เห็นเค้าดราม่าเรื่องบิณฑ์ พระ โรงบาลอะไรกันไม่รู้ แบบว่าอยากมีส่วนร่วมค่ะ ขอเล่าหน่อย

ต้องแท็กห้องไหนก็ไม่รู้ใครทราบแจ้งทีนะคะ

+++พยายามคัดเนื้อๆแล้วค่ะ+++

มาเล่าเรื่องโรงบาลบ้าง

วันที่ 7 มกราคม 2555 10.00 น.
แม่ไลน์มาหาว่าป๋าอยู่ ER โรงบาลมหาราช(โคราช) ไม่ทันถามอาการอะไรเราก็รีบไปโรงบาลเลย
ไปถึงสอบถามได้ความว่า ตอน9โมงป๋าไปทำงานแล้วเกิดอาการข้างขวาไม่มีแรง ขยับไม่ได้พูดไม่ได้
เพื่อนในห้องเห็นเหมือนจะล้มเลยไปอุ้มแล้วแบกลงมา (ซึ่งตอนอุ้มลงมาผ่านหน้า ผู้ว่าฯ (ป๋าเป็นหัวหน้าท้องถิ่นจังหวัด))
ผู้ว่าเห็นก็ตกใจรีบบอกให้พาไปโรงบาลทันที

มาถึงโรงบาลอาการของพ่อหายเป็นปกติ ขยับได้ พูดได้ หมอให้อยู่ดูอาการในห้อง observeอยู่ใน ห้อง ER
ผ่านไปสองชั่วโมง มีผู้ช่วยพยาบาลมาบอกว่าต้องแอดมิทนะ แต่อาการนี้ไม่ให้อยู่ห้องพิเศษ เพราะต้องอยู่ใกล้หมอ พวกเราก็โอเค
ผู้ช่วยพยาบาลหายไปประมาณชั่วโมงนึง เข็นเตียงมารับ พร้อมกับบอกว่า ได้ห้องแล้ว ตึกไฟฟ้าชั้น9 ห้อง 9..(ลืม -*-)
พวกเราก็งงๆ ว่าไหนอยู่พิเศษไม่ได้ฟระ แต่ก็ไม่ได้ท้วงอะไร อยู่พิเศษก็ดีเหมือนกัน แม่จะได้เฝ้า
(สรุปพ่อเรามีอาการความดันสูง และเส้นเลือดในสมองตีบ)
ขึ้นห้องไป พยาบาลมาให้ยา diazepam กับ paraฯ คืนแรกผ่านไปด้วยดี

วันที่ 8 มกราคม 2556 10.00น.
มีหมอเข้ามาในห้อง (นามสมมุติแล้วกันนะ) หมอจุรีเปิดประตูเข้ามาแล้วตะคอกเสียงดังว่า
"กล้าดียังไงขึ้นมาอยู่ชั้นนี้ รู้รึเปล่ามีเนื้อสมองตาย ยังไม่เจียมตัวอีกนะ ถ้ามาตายบนนี้จะทำยังไง
เส้นใหญ่นักหรอ เส้น ผอ. โรงบาล เส้นผู้ว่า ถึงได้ขึ้นมา ชั้นไม่อยู่เฉยๆนะ ถึงได้มาอยู่บนนี้ ถ้าชั้นอยู่ไม่มีทางเลย"
พูดจบชีก็เดินออกไป ทิ้งให้ พวกเราและ เพื่อนที่ทำงานพ่อนั่งงงเป็นไก่ตาแตก
พอสติสตังกลับคืนมาพ่อก็เลยถามแม่ว่า"เส้นใคร เธอใช้เส้นใครมารึเปล่า" เพื่อนพ่อเลยบอกว่า "ไม่ใช่คุณนายครับ ท่านผู้ว่าเป็นคนจัดการ"
เพื่อนพ่อเลยบอกต่อว่า "หัวหน้่า ขนาดว่าเราเป็นข้าราชการแท้ๆ หมอยังจิกหัวด่าขนาดนี้ ตาสีตาสาจะเป็นยังไงเนอะ"
พูดจบชี(หมอจุรี--นามสมมุติ)ก็เข้ามาอีก คราวนี้มาชุดใหญ่เลย ระหว่างที่ชีพ่นไฟอยู่ ลูกน้องพ่ออีกสิบกว่าคนเข้ามาพอดี ทุกคนก็อึ้ง พูดไม่ออก
แล้วชีก็สเต็ปเดิม ด่าๆๆๆ แล้วสะบัดตูดหนี ทิ้งให้คนในห้องเอ๋อแดร๊กกันไป
พอได้สติ ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าให้ย้ายออกจากโรงบาลนี้ซะ แล้วทำเรื่องร้องเรียนหมอจุรี(--นามสมมุติ)นี่เลยด้วย

8 มกราคม 2556 13.00 น.
หลังจากทำเรื่องย้ายออก+ จ่ายค่าห้องส่วนเกิน (ใช้สิทธิข้าราชการ) เรียบร้อยแล้ว กำลังเก็บของย้ายอยู่ก็มีหมอเข้ามาหา
ขอเรียกหมอคนนี้ว่า หมอสุระ1 นะ
หมอสุระ1 ก็เข้ามาถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม่เราก็เล่าให้ฟังจนจบ หมอก็บอกว่าหมอเข้าใจดีว่าคนไข้กับญาติไม่ได้อยากใช้เส้นสายอะไร
แต่เป็นธรรมดาของหัวหน้าที่เห็นลูกน้องป่วยต่อหน้าต่อตา ก็อยากจะช่วยเหลือ แต่คนอื่นไม่เข้าใจเหมือนหมอ ให้ช่างเค้า หมอจะเป็นคนดูแลเอง
แล้วหมอสุระ1 ก็คุยดีมากจนพ่อเรายอมอยู่ต่อ

11 มกราคม 2556 11.00น.
หมอให้กลับบ้านได้ ได้ยาลดความดัน (หมอว่างั้น) diazepam กะ พารามา

12 มกราคม 2556 00.00น.
พ่อเราหมดสติ มีอาการชักเกร็ง เรียกไม่รู้สึกตัว เราโทรตามรถพยาบาล 1669 มารับที่บ้าน
ไม่ถึง 10 นาที รถพยาบาลมาที่บ้าน เจ้าหน้าที่ที่มากับรถถามว่าจะไปโรงบาลไหน พร้อมกับบอกว่าเค้ามาจากโรงบาลกรุงเทพ
เราจึงบอกไปว่าพ่อเพิ่งออกจากโรงบาลมาวันนี้ มาจากมหาราช เราว่าควรไปมหาราช เค้ามีประวัติแล้ว
10 นาทีต่อมา รถไปถึงเข้าห้องฉุกเฉิน
ประมาณเที่ยงคืนครึ่งพยาบาลเข็นพ่อไป x-ray ตอนเข็นออกมามีเลือดไหลพุ่งออกจากปากพ่อเยอะมาก จนกระเด็นไปถูกพยาบาลเลย

เวลา 01.30 น. หมอ(รู้ตอนหลังว่าเป็นหมอฝึกหัด) แจ้งว่า พ่อเส้นเลือดในสมองแตก แตกบริเวณก้านสมอง ขนาด 3*3 cm ลึกลงไปอีก7 cm
หมอบอกแม่เราว่าให้ทำใจ แล้วตามญาติมาเลย ทำอะไรไม่ได้แล้ว....

หลังจากนั้นหมอส่งพ่อเราขึ้นไปนอนบนตึก ไม่ใส่เครื่องมืออะไรเลย ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพ่อเราหัวใจยังเต้นอยู่มั๊ย หายใจอยู่มั๊ย
--เหมือนส่งขึ้นไปรอเวลาจากไปเท่านั้นเอง--

12 มกราคม 2556 07.00น.
ด้วยความโชคดีอันสูงสุด เจ้านายเก่าแม่เรา(ตอนนี้เป็นที่ปรึกษา รมต สา'สุข มั๊ง)โทรมาถามอาการพ่อ แม่เล่าทุกอย่างให้ฟัง
หมอแหยงเลยแนะนำให้รู้จักกับหมอสุระ(2) เป็นหมอศัลยกรรมสมอง เก่งมาก แต่อยู่โรงบาลกรุงเทพนะ ค่าใช้จ่ายสูง ลองดูมั๊ย
บ้านเราเป็นข้าราชการทั้งบ้าน ไม่ได้ร่ำรวยอู่ฟู่ แต่คิดไปเองว่า อาจจะเบิกค่่ารักษาได้บ้าง นิดหน่อยก็ยังดี เลยตัดสินใจไปผ่าตัดที่โรงบาลกรุงเทพ-ราชสีมา
หมอสุระ2 เก่งมาก จากที่พ่อเราไม่มีเปอเซนต์รอดแล้ว ตอนนี้พ่อ ขยับแขนขาได้แล้ว ลืมตาได้บ้างแล้ว รับอาหารสายยางได้ดี ขับถ่ายดี


เราหมดค่ารักษาไปสองล้านกว่าบาท เบิกไม่ได้ซักบาท

((***เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าถ้าเราให้รถพยาบาลพาเข้าโรงบาลกรุงเทพเลยถึงจะเบิกได้ refer มาแบบนี้เบิกไม่ได้***))
((สิทธิข้าราชการทั้งหลายศึกษาให้ดีก่อนป่วยนะ))


บางคนอาจสงสัยว่าเงินสองล้านกว่าคุ้มมั๊ย เพราะพ่อเราก็ยังไม่รู้สึกตัว แต่เราว่าถ้าใครมาเจอก็คงจะทำแบบครอบครัวเราเหมือนกัน

--**เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า**--

1. ทำประกันเถอะจ๊ะ จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน 5555
2. หมอรัฐบาลดีๆ ก็มี (เลวๆก็มีนะเคอะ)
3. เป็นข้าราชการไม่ได้สวัสดิการดีนะจ๊ะ อย่าเข้าใจผิด(เหมือนตรู)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่