เค้าว่ากันว่า....ไปทะเลคนเดียว....ไม่เหงาก็อกหัก
อื้มมมมมมม.......อาจจะจริงนะ 55555 เลิกเพ้อๆๆๆ มาเขียนรีวิวกันดีกว่า
บอกก่อนเลยว่าการไปเที่ยวหัวกินครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบฉายเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่เลยทีเดียว
เป้1ใบ เสื้อผ้า2ชุด กับกระเป๋ากล้องอีก1 ปะ....เที่ยวกัน
โอ๊ววววว!!! ลืมบอกๆๆ เอาน้อง canon650D ไปลองถ่ายด้วยหละ แต่ไม่กล้าแท็กห้องกล้อง บอกตรง....กลัวโดนด่า 55555
และนอกจากนี้ยังไม่มีการเตรียมการอะไรเลยจ้าาาาา
ข้อมูลใดๆ หามีไม่ เรียกว่าเป็นการไปตายเอาดาบหน้าของจริงเลยทีเดียวเชียวหละเหวยยย
เพราะฉะนั้นขอเล่าตั้งแต่ก้าวแรกเลยละกัน เพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่คิดจะฉายเดี่ยวหรือฉายคู่
เริ่มต้นการเดินทาง
คิดเดินทางด้วยรถตู่จากฟิวเจอร์รังสิต-หัวหิน ค่ารถ 200 บาท คิดไปตั้งแต่เช้ารถออกประมาณ 8.30 น.
คิวรถตู้หัวหินอยู่ตรงบริเวณเวลาเราหันหน้าเข้าเมเจอร์จะอยู่ฝั่งขวาใต้สะพานลอยนะคะ ใกล้ๆกับวินรถตู้ไปอนุสาวรีย์หนะค่ะ
นั่งรถไปประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงหัวหินค่ะ (ขออภัยไม่มีรูป แบบว่ามันเช้ามากเลยรีบๆ เบลอๆ หนะค่ะ)
รถตู้จอดให้ลงตรงหอนาฬิกาที่ตอนแรกมองหายังไงก็หาไม่เจอเพราะมันเล็กมว๊ากกกกก
ใครที่มีภาพหอนาฬิกาที่จัตจุจักรหรือที่ไหนๆ ที่มันหย่ายๆ ช่วยลบมันออกไปจากสมองซักพัก
เพราะหอนาฬิกาที่หัวหินนี่ใหญ่กว่าไส้ติ่งแมวนิดนึง (อันนี้ก็เว่อปายยย)
ต่อจากนั้นคิดก็เจอลุงมอไซต์วินมาทาบทามหาที่พักให้ค่ะ คงเห็นหน้าตาดูง่าวๆ สินะ แบบว่าเอ๋อๆ เดินๆไปคงหลงเป็นแน่
แต่ด้วยความหยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีค่ะ คิดตอบปฏิเสทด้วยความมั่นใจและแบกเป้คู่กายเดินตะลอนหาที่พักเอง
เย๊......เก่งจรี๊งงงงงงง
เดินๆไปตามทางไปชายหาดซึ่งมารู้ทีหลังว่ามันคือถนนแนบเคหาสน์ค่ะ
เดินวนไปวนมาตอนแรกตั้งใจจะหาเกสเฮาส์ใกล้ๆทะเล ราคาถูกๆ นอนฟังเสียงคลื่นซะหน่อย
แต่พอไปเดินๆ ดูแล้วท่าทางตอนกลางคืนจะเสียงดังน่าดู เพราะร้านเหล้าเยอะมากจริงๆ แบบว่ามันเป็นถิ่นของต่างชาติชัดๆ
ราคาเกสเฮาส์แถบนั้นก็ราคาประมาณ 700-900 ต่อคืนนะคะ
ซึ่งถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้เช่น ขนาดห้อง ทำเล การบริการแล้ว ในความเห็นของคิดมันแพงไปค่ะ
เดินๆๆๆๆไปเรื่อยๆ ก็เจอแต่เกสเฮาส์แนวเดิมๆ ก็เลยอยู่ในโหมด ไม่ไหวแล้วนะ ร้อนก็ร้อน จะเที่ยววันแล้วยังไม่มีที่พักเลย หิวก็หิว
ไม่ไหวแล้วโว๊ยยยยย!!!! >____<
เลี้ยวโค้งจากถนนริมหาดมาซ้ายมือ (ไม่รู้ซอยไหน เดินวนมั่วไปหมด)
ก็มาเจอโรงแรมนึงหน้าตาดูดี ผิดชาวบ้านชื่อโรงแรมบ้านชเลราญค่ะ
[CR] แบกเป้เที่ยวหัวหินสองวันหนึ่งคืนสไตล์สวย ถึก บึกบึน
อื้มมมมมมม.......อาจจะจริงนะ 55555 เลิกเพ้อๆๆๆ มาเขียนรีวิวกันดีกว่า
บอกก่อนเลยว่าการไปเที่ยวหัวกินครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบฉายเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่เลยทีเดียว
เป้1ใบ เสื้อผ้า2ชุด กับกระเป๋ากล้องอีก1 ปะ....เที่ยวกัน
โอ๊ววววว!!! ลืมบอกๆๆ เอาน้อง canon650D ไปลองถ่ายด้วยหละ แต่ไม่กล้าแท็กห้องกล้อง บอกตรง....กลัวโดนด่า 55555
และนอกจากนี้ยังไม่มีการเตรียมการอะไรเลยจ้าาาาา
ข้อมูลใดๆ หามีไม่ เรียกว่าเป็นการไปตายเอาดาบหน้าของจริงเลยทีเดียวเชียวหละเหวยยย
เพราะฉะนั้นขอเล่าตั้งแต่ก้าวแรกเลยละกัน เพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่คิดจะฉายเดี่ยวหรือฉายคู่
เริ่มต้นการเดินทาง
คิดเดินทางด้วยรถตู่จากฟิวเจอร์รังสิต-หัวหิน ค่ารถ 200 บาท คิดไปตั้งแต่เช้ารถออกประมาณ 8.30 น.
คิวรถตู้หัวหินอยู่ตรงบริเวณเวลาเราหันหน้าเข้าเมเจอร์จะอยู่ฝั่งขวาใต้สะพานลอยนะคะ ใกล้ๆกับวินรถตู้ไปอนุสาวรีย์หนะค่ะ
นั่งรถไปประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงหัวหินค่ะ (ขออภัยไม่มีรูป แบบว่ามันเช้ามากเลยรีบๆ เบลอๆ หนะค่ะ)
รถตู้จอดให้ลงตรงหอนาฬิกาที่ตอนแรกมองหายังไงก็หาไม่เจอเพราะมันเล็กมว๊ากกกกก
ใครที่มีภาพหอนาฬิกาที่จัตจุจักรหรือที่ไหนๆ ที่มันหย่ายๆ ช่วยลบมันออกไปจากสมองซักพัก
เพราะหอนาฬิกาที่หัวหินนี่ใหญ่กว่าไส้ติ่งแมวนิดนึง (อันนี้ก็เว่อปายยย)
ต่อจากนั้นคิดก็เจอลุงมอไซต์วินมาทาบทามหาที่พักให้ค่ะ คงเห็นหน้าตาดูง่าวๆ สินะ แบบว่าเอ๋อๆ เดินๆไปคงหลงเป็นแน่
แต่ด้วยความหยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีค่ะ คิดตอบปฏิเสทด้วยความมั่นใจและแบกเป้คู่กายเดินตะลอนหาที่พักเอง
เย๊......เก่งจรี๊งงงงงงง
เดินๆไปตามทางไปชายหาดซึ่งมารู้ทีหลังว่ามันคือถนนแนบเคหาสน์ค่ะ
เดินวนไปวนมาตอนแรกตั้งใจจะหาเกสเฮาส์ใกล้ๆทะเล ราคาถูกๆ นอนฟังเสียงคลื่นซะหน่อย
แต่พอไปเดินๆ ดูแล้วท่าทางตอนกลางคืนจะเสียงดังน่าดู เพราะร้านเหล้าเยอะมากจริงๆ แบบว่ามันเป็นถิ่นของต่างชาติชัดๆ
ราคาเกสเฮาส์แถบนั้นก็ราคาประมาณ 700-900 ต่อคืนนะคะ
ซึ่งถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้เช่น ขนาดห้อง ทำเล การบริการแล้ว ในความเห็นของคิดมันแพงไปค่ะ
เดินๆๆๆๆไปเรื่อยๆ ก็เจอแต่เกสเฮาส์แนวเดิมๆ ก็เลยอยู่ในโหมด ไม่ไหวแล้วนะ ร้อนก็ร้อน จะเที่ยววันแล้วยังไม่มีที่พักเลย หิวก็หิว
ไม่ไหวแล้วโว๊ยยยยย!!!! >____<
เลี้ยวโค้งจากถนนริมหาดมาซ้ายมือ (ไม่รู้ซอยไหน เดินวนมั่วไปหมด)
ก็มาเจอโรงแรมนึงหน้าตาดูดี ผิดชาวบ้านชื่อโรงแรมบ้านชเลราญค่ะ