ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร
เพื่ออภิปรายถกเถียงกันในวันที่ 28-29 มีนาคมนี้
ยกประเด็นเรื่องความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของผู้คนออกไปก่อน
ลำพังเฉพาะผลทางการเมืองที่จะมีต่อพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านก็มหาศาลหนักหนาแล้ว
หากพรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะ "เปลี่ยนโฉม"
ประเทศไทยในทศวรรษหน้าให้เกิดขึ้นได้
ย่อมหมายถึงโอกาสที่จะได้รับคะแนนนิยมอย่างล้นหลามในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป
อันเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ปรารถนาและไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
การพลิกทุกตารางนิ้วของโครงการและตรวจสอบจับผิดทุกตัวอักษร
คือภารกิจหลักของประชาธิปัตย์ในวันนี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่าขณะนี้มี ส.ส.ฝ่ายค้านแสดง
ความจำนงจะอภิปรายร่างกฎหมายแล้วกว่า 70 คน เป็นพรรคประชาธิปัตย์ 60 คน
ประเด็นการอภิปรายจะครอบคลุม 3 ประเด็นหลัก คือ
1.การก่อหนี้และภาระหนี้ต่อประเทศและประชาชน
2.โครงการเหมาะสมตอบสนองปัญหาของประเทศหรือไม่
3.ความโปร่งใส เพราะที่ผ่านมาการบริหาร 1 ปีเศษของรัฐบาลจะมีการทุจริตเกือบ
ทุกโครงการ เช่น งบประมาณแก้ปัญหาน้ำ 1.2 แสนล้านบาท และโครงการจำนำข้าว
และขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล
ชี้แจงการกู้เงินดังกล่าวด้วยตัวเอง นายกฯควรตอบได้ทุกประเด็น เพราะเป็นกฎหมาย
กู้เงินที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์
ร่างพระราชบัญญัตินี้มีความสำคัญเพราะสร้างภาระหนี้มหาศาลคือเงินต้น 2 ล้านล้าน
แต่ดอกเบี้ย 3 ล้านล้าน เป็นภาระรัฐบาลอย่างน้อย 12 รัฐบาล และเป็นภาระประเทศ
ถึง 50 ปี ในขณะที่รัฐบาลอยู่ได้อีกแค่ 2 ปีครึ่ง
หรือหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เจอมรสุมทางการเมือง
กู้เสร็จก็ไป แล้วทิ้งภาระให้รัฐบาลต่อไป
ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก "Yingluck Shinawatra" และเว็บไซต์รัฐบาลไทย
http://www.thaigov.go.th ขึ้นข้อความชี้แจง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท
จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อความว่า การลงทุน
โครงสร้าง 2 ล้านล้าน นั้น
1) เป็นการพัฒนาเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศซึ่ง
ขาดการลงทุนโครงการใหญ่มานาน จนประเทศอื่นพัฒนาไปกว่าเรามาก
2) เป็นการเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านอาเซียนแนวคิดภายใต้กรอบ Connectivity นำไปสู่
โอกาสในการสร้างรายได้ของคนไทย และการใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนสู่อาเซียน
3) ประเทศไทยขาดการเชื่อมต่อเส้นทางทั้งบก-น้ำ จากต้นทางแหล่งวัตถุดิบผ่าน
แหล่งอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกลางน้ำ ไปยังปลายน้ำก็คือการส่งออก เพื่อลดต้นทุน
ในการขนส่งและลดต้นทุนในการสูญเสีย
4) เชื่อมเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน
กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์
5) ให้คนมีทางเลือก เช่น เดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง เพื่อลดค่าใช้จ่ายเพิ่มปลอดภัย
ทำให้ชนบทเจริญขึ้นก็คือรายได้ของประเทศเพิ่มขึ้น ควบคู่กับคุณภาพชีวิตที่สะดวก ลด
ค่าใช้จ่าย และความแออัด
6) ตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นผลลัพธ์ที่เห็นเป็นรูปธรรมคือค่าขนส่งที่ลดลง 2% GDP
เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 1% ต่อปี
และการจ้างงานประมาณ 500,000 อัตรา
ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและ รมว.คลัง อธิบายในแง่การเงินว่า
เหตุที่ไม่ใช้เงินในงบประมาณปกติ เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี แสดงรายจ่ายปีเดียว
ที่เหลือเป็นงบผูกพัน ซึ่งผูกมาแค่บางปี บางปีไม่มา และไม่ใช่โครงการเดียว
ปัญหาระดับหนี้สาธารณะที่คนเป็นห่วง ต้องดูว่าประเทศต่างๆ ที่กำลังเผชิญปัญหาส่วนใหญ่
เป็นหนี้ต่างประเทศ แต่ประเทศไทยวันนี้หนี้สาธารณะอยู่ที่ 43% ของจีดีพี ยังหักได้อีก
8.5% ที่เป็นหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ
และใน 43% นี้เป็นหนี้ต่างประเทศแค่ 3%
"การลงทุนต่อเนื่องจะทำให้เศรษฐกิจต่อเนื่อง แต่วันหนึ่งมีเหตุการณ์ฟ้าถล่มทลาย
เกิดสงคราม คุณก็หยุด
"สร้างถึงไหนก็หยุดเท่านั้น ไม่ใช่ว่าต้องทำ"
ติดตามรับชมบทบาท ลีลา วาทะ ของแต่ละท่านเหล่านี้ในสภาได้โดยพลัน
รับและแยกแยะตามเชื่อ เพื่อเลือกพิจารณา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364440881&grpid=01&catid=&subcatid=
นักแปะข่าว ...ก็จะเอาข่าว..เอาคคห.ของสื่อมาให้เพื่อนๆ อ่านกัน ก็เราเห็นแค่บอกว่า
เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย เสริมไปนิดเดียว ดีกว่ามาปั้นเคาะพิมพ์เอง ทั้งกระทู้ที่บางที
ก็เฉิ่ม ...บางทีก็เชย เพราะรู้จักประมาณตน ใครจะวิจารณ์ยังไง ก็ "ช่างมันฉันไม่แคร์"
ดู Wake up Thailand เมื่อเช้า ...ช่อง Voice TV เขาท้าทายว่า ถ้าพ.ร.บ.เงินกู้วันนี้ไม่ผ่าน
รัฐบาล ยุบสภา...แล้วหาเสียงเลือกตั้งใหม่ บอกเลย นโยบาย เพื่อไทย
คือกู้เงิน ทำรถไฟรางคู่ และ รถไฟความเร็วสูง นิรโทษกรรม และแก้รธน.
ถ้าชนะ เลือกตั้งอีกครั้ง .... จะทำนโยบาย ที่หาเสียงได้ไหม ?
ศึกใหญ่ในสภา 2 ล้านล้านชี้ชะตา รัฐบาล-ฝ่ายค้าน ....วิเคราะห์การเมือง.... มติชนออนไลน์
เพื่ออภิปรายถกเถียงกันในวันที่ 28-29 มีนาคมนี้
ยกประเด็นเรื่องความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของผู้คนออกไปก่อน
ลำพังเฉพาะผลทางการเมืองที่จะมีต่อพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านก็มหาศาลหนักหนาแล้ว
หากพรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะ "เปลี่ยนโฉม"
ประเทศไทยในทศวรรษหน้าให้เกิดขึ้นได้
ย่อมหมายถึงโอกาสที่จะได้รับคะแนนนิยมอย่างล้นหลามในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป
อันเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ปรารถนาและไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
การพลิกทุกตารางนิ้วของโครงการและตรวจสอบจับผิดทุกตัวอักษร
คือภารกิจหลักของประชาธิปัตย์ในวันนี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่าขณะนี้มี ส.ส.ฝ่ายค้านแสดง
ความจำนงจะอภิปรายร่างกฎหมายแล้วกว่า 70 คน เป็นพรรคประชาธิปัตย์ 60 คน
ประเด็นการอภิปรายจะครอบคลุม 3 ประเด็นหลัก คือ
1.การก่อหนี้และภาระหนี้ต่อประเทศและประชาชน
2.โครงการเหมาะสมตอบสนองปัญหาของประเทศหรือไม่
3.ความโปร่งใส เพราะที่ผ่านมาการบริหาร 1 ปีเศษของรัฐบาลจะมีการทุจริตเกือบ
ทุกโครงการ เช่น งบประมาณแก้ปัญหาน้ำ 1.2 แสนล้านบาท และโครงการจำนำข้าว
และขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล
ชี้แจงการกู้เงินดังกล่าวด้วยตัวเอง นายกฯควรตอบได้ทุกประเด็น เพราะเป็นกฎหมาย
กู้เงินที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์
ร่างพระราชบัญญัตินี้มีความสำคัญเพราะสร้างภาระหนี้มหาศาลคือเงินต้น 2 ล้านล้าน
แต่ดอกเบี้ย 3 ล้านล้าน เป็นภาระรัฐบาลอย่างน้อย 12 รัฐบาล และเป็นภาระประเทศ
ถึง 50 ปี ในขณะที่รัฐบาลอยู่ได้อีกแค่ 2 ปีครึ่ง
หรือหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เจอมรสุมทางการเมือง
กู้เสร็จก็ไป แล้วทิ้งภาระให้รัฐบาลต่อไป
ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก "Yingluck Shinawatra" และเว็บไซต์รัฐบาลไทย
http://www.thaigov.go.th ขึ้นข้อความชี้แจง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท
จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อความว่า การลงทุน
โครงสร้าง 2 ล้านล้าน นั้น
1) เป็นการพัฒนาเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศซึ่ง
ขาดการลงทุนโครงการใหญ่มานาน จนประเทศอื่นพัฒนาไปกว่าเรามาก
2) เป็นการเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านอาเซียนแนวคิดภายใต้กรอบ Connectivity นำไปสู่
โอกาสในการสร้างรายได้ของคนไทย และการใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนสู่อาเซียน
3) ประเทศไทยขาดการเชื่อมต่อเส้นทางทั้งบก-น้ำ จากต้นทางแหล่งวัตถุดิบผ่าน
แหล่งอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกลางน้ำ ไปยังปลายน้ำก็คือการส่งออก เพื่อลดต้นทุน
ในการขนส่งและลดต้นทุนในการสูญเสีย
4) เชื่อมเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน
กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์
5) ให้คนมีทางเลือก เช่น เดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง เพื่อลดค่าใช้จ่ายเพิ่มปลอดภัย
ทำให้ชนบทเจริญขึ้นก็คือรายได้ของประเทศเพิ่มขึ้น ควบคู่กับคุณภาพชีวิตที่สะดวก ลด
ค่าใช้จ่าย และความแออัด
6) ตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นผลลัพธ์ที่เห็นเป็นรูปธรรมคือค่าขนส่งที่ลดลง 2% GDP
เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 1% ต่อปี
และการจ้างงานประมาณ 500,000 อัตรา
ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและ รมว.คลัง อธิบายในแง่การเงินว่า
เหตุที่ไม่ใช้เงินในงบประมาณปกติ เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี แสดงรายจ่ายปีเดียว
ที่เหลือเป็นงบผูกพัน ซึ่งผูกมาแค่บางปี บางปีไม่มา และไม่ใช่โครงการเดียว
ปัญหาระดับหนี้สาธารณะที่คนเป็นห่วง ต้องดูว่าประเทศต่างๆ ที่กำลังเผชิญปัญหาส่วนใหญ่
เป็นหนี้ต่างประเทศ แต่ประเทศไทยวันนี้หนี้สาธารณะอยู่ที่ 43% ของจีดีพี ยังหักได้อีก
8.5% ที่เป็นหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ
และใน 43% นี้เป็นหนี้ต่างประเทศแค่ 3%
"การลงทุนต่อเนื่องจะทำให้เศรษฐกิจต่อเนื่อง แต่วันหนึ่งมีเหตุการณ์ฟ้าถล่มทลาย
เกิดสงคราม คุณก็หยุด
"สร้างถึงไหนก็หยุดเท่านั้น ไม่ใช่ว่าต้องทำ"
ติดตามรับชมบทบาท ลีลา วาทะ ของแต่ละท่านเหล่านี้ในสภาได้โดยพลัน
รับและแยกแยะตามเชื่อ เพื่อเลือกพิจารณา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364440881&grpid=01&catid=&subcatid=
นักแปะข่าว ...ก็จะเอาข่าว..เอาคคห.ของสื่อมาให้เพื่อนๆ อ่านกัน ก็เราเห็นแค่บอกว่า
เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย เสริมไปนิดเดียว ดีกว่ามาปั้นเคาะพิมพ์เอง ทั้งกระทู้ที่บางที
ก็เฉิ่ม ...บางทีก็เชย เพราะรู้จักประมาณตน ใครจะวิจารณ์ยังไง ก็ "ช่างมันฉันไม่แคร์"
ดู Wake up Thailand เมื่อเช้า ...ช่อง Voice TV เขาท้าทายว่า ถ้าพ.ร.บ.เงินกู้วันนี้ไม่ผ่าน
รัฐบาล ยุบสภา...แล้วหาเสียงเลือกตั้งใหม่ บอกเลย นโยบาย เพื่อไทย
คือกู้เงิน ทำรถไฟรางคู่ และ รถไฟความเร็วสูง นิรโทษกรรม และแก้รธน.
ถ้าชนะ เลือกตั้งอีกครั้ง .... จะทำนโยบาย ที่หาเสียงได้ไหม ?