สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เกิดจากความอยากรู้ถึงหน้าที่การทำงานและความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศที่ประจำอยู่กงสุลหรือสถานทูตในต่างประเทศ เพราะเท่าที่เจอและประสบมาทั้งด้วยตัวเองและจากเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่ที่มาประจำยังต่างประเทศ ไม่ค่อยมีความรู้ในหลายๆเรื่อง และไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นในการช่วยเหลือคนไทยในต่างแดนสักเท่าไหร่
กรณีแรกที่เจอเลยคือ รุ่นพี่เค้าแต่งงานกับคนอังกฤษ ต้องการย้ายกลับมาไทย และแฟนเค้าก็จะย้ายมาด้วย พี่เค้าก็เลยไปขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กงสุล ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้คำตอบได้ในหลายๆเรื่อง และไม่แสดงถึงความกระตือรือร้นที่จะช่วยหาข้อมูลมาให้ ซึ่งตรงนี้เรามองว่าจริงๆควรจะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเขาหรือปล่าวที่ต้องช่วยเหลือคนไทยอย่างน้อยๆก็ในด้านข้อมูล
กรณีที่สอง รุ่นพี่อีกคนแต่งงานกับคนจีน ต้องการทำกรีนการ์ดแต่พี่เค้าหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วว่าต้องมีเอกสารบางอย่างจากทางไทยด้วย พี่เค้าโทรไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่กงสุลถึงเรื่องนี้ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทราบอะไรเลยจริงๆ ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ทั้งนั้น บอกแต่เพียงว่าเพิ่งมาทำงาน (ซึ่งเช็คแล้วว่าเขามาทำงานที่นั่นสองปีแล้ว) พอเรื่องนี้เค้าไม่สามารถให้คำปรึกษาได้ รุ่นพี่ก็เลยถามเรื่องการจดทะเบียน คือพี่เค้าจดทะเบียนที่จีนแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปแจ้งที่ไทย ก็เลยจะถามเรื่องขั้นตอนการไปแจ้งว่าต้องทำอย่างไร คำตอบที่ได้จากเจ้าหน้าที่คนนั้นคือ จดทะเบียนที่ต่างประเทศแล้วต้องมาจดที่ไทยอีก เพราะมันคนละประเทศกัน แต่เท่าที่พี่เค้าหาข้อมูลมาคือไม่ต้องจดซ้ำอีกแต่ต้องไปแจ้งกับทางไทย เจ้าหน้าที่คนนี้ก็ยังเถียงว่าเค้าทำงานที่นั่นมาสองปี ก็ทำแบบนี้หมด คือคนที่จดที่จีนแล้วเค้าก็ทำจดทะเบียนให้ที่ไทยอีก (ซึ่งจริงๆมันถือเป็นการจดทะเบียนซ้อน) พี่เค้าเลยบอกว่างั้นขอกลับไปเช็คอีกทีว่าข้อมูลที่ได้มานั้นมาจากที่ไหน เผื่อข้อมูลจะผิด พอวันรุ่งขึ้นพี่เค้าก็โทรไปหาเจ้าหน้าที่คนเดิม เหมือนเค้าก็ไปเช็คมาแล้วและบอกว่าเค้าทำผิดมาตลอด และเค้าได้แจ้งกับทางมหาดไทยแล้ว ซึ่งทางมหาดไทยก็บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวทางมหาดไทยจะแก้ปัญหาให้ แต่ประเด็นคือ คุณทำผิดมาถึงสองปีเลยเนี่ยนะ แสดงว่าก่อนมาทำงานคุณไม่ได้มีความรู้หรือข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์แก่คนไทยในต่างแดนเลยเหรอ
พอพี่เค้าเคลียร์เรื่องนี้เสร็จ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่างั้นก็มาแจ้งการจดทะเบียนกับเค้าแล้วกันว่างวันไหนก็มาเดี๋ยวเค้าทำให้ แต่เผอิญพี่เค้าไปเช็คในเว็บของสำนักงานเขตบ้านพี่เค้า ในเว็บบอกไว้เลยว่าถ้าจดทะเบียนต่างประเทศแล้วต้องการแจ้งการจดทะเบียนที่ไทยต้องมากระทำด้วยตนเอง พี่เค้าก็เลยงงว่าทำไมเจ้าหน้าที่คนนั้นบอกให้ไปแจ้งกับเค้า ซึ่งข้อเท็จจริงเราไม่รู้หรอกนะว่าแจ้งที่ไหนยังไงได้ แต่แค่นี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งมาด้วยเงินภาษีอันแสนแพงของเราๆท่านๆไม่สามารถช่วยเหลืออะไรคนไทยได้เลย
จริงๆมีเรื่องเยอะกว่านี้อีกค่ะ แต่ขอเล่าแค่นี้แล้วกัน
ประเด็นที่เรามาตั้งกระทู้คือ เราอยากทราบว่ากระทรวงคัดคนไปทำงานต่างประเทศยังไง มีวิธีการไหน ทำไมเจ้าหน้าที่ที่ประจำในต่างประเทศที่เราเจอมาแทบจะไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรกับคนไทยในต่างประเทศได้เลย พวกคุณเอาเงินภาษีพวกเรามาทำงานที่นี่ งานก็คงไม่หนักเท่าตอนอยู่ไทย แถมเงินเดือนก็เป็นแสน แต่ประสิทธิภาพการทำงานเทียบไม่ได้กับเงินเดือนเลย อยากเรียกร้องให้ทางกระทรวงหาวิธีการในการคัดคนไปประจำต่างประเทศที่ดีกว่านี้ด้วยเถอะค่ะ
ป.ล.ถ้าข้อมูลตรงไหนที่ดิชั้นเล่ามาผิดพลาด สามารถแก้ไขได้นะคะ อย่างเรื่องการแจ้งการจดทะเบียน ณ ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบชัดเจนว่าต้องไปจดเองที่ไทยหรือปล่าว แต่พี่เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากวุ่นวายแล้ว และจะกลับมาจัดการเองที่ไทยให้เสร็จ คงไม่ทำอะไรผ่านกงสุลอีกแล้ว
วิธีการคัดเลือกและประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่กงสุลในต่างประเทศ???
กรณีแรกที่เจอเลยคือ รุ่นพี่เค้าแต่งงานกับคนอังกฤษ ต้องการย้ายกลับมาไทย และแฟนเค้าก็จะย้ายมาด้วย พี่เค้าก็เลยไปขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กงสุล ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้คำตอบได้ในหลายๆเรื่อง และไม่แสดงถึงความกระตือรือร้นที่จะช่วยหาข้อมูลมาให้ ซึ่งตรงนี้เรามองว่าจริงๆควรจะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเขาหรือปล่าวที่ต้องช่วยเหลือคนไทยอย่างน้อยๆก็ในด้านข้อมูล
กรณีที่สอง รุ่นพี่อีกคนแต่งงานกับคนจีน ต้องการทำกรีนการ์ดแต่พี่เค้าหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วว่าต้องมีเอกสารบางอย่างจากทางไทยด้วย พี่เค้าโทรไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่กงสุลถึงเรื่องนี้ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทราบอะไรเลยจริงๆ ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ทั้งนั้น บอกแต่เพียงว่าเพิ่งมาทำงาน (ซึ่งเช็คแล้วว่าเขามาทำงานที่นั่นสองปีแล้ว) พอเรื่องนี้เค้าไม่สามารถให้คำปรึกษาได้ รุ่นพี่ก็เลยถามเรื่องการจดทะเบียน คือพี่เค้าจดทะเบียนที่จีนแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปแจ้งที่ไทย ก็เลยจะถามเรื่องขั้นตอนการไปแจ้งว่าต้องทำอย่างไร คำตอบที่ได้จากเจ้าหน้าที่คนนั้นคือ จดทะเบียนที่ต่างประเทศแล้วต้องมาจดที่ไทยอีก เพราะมันคนละประเทศกัน แต่เท่าที่พี่เค้าหาข้อมูลมาคือไม่ต้องจดซ้ำอีกแต่ต้องไปแจ้งกับทางไทย เจ้าหน้าที่คนนี้ก็ยังเถียงว่าเค้าทำงานที่นั่นมาสองปี ก็ทำแบบนี้หมด คือคนที่จดที่จีนแล้วเค้าก็ทำจดทะเบียนให้ที่ไทยอีก (ซึ่งจริงๆมันถือเป็นการจดทะเบียนซ้อน) พี่เค้าเลยบอกว่างั้นขอกลับไปเช็คอีกทีว่าข้อมูลที่ได้มานั้นมาจากที่ไหน เผื่อข้อมูลจะผิด พอวันรุ่งขึ้นพี่เค้าก็โทรไปหาเจ้าหน้าที่คนเดิม เหมือนเค้าก็ไปเช็คมาแล้วและบอกว่าเค้าทำผิดมาตลอด และเค้าได้แจ้งกับทางมหาดไทยแล้ว ซึ่งทางมหาดไทยก็บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวทางมหาดไทยจะแก้ปัญหาให้ แต่ประเด็นคือ คุณทำผิดมาถึงสองปีเลยเนี่ยนะ แสดงว่าก่อนมาทำงานคุณไม่ได้มีความรู้หรือข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์แก่คนไทยในต่างแดนเลยเหรอ
พอพี่เค้าเคลียร์เรื่องนี้เสร็จ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่างั้นก็มาแจ้งการจดทะเบียนกับเค้าแล้วกันว่างวันไหนก็มาเดี๋ยวเค้าทำให้ แต่เผอิญพี่เค้าไปเช็คในเว็บของสำนักงานเขตบ้านพี่เค้า ในเว็บบอกไว้เลยว่าถ้าจดทะเบียนต่างประเทศแล้วต้องการแจ้งการจดทะเบียนที่ไทยต้องมากระทำด้วยตนเอง พี่เค้าก็เลยงงว่าทำไมเจ้าหน้าที่คนนั้นบอกให้ไปแจ้งกับเค้า ซึ่งข้อเท็จจริงเราไม่รู้หรอกนะว่าแจ้งที่ไหนยังไงได้ แต่แค่นี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งมาด้วยเงินภาษีอันแสนแพงของเราๆท่านๆไม่สามารถช่วยเหลืออะไรคนไทยได้เลย
จริงๆมีเรื่องเยอะกว่านี้อีกค่ะ แต่ขอเล่าแค่นี้แล้วกัน
ประเด็นที่เรามาตั้งกระทู้คือ เราอยากทราบว่ากระทรวงคัดคนไปทำงานต่างประเทศยังไง มีวิธีการไหน ทำไมเจ้าหน้าที่ที่ประจำในต่างประเทศที่เราเจอมาแทบจะไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรกับคนไทยในต่างประเทศได้เลย พวกคุณเอาเงินภาษีพวกเรามาทำงานที่นี่ งานก็คงไม่หนักเท่าตอนอยู่ไทย แถมเงินเดือนก็เป็นแสน แต่ประสิทธิภาพการทำงานเทียบไม่ได้กับเงินเดือนเลย อยากเรียกร้องให้ทางกระทรวงหาวิธีการในการคัดคนไปประจำต่างประเทศที่ดีกว่านี้ด้วยเถอะค่ะ
ป.ล.ถ้าข้อมูลตรงไหนที่ดิชั้นเล่ามาผิดพลาด สามารถแก้ไขได้นะคะ อย่างเรื่องการแจ้งการจดทะเบียน ณ ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบชัดเจนว่าต้องไปจดเองที่ไทยหรือปล่าว แต่พี่เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากวุ่นวายแล้ว และจะกลับมาจัดการเองที่ไทยให้เสร็จ คงไม่ทำอะไรผ่านกงสุลอีกแล้ว