คนโสด: ความเป็นธรรมด้านสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลที่ไม่ควรถูกมองข้าม

ข้าราชการที่เป็นโสด ไม่ได้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาให้กับบุตรธิดาและคู่สมรส
แต่คนกลุ่มนี้ ถูกจัดอยู่ในโมเดลการเบิกจ่ายแบบสังคมยุคเดิม
ในยุคที่การมีครอบครัว เป็นกระแสหลัก
ทั้งที่สภาพสังคมเปลี่ยนไป วิถีชีวิตมีทางเลือกหลายรูปแบบ
ปัจจุบัน คนไทยในวัยเจริญพันธุ์ 15-49 ปี มีคนโสดถึง 40%
ด้วยค่านิยมที่เปลี่ยนแปลง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
มีแรงงานข้ามชาติ เข้ามาทดแทนอัตราการเกิดของคนไทยซึ่งลดลง

ดังนั้น การจัดระบบประกันสังคม และสวัสดิการราชการ
ควรสะท้อนความจริงใหม่นี้ นั่นคือ  สิทธิคนโสด
ควรเป็นประเด็นที่นำมาพูดถึงว่า การจัดสรรผลประโยชน์เป็นธรรมกับคนกลุ่มนี้เพียงใด

ล่าสุด ระบบราชการลดสิทธิเบิกค่ายาที่จำเป็นสำหรับโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง เบาหวาน  เหมือนกันทุกคน
ทั้งที่บางคนใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลให้อีกหลายคนในครอบครัว
คนโสด น่าจะได้รับสิทธิการเบิกจ่ายเป็นพิเศษสัก 1 ข้อ
ไม่ต่างจากบางข้อที่เขียนขึ้นเพื่อให้สิทธิ์กับผู้มีคู่สมรสและบุตรธิดา

การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล อาจแบ่งได้ 3 ประเภท
1. เบิกให้ตัวเองคนเดียว
2. เบิกให้พ่อแม่ คู่สมรส บุตร รวมตนเอง ดูแล 2-3 คน
3. เบิกให้พ่อแม่ คู่สมรส บุตร ธิดา และตนเอง รวม 3 คนขึ้นไป
จะเห็นได้ว่า มีมูลค่าการสนับสนุนต่างกัน ต่อคนทำงานให้รัฐ  1 คน

การดูแลบุคลากรภาครัฐ อาจแก้ไขเรื่องไม่ลิดรอนค่ายาคุณภาพอย่างที่เคยได้
หากทบทวนลดการใช้งบประมาณที่ไม่เกิดประโยชน์ หรือไม่จำเป็น
เพราะการดูแลราชการให้ได้รับการรักษาที่ดี  เป็นสิ่งที่มีมาช้านานในสังคมไทย
เพื่อให้ข้าราชการปลอดความกังวล ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่  

สำหรับคนโสด รัฐและกองทุนด้านสุขภาพ ดูแลเขาคนเดียว จึงควรดูแลให้เต็มที่
เพราะคนเหล่านี้ ไม่ได้เบิกงบประมาณเพื่อดูแลบุคคลอื่นเลบ และคนกลุ่มนี้มีอยู่ไม่น้อย

สิ่งเหล่านี้อาจเป็นมุมมอง/ความเห็น ที่ยังไม่ครบถ้วน รอบด้าน หรือ ไม่ถูกต้องทั้งหมด
ใครทราบข้อเท็จจริง หรือ มีมุมมอง/ข้อเสนอแนะ เพิ่มเติม ลองนำมาแชร์กัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่