ECF หุ้นชั้นดี ราคาย่อมเยาว์

กระทู้สนทนา
กูรูมั่นใจ ECF เหนือจอง                             
วงการมั่นใจ ECF เทรดวันรกยืนเหนือราคาจอง 1.20 บ. แม้ตลาดหุ้นไทยเพิ่งฟื้นหลังร่วงหนักกว่า 100 จุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังเปิดจองวันแรกหุ้นไม่พอขาย แถมโร้ดโชว์ 9 จังหวัดได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ด้านผู้บริหารแย้มตั้งเป้ารายได้โต 10-15% ต่อปี    พร้อมรักษากำไรสุทธิที่ 5-7%
ต่อเนื่องทุกปี ลั่นปีนี้มีจ่ายปันผล เหตุมีกำไรสะสมอยู่ 44 ล้านบาท พร้อมเตรียมงบ ซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มกำลังการผลิตบุกตลาดเฟอร์นิเจอร์รับ AEC
ขณะที่โบรกมองตลาดที่เริ่มฟื้นจะหนุนหุ้น IPO สดใสตามแน่นอน        ในวันนี้ (26มี.ค.56)จะมีหุ้นน้องใหม่เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นอีกหนึ่งบริษัท นั่นคือ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF    ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นไทยที่เพิ่งผ่านช่วงการปรับฐานครั้งสำคัญกว่า 100 จุด ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
จึงเกิดคำถามขึ้นมาไม่น้อยกับหุ้นน้องใหม่ตัวนี้ว่า     จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน และสามารถเปิดการซื้อขายวันแรกได้เหนือราคาจองที่ 1.20 บาท
เหมือนกับหุ้น IPO ตัวอื่นๆ   ที่มีกระแสตอบรับที่ดีในช่วงที่ผ่านมาได้หรือไม่           
บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด   เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เฟอร์นิเจอร์จำหน่ายผ่านโชว์รูม กระดาษปิดผิว
และไม้ยางพาราแปรรูปอบแห้ง รวมถึงผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ตามคำสั่งซื้อ (Made to Order) เป็นหลักให้แก่ผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ในต่างประเทศโดยมีลูกค้าหลักในประเทศญี่ปุ่น     นอกจากนี้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ให้แก่ กลุ่มร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ภายในประเทศโดยใช้ตราสินค้าของบริษัทเอง
ได้แก่ Muse Fur Direct และ Leaf ให้กับเทสโก้ โลตัส บิ๊กซี และ โฮมโปร ตามลำดับ       รวมทั้งยังมีการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในโชว์รูมของบริษัทเองใน Index Living Mall และโฮมโปรภายใต้ตราสินค้า ELEGA           
ทั้งนี้การที่ ECF เข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นครั้งนี้ มีทุนชำระแล้ว 130 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 400 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยบริษัทเสนอขายหุ้นต่อประชาชน ทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 15 และ18-19 มีนาคม 2556 ในราคาหุ้นละ 1.20 บาท
คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 144 ล้านบาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
เป็นผู้นำจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย            โดยบริษัทจะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปลงทุนสำหรับการสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อใช้ในการปรับปรุงสายการผลิตที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่มากขึ้นทั้งในต่างประเทศและในประเทศ อีกทั้ง เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในต้นปี 2558 โดยบริษัทมุ่งมั่นที่จะครองส่วนแบ่งทางการตลาดในอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ
*** APM มั่นใจหุ้นเหนือจอง            นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM)
ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ECF เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ถึงการเข้าซื้อขายในตลาดวันแรกของ ECF ว่า มั่นใจว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายในวันแรก
จะเหนือจองที่ 1.20 บาทได้ แม้ว่าสภาวะตลาดในช่วงที่ผ่านมาจะมีการเคลื่อนไหวที่ไม่ดีนัก แต่หากพิจารณาในเชิงพื้นฐานของบริษัทแล้ว
จะพบว่า ECF มีโครงสร้างรายได้ที่ชัดเจน จากคำสั่งซื้อที่ได้รับในปัจจุบันซึ่งมีอยู่ไม่น้อยกว่า 60% ของเป้าหมายยอดขายโดยรวม           
ขณะเดียวกันการสร้างกำไรสุทธิมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งเมื่อรวมกับกำไรสุทธิในปีก่อนที่ทำได้ 35 ล้านบาท และยังไม่มีการจ่ายปันผล
ก็จะเป็นผลดีต่อแนวโน้มการจ่ายปันผลปีนี้ ซึ่ง ECF มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ขณะเดียวกันการลงทุนในครั้งนี้
บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพทางด้านเครื่องจักรเพื่อทดแทนต้นทุนด้านแรงงาน ขณะเดียวกันจะเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงขึ้น
ซึ่งจะเป็นผลดีต่อแนวโน้มกำไรในระยะข้างหน้า อีกทั้งผู้บริหารของ ECF มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมามากกว่า 20 ปี
ถือเป็นจุดหลักที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้           ' เรามั่นใจว่าวันนี้ราคาหุ้นจะเหนือจอง เพราะ ECF มีสิ่งที่เรียกว่าความแข็งแกร่ง
ออเดอร์ที่ได้รับตอนนี้ไม่น้อยกว่า 60% ยาวไปจนถึงสิ้นปี สะท้อนโครงสร้างรายได้ที่ชัดเจนแล้ว และปีที่ผ่านมากำไรสุทธิ 35 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้จ่ายปันผลเลย
ปีนี้ก็จะเป็นผลดี ส่วนเรื่องการลงทุนเครื่องจักรเข้ามาเพิ่มก็จะลดค่าจ้างแรงงานมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการทำกำไร และบริษัทฯ บริหารงานมามากกว่า 20 ปีแล้ว
เราเชื่อว่าดีแน่นอน'นายสมภพ กล่าว           ขณะเดียวกันจากการโรดโชว์หุ้น ECF ใน 9 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ราชบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น
พิษณุโลก เชียงใหม่ หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ ในช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา มีกระแสตอบรับที่ดีนักลงทุนแสดงความสนใจจะจองซื้อหุ้นไอพีโอของ ECF เป็นจำนวนมาก
ทางผู้บริหารของ ECFและ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน รวมทั้งบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย
และรับประกันการจำหน่าย ได้มีการหารือร่วมกันถึงแนวทางการจัดสรรหุ้น เพื่อให้นักลงทุนได้มีโอกาสในการจองซื้อหุ้นอย่างทั่วถึง
ซึ่งในที่สุดแล้วการจัดสรรหุ้นไอพีโอครั้งนี้ ก็สามารถดำเนินการให้บรรลุความต้องการของทุกฝ่าย*** ตั้งเป้ารายได้โต 10 -15% ต่อปี พร้อมจ่ายปันผล
เหตุมีกำไรสะสม 44 ลบ.            นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า
บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในแต่ละปีไว้ไม่ต่ำกว่าปีละ 10 - 15% จากปี 55 ที่บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 1,084 ล้านบาท
และบริษัทฯ จะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin) ให้อยู่ในระดับ 5-7% ต่อเนื่องทุกปี โดยแนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตที่ดี
ต่อเนื่องตามการเติบโตของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่ดีขึ้นตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ประกอบกับบริษัทฯ มีการขยายตลาดไปยังประเทศ
ในแถบตะวันออกกลางและในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น จากเดิมที่มีตลาดหลักในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำการค้ากันมาเกือบ 20 ปี
และมีสินค้าของบริษัทฯ จำหน่ายผ่านสาขาของลูกค้าในประเทศญี่ปุ่นกว่า 700 แห่งปัจจุบันบริษัทฯ มีการผลิตสินค้าทั้งในแบรนด์ของตนเอง และรับจ้างผลิต
ซึ่งอัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin) ของการผลิตเพื่อขายเองจะอยู่ในระดับ 15% และอัตรากำไรสุทธิของการรับจ้างผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 5 - 7%          
ในขณะที่ปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯมีกำไรสะสมอยู่ประมาณ 44 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้กำหนดวันปันผลว่าจะจ่ายเงินปันผลช่วงใด
เนื่องจากต้องรอการประชุมของคณะกรรมการบริษัทฯ ก่อน            ขณะเดียวกันบริษัทได้ตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ประมาณ 50 - 60 ล้านบาทเพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่
ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกประมาณ 15 - 20% จากปัจจุบันที่บริษัทฯ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 80% ทั้งนี้ เมื่อมีเครื่องจักรเพิ่มขึ้น
บริษํทฯ ก็จะใช้แรงงานคนน้อยลง โดยมีแผนที่จะลดพนักงานให้เหลือประมาณ 300 - 400 คน จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 600 คน
ซึ่งหากสามารถลดจำนวนพนักงานได้ตามเป้าหมาย เชื่อว่าจะสามารถทำให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทฯ ลดลง และน่าจะสามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)
ของบริษัทฯ ขึ้นได้อีกประมาณ 1 - 2% จากปัจจุบันที่บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)อยู่ประมาณ 5 - 7%*** โนมูระฯ ชี้หุ้นดี มีผลตอบแทน          
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า
มั่นใจว่าหุ้น ECF จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปในการซื้อขายและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี
ธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตสูง พร้อมกับมีแผนที่จะขยายตลาดในประเทศไปตามโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ มากขึ้น และขยายสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ ECF ที่ราคา 1.20 บาท/หุ้น ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยมี P/E 17.51 เท่าหรือคิดเป็นส่วนลดประมาณ 30%
ซึ่งนักลงทุนจำนวนมากที่ต้องการลงทุนในหุ้น ECF แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรหุ้นตามจำนวนที่ต้องการ จะมีโอกาสเข้าไปซื้อขายเพื่อการลงทุนในระยะกลาง
ถึง ระยะยาวในตลาด เอ็ม เอ ไอ ต่อไป*** โบรกฯ มองภาพรวมตลาดยังฟื้นต่อ หนุนหุ้น IPO สดใสตาม           
นายวิวัฒน์ เตชะพูนผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (25 มี.ค.56) ปรับตัวเพิ่มขึ้น
เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีฯอ่อนตัวลงแรง ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาจากนักลงทุน ประกอบกับนักลงทุนคลายความกังวลจากปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรป
หลังจากรัฐสภาไซปรัสมีมติผ่านร่างกฎหมายฉุกเฉิน เพื่อจัดตั้งกองทุนด้านการลงทุน โดยมีเป้าหมายที่จะระดมทุนราว 5.8 พันล้านยูโรตามคำเรียกร้องของกลุ่มยูโร
เพื่อแลกกับมาตรการให้ความช่วยเหลือมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์            สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้ คาดว่า ดัชนีฯจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามดัชนีฯได้ปรับเพิ่มขึ้นมากในวันนี้ คาดว่าหลังจากนี้จะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในกรอบจำกัด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือความคืบหน้า
การประชุมร่วมรัฐสภาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท ในวันที่ 1-2 เมษายนนี้          
ส่วนของการซื้อขายหุ้น ECF หุ้น IPO ตัวล่าสุดที่จะเปิดการซื้อขายในวันนี้เป็นวันแรก ประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะเหนือจองที่ 1.20 บาท
แม้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยจะยังไม่สดใสก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ที่ฟื้นตัวแรงเกือบ 50 จุด
ประกอบกับที่ผ่านมาหุ้น IPO ส่วนใหญ่มักจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันแรกเป็นจำนวนมาก จะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นของ ECF นั้น
เปิดการซื้อขายเหนือราคาจองได้เช่นเดียวกับหุ้น IPO ตัวอื่นๆ ที่ผ่านมา          
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่