เงินกู้ 2 ล้านล้าน...แม่ลูกจันทร์เชียร์ไปแล้วเรื่องนี้ ลมเปลี่ยนทิศก็ยังเปลี่ยนทิศมาเชียร์เห็นดีเห็นงามตามไปด้วยอีกแน่ะ

กระทู้สนทนา
เงินกู้ 2 ล้านล้าน

วันนี้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรัฐมนตรีคลัง จะนำ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เข้าสู่การพิจารณาของสภา ท่ามกลางเสียงค้านว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายหลายฉบับ รวมทั้ง ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ด้วย

ก็ไม่รู้ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ของ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กับ พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท และ พ.ร.บ.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท ของ รัฐบาลประชาธิปัตย์ แบบไหนจะผิดกฎหมายมากกว่ากัน

แต่ในความเห็นผม เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่มีโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานประเทศชัดเจน ผมก็คิดอย่าง เติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำจีนผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ปฏิรูปประเทศจีนด้วยนโยบาย 4 ทันสมัย เปลี่ยนประเทศจีนจากคอมมิวนิสต์ที่ล้าหลังเป็นประเทศทุนนิยมคอมมิวนิสต์ที่เจริญก้าวหน้า จนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่สิบปี คือ “ไม่ว่าจะเป็นแมวดำ หรือแมวขาว ก็ไม่เป็นไร ขอให้จับหนูได้ก็แล้วกัน”

เรื่องงบประมาณพัฒนาประเทศก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะ งบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ว่าจะอยู่ในงบประมาณไหนก็ตาม จะอยู่ใน “งบประมาณปกติ”  หรืออยู่ใน “งบประมาณพิเศษ”  ผมก็ไม่เกี่ยง ขอให้ “มีเป้าหมายการลงทุนชัดเจน” ใช้เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่กำหนดไว้เท่านั้น ไม่ถูกบิดเบือนนำเงินไปใช้ในโครงการอื่น ก็เป็นอันบรรลุวัตถุประสงค์ใช้ได้

ส่วนเรื่อง การใช้หนี้เงินกู้ ที่มีการกำหนดไว้ว่า จะใช้หนี้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ให้หมดภายใน 50 ปี ก็มีเสียงค่อนขอดกันมากมาย เป็นการสร้างหนี้ให้ลูกหลานแบกหนี้ไปอีก 50 ปี

เรื่องการใช้หนี้นานถึง 50 ปี สมัยก่อนอาจเป็นเรื่องน่าตกใจ ใช้หนี้กันถึงสองชั่วคน แต่สมัยนี้เรื่องการใช้หนี้ 50 ปี ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ แม้แต่ “การผ่อนสินเชื่อบ้าน” เดี๋ยวนี้ ธนาคารพาณิชย์ก็ให้ผ่อนกัน 30-50 ปีแล้ว แถมยังให้ผ่อนกันเป็นครอบครัว พ่อแม่ตายก่อน ลูกหลานพี่น้องก็ผ่อนต่อได้ เพราะ สาระสำคัญ อยู่ที่ “เงินผ่อน” ไม่ใช่นานกี่ปี

เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ถ้าทุกโครงการก่อสร้างเป็นไปตามแผน ผมเชื่อว่ารัฐบาลจะผ่อนได้หมดก่อนกำหนด 50 ปีด้วยซ้ำ เพราะเป็นโครงการที่ดีทั้งนั้น

สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะต้องจับตาดูใน เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ก็คือ โครงการลงทุนต่างๆที่แนบท้าย ซึ่งสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐานประเทศในอนาคต เช่น ระบบรถไฟรางคู่ ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเมือง รถไฟความเร็วสูงเชื่อมเมืองเชื่อมประเทศ วิ่งจาก คุนหมิง ผ่านลาว ไทย มาเลเซีย สิ้นสุดที่สิงคโปร์ ถนนมอเตอร์เวย์ เชื่อมเมือง ท่าเรือใหม่ ที่ช่วยขยายส่งสินค้า ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้คือ “แก่น” ซึ่งสำคัญกว่าชื่อกฎหมายที่เป็น “กระพี้” เยอะ


พรรคฝ่ายค้านเองก็ยอมรับ โครงการเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น ที่ไทยต้องเร่งลงทุน เพราะไทยล้าหลังมาก โครงการ 2 ล้านล้านบาทนี้ ถ้าจัดสรรในงบปกติ ซึ่งมีงบลงทุนได้ไม่เกิน 20% ของงบทั้งหมด ไม่รู้อีกกี่ชาติประเทศไทยจึงจะได้ลงทุน การออกกฎหมายเพื่อลงทุนในโครงการพิเศษเหล่านี้โดยเฉพาะ ผมจึงเห็นด้วย เหมือน “แมวขาว-แมวดำ” ของ เติ้ง เสี่ยวผิง นั่นแหละ

จงให้ความสำคัญที่ “แก่น” อย่าไปให้ความสำคัญที่ “กระพี้”

สิ่งที่ ฝ่ายค้านต้องทำ คือ การควบคุม และ ตรวจสอบ ทุกโครงการให้เข้มงวด เช่น ออกแบบเหมาะสมหรือไม่ ประมูลแพงเกินไปหรือไม่ มีการทุจริตคอรัปชันหรือไม่ ระบบรถไฟและขบวนรถไฟที่ซื้อใหม่ทันสมัยหรือไม่ อย่าให้แย่เหมือนรถแอร์พอร์ตล้ิงค์ ก่อสร้างเสร็จตามกำหนดหรือไม่ ไม่ใช่ต่ออายุแล้วต่ออายุอีกเพิ่มเงินให้เรื่อยๆเหมือนแอร์พอร์ตลิ้งค์ในอดีต ขออย่าแค่อภิปรายจบในสภา แล้วก็ทิ้งขว้างไม่สนใจ.


“ลม เปลี่ยนทิศ”

ไทยรัฐออนไลน์ 28 มีนาคม 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/335120

                              ??????????????????????????????????????


".....เป็นโครงการที่ดีทั้งนั้น...."

".....โครงการ 2 ล้านล้านบาทนี้ ถ้าจัดสรรในงบปกติ ซึ่งมีงบลงทุนได้ไม่เกิน 20% ของงบทั้งหมด
ไม่รู้อีกกี่ชาติประเทศไทยจึงจะได้ลงทุน
....."

".......จงให้ความสำคัญที่ “แก่น” อย่าไปให้ความสำคัญที่ “กระพี้”......"


ชัดเจนแล้วครับ
ถูกต้องตามน้้นแล้วครับ
ไม่สงสัยแล้วครับ......

ขอบคุณที่เปลี่ยนทิศมาเชียร์โครงการนี้ของรํฐบาลเพื่อประเทศชาติโดยรวมด้วยเหตุด้วยผลด้วยข้อมูลล้วนๆ
ผิดก็ว่าผิด....ถูกก็ว่าถูก....

ต้องอย่างนี้บ้างสิสื่อที่อยากทำตัวเป็นกลางและมีจรรยาบรรณจริง
แบบนี้รักไทยรัฐตายเลย....จุ๊บ...จุ๊บ....อิอิ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่