ระหว่างรอตรวจ เจอแต่ผู้สูงวัยรอบตัว หมอใส่แว่นทุกคน5555 พอถึงคิวเราตรวจเราไม่ได้เจอหมอคนเดิมเตรียมพูดกับหมอว่าขอผ่า แต่ก่อนหน้าเราหมอตรวจคุณยายคนนึงเหมือนจะไม่ส่งเสริมให้กินยาเพราะยาค่อนข้างจะแพง และพยายามอธิบายว่าเป็นเพราะความเสื่อม ณ เวลานั้นใจเราแป้วสุดๆเลยคิดว่าไม่ได้ผ่าหรอกพอได้ตรวจเราพยายามจะสื่อกับคุณหมอว่าเราอาการหนักจริง แต่สำหรับหมอจะคิดว่าหนักมั้ย เพราะเราหยุดงานมา2สัปดาห์ก่อนมาหาหมอ ไม่อยากให้ดูสภาพช้ำจนเกินไป แล้วก็ตามนั้นจริงๆหมอตรวจแล้วตรวจอีก เดินไปปรึกษาหมอคนอื่นๆ เค้าบอกว่ามันไม่ใหญ่แต่มันก็ไม่เล็ก ตอนนั้นเราแอบได้ยินคำว่าTendon a คืออะไร ไม่รู้จักไม่คุ้นหู และไม่อยากรู้ รู้แค่อยากผ่า หมอพาเราเดินไปมาแล้วกลับมากดที่ตุ่มนั้น ถามย้ำอีกครั้งว่าจะผ่าใช่มั้ย เราดีใจมากๆที่หมอเซ็นให้ผ่า คุณหมอบอกว่าผ่าตัดเล็กแผล2เซน ไม่ต้องนอนค้าง ขอขอบคุณ(คุณหมอปฤศนัย)ที่ตัดสินใจให้เราผ่า หมอก็จ่ายยากินยาทากลับบ้านมาด้วยความดีใจเตรียมขึ้นเขียงผ่า แต่อ่านใบนัดข้อปฏิบัติและข้อห้ามก่อนผ่าตัด เยอะจังนี่แค่ผ่ามือนะ
วันที่10มกราคม2556ได้รับการผ่าตัดเอาเยื่อหุ้มเอ็นอักเสบออก วันนี่ไม่ตื่นเต้นเลย ไม่กลัวด้วย เพราะหมอที่นี่เก่งเรามาพร้อมความมั่นใจและความเชื่อ ตอนแรกในความคิดของเรานั้นผ่าตัดเล็กคิดว่านั่งผ่า ที่ไหนได้ห้องผ่าตัดมาตรฐานเลยจ้า ใส่ชุดใส่ผ่าคลุมผม เห็นแค่ลูกตาคุณหมอ แต่ไม่กลัวอยู่ดี แต่เสียดายลึกๆเพราะเราอยากเห็นเอ็นนั้นมากๆ หน้าตามันเป็นยังไงนะทำไมแค่ตุ่มอันเล็กสร้างความเจ็บปวดและรำคาญใจเอาซะมาก ผ่าตัดไม่ถึง20นาทีแผล2เซนพันแผลอย่างกะเข้าเฝือกอ่อน ไม่เจ็บเลยชู2นิ้วอัพเดทให้เพื่อนดู หลังจากนั้นไม่เท่าไรหมดริดยาน้ำตาพรากเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็มาตามหมอนัดทุกครั้งจนกระทั่งตัดไหม ได้มาหาหมอเช้าแค่วันเดียวจริงคือวันผ่ากับนัดตัดไหม จะมีผู้ชายคนนึงมาพูดให้ความรู้ น้ำเสียงชวนฟัง ผู้ชายคนนั้นพูดให้ความรู้สารพัดดีมากทำให้คนไข้ที่นั่งรอพบคุณหมอไม่ตึงเครียด แต่เราจำได้และเห็นด้วยกับประโยคนี้ "เวลามาติดต่อคุณหมอต้องบอกชื่อให้ชัดเจน ถ้าบอกว่าหมอคนที่ใส่แว่นหล่อๆ คงหาไม่เจอ เพราะหมอออร์โธที่นี่ใส่แว่นและหล่อทุกคน" เราเห็นด้วยนะ ขอเพิ่มเติมหมอใสใจและแอกทีฟมากๆ ทำให้เราไม่รู้สึกกลัวเสียเวลาที่มาหาหมอ เพราะมาแล้วกลับไปเราดีขึ้นทุกครั้ง เราจำหมอทุกคนได้ถึงแม้แต่ละวีคที่ไปจะไม่เจอหมอคนเดิมตรวจ และเราก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะเจอคนเดิม เพราะสัมผัสได้เลยว่าหมอที่นี่ใส่ใจคนไข้ทุกคนจริงๆ หมอที่ผ่าเราถึงเราจะเห็นแค่ลูกกระตาเค้าในวันนั้นแค่ไม่กี่นาที แต่เราก็จำเค้าได้ เค้าคือผู้มีพระคุณที่ทำให้เราหายจากการเจ็บป่วย เราเข้าใจยายหรือผู้สูงวัยทั้งหลายว่าทำไมถึงยกมือไหว้คุณหมอ