"เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง" วลีเด็ด ที่ยังฮิต ติดมาจนถึงปัจจุบัน..

ไฟไหม้โรงสีที่สระบุรี!! 'ข้าวสาร'โดนเผาเกลี้ยง โลกออนไลน์เม้าท์สนุก วิธีระบายข้าวที่ดีคือเผา

อีกแล้วครับท่าน ไฟไหม้โรงสีเสาไห้ไรซ์มิลล์ ที่สระบุรี ข้าวสาร 400 ตันถูกเผาเกลี้ยง ยังประเมินความเสียหายไม่ได้ โลกออนไลน์เม้าท์สนุก วิธีระบายข้าวรัฐบาลชุดนี้ คือมีไอ้โม่งที่ไหนไม่รู้ เผาโกงดังข้าว แล้วก็แกล้งทำเป็นสืบสวนสอบสวน แต่ไม่มีความคืบหน้าเลย เป็นวิธีทำลายหลักฐานที่ดีที่สุด

วันที่ 23 มี.ค. 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสาให้ จ.สระบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงสีเสาไห้ไรซ์มิลล์ จำกัด ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3 ต.เสาไห้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นของนายชลิตเทพ โพธิ์ใบ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเสาไห้ ทั้งนี้เพลิงได้ลุกไหม้โรงสีด้วยความรุนแรง กินเนื้อที่ 5 ไร่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานด้วยความยากลำบาก เนื่องจากทางเข้าเป็นซอยแคบ ยากต่อการเข้าควบคุมเพลิง ต้องให้รถดับเพลิงเข้าทีละคัน ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัดได้

เบื้องต้นพบเครื่องสีข้าว รถยก รถตู้ พร้อมทั้งข้าวเปลือก ข้าวสารที่สีแล้วเตรียมส่งบรรจุประมาณ 400 ตัน ถูกเพลิงไหม้หมด มูลค่าความเสียหายยังประมาณการไม่ได้ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่

ต่อมานพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เกาะติดนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความพร้อมรูป ผ่านเฟซบุ๊ค Warong Dechgitvigrom ระบุว่า เช้ามืดวันนี้(23 มีนาคม)เกิดไฟไหม้โกดังเก็บข้าวหอมมะลิที่โรงสีเสาไห้ สระบุรี

ขณะที่ในโลกออนไลน์ มีการวิจารณ์กันอย่างมาก อาทิ ผู้ใช้ชื่อ Trafalgar Law ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "วิธีระบายข้าวรัฐบาลชุดนี้ คือ มีไอ้โม่งที่ไหนไม่รู้ เผาโกงดังข้าว แล้วก็แกล้งทำเป็นสืบสวนสอบสวน แต่ไม่มีความคืบหน้าเลย"

ขณะที่ผู้ใช้นามว่า "Phriao Phan Lm" ระบุว่า "ระวังข้าว...วัตถุไวไฟ" ตั้งแต่มีโครงการจำนำข้าว ข้าวกลายเป็นวัตถุไวไฟไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้โกดังเก็บข้าวเพชรธัญกิจ ตั้งอยู่หมู่ที่ 10 ต.บ้านโตก อ.เมือง เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นโรงสีที่รับจำนำข้าวตามโครงการของรัฐบาลและถือว่าเป็นโรงสีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เก็บข้าวสารกว่าสองแสนตัน โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ข้าวสารโครงการรับจำนำของรัฐบาลไม่ได้รับความเสียหาย มีส่วนที่ไฟไหม้เสียหายคือกระสอบข้าวสารและข้าวสารของโรงสีที่เก็บไว้ มีมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท

และย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2555 ก็ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บข้าว โรงสีบุญฟ้า ต.กำแพง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเช่นกัน และเป็นข้าวที่ทางองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อตก.) นำมาฝากเก็บไว้ โดยเจ้าของโรงสีระบุว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่มารมยาข้าว เพื่อกำจัดเชื้อราและแบคทีเรีย รวมไปถึงแมลงภายในโกดังเก็บข้าว โดยน้ำยาที่ใช้ในการรมยากำจัดเชื้อจะมีปฏิกิริยาเมื่อถูกน้ำ ซึ่งวันที่ 24 พ.ย. ได้มีฝนเป็นเหตุให้เกิดไฟปะทุขึ้น

ทั้งนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์โครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลชุดนี้มาโดยตลอด ทั้งเรื่องการใช้เงินงบประมาณมหาศาลเพื่อรับจำนำข้าวทุกเมล็ด นโยบายการระบายข้าว และการลักลอบนำเอาข้าวโครงการรับจำนำไปขายในตลาด รวมถึงการจัดเก็บของรัฐบาล แต่รัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ในฐานะผู้รับผิดชอบหลัก ก็ไม่สามารถชี้แจงให้สังคมหายสงสัยกันได้ ในทางตรงกันข้าม การชี้แจงกลับสร้างความสงสัยให้เกิดมากขึ้นไปอีก กล่าวคือทุกอย่างยังไม่มีความกระจ่างชัดทั้งกระบวนการรับจำนำ

กรณีไฟไหม้หลายครั้งที่ผ่านมา หากเป็นอุบัติเหตุก็เป็นเรื่องที่ยากป้องกันจริงๆ แต่หากเป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้นมาจากคนบางกลุ่มที่มีส่วนได้เสียจากการรับจำนำข้าวโดยตรง โดยเฉพาะคนที่มีส่วนได้เสียที่นอกเหนือขั้นตอนนโยบายข้าว ก็ถือว่าสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมาก เพราะปมสงสัยว่าการสร้างสถานการณ์ขึ้นมานั้นก็มีเพียงประเด็นเดียวคือ มีแนวโน้มว่าจะเกิดการทุจริตในการเก็บข้าวในโครงการรับจำนำ และการเผาทำลายถือเป็นวิธีการทำลายหลักฐานที่ดีที่สุด

Cr:http://thaiinsider.info/news2012b/the-news/economy/22195-2013-03-23-10-49-48
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่