บ้านผมอยู่หมู่3 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ติดถนนสันทรายพร้าว สายเก่า ซึ่งมีท่อเมนประปาผ่านหน้าบ้าน และผมก็ได้ขอใช้น้ำและติดตั้งเรียบร้อยหลายปีแล้ว(แต่ใช้น้ำจริงๆผมใช้ประปาหมู่บ้าน  ค่าน้ำ ไม่แพงเท่าประปาหลวง) บ้านผมได้ขุดคูรับน้ำฝนไว้ริมรั้วหน้าบ้านเพื่อรับน้ำฝนเมื่อฝนตกน้ำจะได้ไม่ท่วม คูนี้ปกติถ้าฝนไม่ตกสักสามวันติดต่อกันน้ำจะแห้งไม่มีน้ำขัง เมื่อช่วงเดือนธ.ค55ที่ผ่านมาผมสังเกตว่าน้ำในคูไม่ยอมแห้งเหมือนเดิมทั้งที่เข้าหน้าแล้งแล้วแต่ยังคิดว่าดินยังไม่แห้งพอที่จะซับน้ำได้หมดเหมือนเคย บังเอิญค่ำวันหนึ่งปลายเดือนมกราคม56 ผมมีธุระเดินไปที่คูรับน้ำฝนที่ว่า ได้ยินเสียงน้ำไหลตกลงคูน้ำเปิดไฟดูเห็นน้ำไหลลงคูน้ำ คิดไปว่าท่อน้ำของบ้านตนเองอาจรั่ว จึงปิดวาวล์น้ำจากมิเตอรทั้งหมด(ทั้งประปาหมู่บ้านและประปาหลวง)(เรียกว่ายอมไม่มีน้ำใช้สักคืนก็ได้) แต่ปรากฎว่าน้ำยังคงไหลอยู่  วันรุ่งขึ้นจึง ขอช่างประปา(หมู่บ้าน)ช่วยดูให้ ช่างตรวจแล้วแจ้งว่าไมใช่น้ำที่ต่อใช้ของบ้าน แต่เป็นน้ำที่มาจากท่อเมนของประปาหลวง(และไม่ใช่ของหมูบ้านด้วยเพราะท่อเมนของหมู่บ้านเดินที่ถนนสายหลังในหมู่บ้าน)  ผมจึงโทรศัพท์แจ้งการประปาเชียงใหม่(ปลายเดือนมกราคม56)โดยแจ้งสถานทีอย่างละเอียดพร้อมเบอรโทรศัพท์บ้านผมไว้ด้วยเพ่อว่าช่างของการประปามาแล้วไม่เห็นจะได้โทรหาผมได้ผมจะชี้จุดให้ดู(การรั่วแบบนี้น้ำไม่รั่วขึ้นข้างบนให้เห็นแฮะ แต่มันลอดใต้คานรั้วเข้ามาบ้านผม เพราะฉะนั้น ถ้าดูตามไหล่ทางที่ท่อเมนผ่านจะไม่เห็นเลยว่าน้ำรั่ว)  แต่ไม่ปรากฎว่ามีช่างมาซ่อมหรือสอบถามผมแต่ประการใด จนเวลาผานไป จนถึงปลายเดือน ก.พ.56 มีคนรู้จักท่านหนึ่งมาที่บ้านผม(ท่านเคยทำงานที่ประปาเชียงใหม่ปัจุบันเกษียแล้ว)ผมก็เล่าให้ฟังและชี้ให้ดู ท่านก็บอกว่าจะลองโทรบอกช่างของประปาเชียงใหม่ที่ท่านรู้จักดู อีกทีหลังจากนั้นอีกประมาณ 1สัปดาห์ ก็มีโทรศัพท์ถึงผมว่ามาถึงที่แล้วแต่ห่างจากบ้านผมไปผมก็แจ้งให้มาที่บ้านและชี้จุดให้ดู เขาดูแล้วก็บอกว่ามาจากท่อเมนซึ่งอยู่ลึกต้องใช้แบคโฮขุด(ผู้มาวันนี้อายุอานามอยู่ในวัยกลางคนคาดว่าคงทำงานในตำแหน่งที่สูงพอควร-ดูจากโหงวเฮ้ง) และบอกว่าผมต้องไปหารถแบคโฮก่อนแล้วก็จากไปเรื่องเงียบไปนานหลายวัน แล้ววันหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์จากประปาเชียงใหม่(ผมจำเสียงได้ว่าเป็นคนรับสายแจ้งเรื่องน้ำรั่วจากผม) ถามว่าว่ผมแจ้งเรื่องน้ำรั่วใช่หรือเปล่าเพราะเห้นมีเรื่องแจ้งน้ำรั่วอยู่ ผมเลยตอบไปว่าใช่แจ้งไปตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม56แล้ว เขาว่าเพิ่งเห็นเรื่องนี่จะรีบส่งเรื่องให้ช่าง (ตอนผมโทรไปครั้งแรกและครั้งที่สองก็คนนี้แหละ-ผู้หญิงที่รับสายและบอกว่าจสะส่งเรื่องให้ช่างดำเนินการให้) หลังจากนั้นไม่นานนัก ช่างก็โทรติดต่อผม(ผมคิดว่าใช่ช่างนะ)ช่างมาที่บ้าน ผมก็ชี้จุดให้เห็นช่างชุดนี้เอาโน๊ตบุคมาด้วยเห็นเปิดโน๊ตบุคดู ผมเข้าใจว่าคงดูแผนผังตำแหน่งของท่อกระมัง ก่อนกลับเขาบอกว่าไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำของการประปาเชียงใหม่หรือเปล่า ต้องเอาน้ำไปตรวจดูก่อน ผมก็บอกไปว่าแถวนี้ไม่มีท่ออื่น เพราะท่อของหมู่บ้านเดินถนนสายหลังไม่ใช่สายนี้(ผมใช้อยู่และต่อเข้าทางหลังบ้าน) เขาก็ว่าอีกทางหนึ่งที่จะรู้ว่าของประปาเชียงใหม่หรือไม่เขาปิดประตูน้ำก็รู้ถ้าใช่ปิดประตูน้ำซะน้ำจะหยุดไหล แล้วเขาก็จากไปโดยไม่ได้เก็บน้ำไปตรวจด้วย บอกว่าการเก็บน้ำจะมีทีมงานมาเก็บ(ตามที่แจ้งว่าต้องตรวจสอบน้ำซะก่อนว่าใช่หรือไม่ )และไม่ปรากฎว่ามีใครเข้ามาเก็บน้ำไปตรวจสอบ คาดว่าคงไม่มีการปิดประตูน้ำเพื่อตรวจสอบว่าน้ำหยุดไหลหรือไม่เพราะน้ำยังไหลอยู่ตลอด น้ำยังคงไหลและยังคงขังอยู่ผมเลยจำเป็นต้องหาปลาหางนกยูงมาปล่อยไว้เพื่อกินไข่ยุงหากยุงมาไข่กลัวยุงชุม จนป่านนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการซ่อมแซม
       เรื่องนี้เป็นการเล่าให้ฟังเท่านั้นครับไม่เป็นการร้องแรกแหกกระเฌออะไร ที่สงสัยนิดหน่อยและถามคือว่าผมคิดว่า
1.น้ำนี้ เขามีวิธีตรวจด้วยหรือครับว่านี้เป็นน้ำของการประปาหรือน้ำของที่อื่น
-เช่นตรวจได้ว่าน้ำนี้มาจากแม่ปิง หรือ น้ำแม่กวง ที่ดูดขึ้นมาทำประปา
-ตรวจจากปริมาณคลอรีนที่ใส่มาในน้ำ
ใช่หรือไม่
2.ประปาคงคิดว่าค่าใช้จ่ายในการซ่อมปิดรูรั่วคงมากกว่ามูลค่าน้ำที่รั่วเสียไปปล่อยให้รั่วเสียไปถูกกว่า
ใช่หรือไม่
    รูปคูรับน้ำฝนที่ประปารั่วเข้ามาขัง