เราเรียนวิศวะคะ แต่ยิ่งเรียนรู้สึกยิ่งไม่ใช่ เราไม่ใช่แลปทำวงจรไฟฟ้า ไม่ชอบต้องมานั่งทดลอง นั่งบัดกรี ที่เลือกเข้าคณะนี้อาจเป็นเพราะความไม่รู้สมัยเรียนมัธยม เราเก่งเลข เก่งฟิสิกส์ เราชอบการคำนวณ สมัยมอปลายโรงเรียนเราไม่ได้ให้ทำวงจรจริงด้วยซ้ำ แต่ผลจากการที่เก่งคำนวณ อาจารย์แนะแนวก็ให้คำปรึกษาให้เรียนวิศวะ ตอนนั้นนั่งเรียนฟิสิกส์ นั่งเรียนเลข นั่งคำนวณโจทย์ในกระดาษสนุกดีแฮะ เลยคิดว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยเราคงต้องเลือกวิศวะ แต่พอเข้ามาเรียนมันไม่ใช่แค่เลขนี่ซิ มีแลปเต็มไปหมดเลย แลปไฟฟ้า วงจรอิเล็กทรอนิกส์ เราเกลียดมาก ไหนจะพรีโปรเจค โปรเจค ซึ่งเราไม่ได้ใส่ใจแลปเลยทำไรไม่ค่อยเป็น แถมเรียนก็ห่วยแตกมาก จนเพื่อนมอปลายตกใจเพราะมอปลายเราเป็นเด็กเก่งมาก และจากประสบการณ์ที่ไปฝึกงานเราไม่ชอบงานวิศวะเลย น่าเบื่อมากสำหรับเรา มันไม่ค่อยท้าทาย แต่เรากลับรู้สึกอยากทำธุรกิจ อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง อยากทำเซลเอนจิเนียร์ อยากหาประสบการณ์เพื่อวางแผนถึงอนาคต ซึ่งอยากมีบริษัทนำเข้าส่งออกเป็นของตัวเอง สำหรับตอนนี้อาจจะดูเกินตัว แต่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝันนี่เนอะ
แต่แล้ววันนึงเราโดนอาจารย์ท่านนึงให้ทำวงจรไฟฟ้าอย่างนึง เราทำไม่ได้ เราโดนอาจารย์ด่าว่าแล้วจะจบไปเป็นวิศวะได้ไง ปล่อยให้จบไปไม่ได้เสียชื่อเสียงมหาลัย แล้วก็มาบังคับให้เราปฏิญาณเชิงสาบานต่อหน้าแกว่า ให้พูดตามอาจารย์นะ ว่าหนูจะไม่บอกใครหรือใช้ชื่อวิศวะ...(...คือชื่อมหาวิทยาลัย)และจะไม่ทำงานเป็นวิศวะ เราแบบบ่ายเบี่ยงไปไหนไม่ได้ เลยต้องพูดตามแก แต่เราก็บอกแกไปอีกว่าหนูก็ไม่ได้อยากเป็นวิศวะคะอาจารย์ แล้วก็ถามแกว่าหนูจะเป็นเซลล์เอนจิเนียได้ไหมคะ(ก็แกห้ามไม่ให้เป็นวิศวะ= =" เลยอยากรู้ว่าเซลล์เอนจิเนียจะให้เป็นได้ไหม) แกบอกว่าแล้วหนูจะไปขายใครได้ และอาจารย์ก็หันหลังเดินออกไป แล้วหลังจากนั้นก็มีอาจารย์อีกคนมาคุยกับเราว่าอาจารย์คนนี้เล่าให้ฟังว่า เราเป็นคนมีทัศนคติค่อนข้างแย่
คือเราคาใจกับอาจารย์มากเลยว่าการที่เรียนจบวิศวะแล้วจะไม่เป็นวิศวะ มันดูเลวร้ายอะไรขนาดนั้น คือแกก็เป็นคนให้เราปฏิญาณเองว่าจะไม่ทำงานเป็นวิศวะ แล้วพอเราพูดความจริงว่าเราไม่ได้อยากเป็น แกก็อึ้ง เราไปเล่าให้เพื่อนผู้หญิงฟังเพื่อนบอกว่าถ้าเป้นมันคงร้องไห้ แต่เราเฉยแล้วตอบกลับอาจารย์ไปว่าหนูก็ไม่ได้อยากเป็นวิศวะอยู่แล้วด้วยคะ (อาจเป็นเพราะเราอาจเป็นเซลล์มากกว่ามั้ง อยากเก็บเงิน เพื่อไปทำธุรกิจเอง เลยไม่ค่อยสนใจว่าอาจารย์แกจะห้ามไปทำงานวิศวะหรืออะไร) ความคิดเราคือคนเรียนจบอะไรมาไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จในสายอาชีพที่ตนเรียนมาเสมอไปหนิ คุณค่าของคนมันไม่ได้อยู่ที่เรียนเก่งหรือไม่เก่งซักหน่อย มันอยู่ที่การทำตัว เราไม่ยึดติดในสิ่งที่เรียนมาว่าเราต้องเป็นวิศวะสายตรงหรืออะไร แต่เราอยากเป็นคนประสบความสำเร็จก็เท่านั้น เรารู้ตัวดีถ้าไปเป็นวิศวะสายตรงเราคงไม่ใช่วิศวะที่ดี แถมทรมานตัวเองเปล่าๆถ้าไปทำอะไรในสิ่งที่ไม่ชอบไปตลอดชีวิต เราจึงเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองออกมา เราอยากพยายามจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราเลือกมากกว่า ต่อให้ต้องล้ม มันก็ยังมีแรงที่จะลุก ไม่มีใครชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป คงต้องเจออุปสรรคกันบ้างซิเนอะ^^
ไม่เก่งในสิ่งที่เรียน แล้วจะประสบความสำเร็จไม่ได้หรือไงคะ เพิ่งโดนอาจารย์ด่ามาคะ
แต่แล้ววันนึงเราโดนอาจารย์ท่านนึงให้ทำวงจรไฟฟ้าอย่างนึง เราทำไม่ได้ เราโดนอาจารย์ด่าว่าแล้วจะจบไปเป็นวิศวะได้ไง ปล่อยให้จบไปไม่ได้เสียชื่อเสียงมหาลัย แล้วก็มาบังคับให้เราปฏิญาณเชิงสาบานต่อหน้าแกว่า ให้พูดตามอาจารย์นะ ว่าหนูจะไม่บอกใครหรือใช้ชื่อวิศวะ...(...คือชื่อมหาวิทยาลัย)และจะไม่ทำงานเป็นวิศวะ เราแบบบ่ายเบี่ยงไปไหนไม่ได้ เลยต้องพูดตามแก แต่เราก็บอกแกไปอีกว่าหนูก็ไม่ได้อยากเป็นวิศวะคะอาจารย์ แล้วก็ถามแกว่าหนูจะเป็นเซลล์เอนจิเนียได้ไหมคะ(ก็แกห้ามไม่ให้เป็นวิศวะ= =" เลยอยากรู้ว่าเซลล์เอนจิเนียจะให้เป็นได้ไหม) แกบอกว่าแล้วหนูจะไปขายใครได้ และอาจารย์ก็หันหลังเดินออกไป แล้วหลังจากนั้นก็มีอาจารย์อีกคนมาคุยกับเราว่าอาจารย์คนนี้เล่าให้ฟังว่า เราเป็นคนมีทัศนคติค่อนข้างแย่
คือเราคาใจกับอาจารย์มากเลยว่าการที่เรียนจบวิศวะแล้วจะไม่เป็นวิศวะ มันดูเลวร้ายอะไรขนาดนั้น คือแกก็เป็นคนให้เราปฏิญาณเองว่าจะไม่ทำงานเป็นวิศวะ แล้วพอเราพูดความจริงว่าเราไม่ได้อยากเป็น แกก็อึ้ง เราไปเล่าให้เพื่อนผู้หญิงฟังเพื่อนบอกว่าถ้าเป้นมันคงร้องไห้ แต่เราเฉยแล้วตอบกลับอาจารย์ไปว่าหนูก็ไม่ได้อยากเป็นวิศวะอยู่แล้วด้วยคะ (อาจเป็นเพราะเราอาจเป็นเซลล์มากกว่ามั้ง อยากเก็บเงิน เพื่อไปทำธุรกิจเอง เลยไม่ค่อยสนใจว่าอาจารย์แกจะห้ามไปทำงานวิศวะหรืออะไร) ความคิดเราคือคนเรียนจบอะไรมาไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จในสายอาชีพที่ตนเรียนมาเสมอไปหนิ คุณค่าของคนมันไม่ได้อยู่ที่เรียนเก่งหรือไม่เก่งซักหน่อย มันอยู่ที่การทำตัว เราไม่ยึดติดในสิ่งที่เรียนมาว่าเราต้องเป็นวิศวะสายตรงหรืออะไร แต่เราอยากเป็นคนประสบความสำเร็จก็เท่านั้น เรารู้ตัวดีถ้าไปเป็นวิศวะสายตรงเราคงไม่ใช่วิศวะที่ดี แถมทรมานตัวเองเปล่าๆถ้าไปทำอะไรในสิ่งที่ไม่ชอบไปตลอดชีวิต เราจึงเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองออกมา เราอยากพยายามจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราเลือกมากกว่า ต่อให้ต้องล้ม มันก็ยังมีแรงที่จะลุก ไม่มีใครชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป คงต้องเจออุปสรรคกันบ้างซิเนอะ^^