ภาพเก่าเล่าเรื่อง (๔๔)

กระทู้สนทนา
....ว่าวที่เราชอบเล่น เช้าเย็นเราก็เล่นว่าว
ว่าวน้อยที่ลอยสู่ดาว ว่าน้อยที่ลอยสู่ดาว
สองมือยังสาวเมื่อว่าวติดลม

โบกสบัดสวิ๊ดสว๊าดเวียนวน โบกสบัดสวิ๊ดสว๊าดเวียนวน
มองดูสับสนอยู่บนเมฆา....



คิดว่าหลายๆ ท่านคงจำเพลงเชียร์เหล่านี้นะครับ พวกผมได้นำเพลงเหล่านี้ไปสอนแก่เด็กเยาวชนในชนบท เล่นเอาติดอกติดใจ หัวร่องอหายไปตามกัน เพราะวิทยากรขี้เล่นให้แสดงตัวแสดงจำเป็นนั้น ทำท่าทางประกอบด้วย

ภายหลัง พอชี้ตัวให้แสดงเข้า พากันนั่งหลบอยู่ที่ท้ายแถว กลัวเพื่อนฝูงล้อเลียนว่าทำลิงทำค่างได้มากกว่าที่คิด

สมัยก่อน (เป็นคนแก่เล่าความหลังอีกแล้ว อมยิ้ม01) ช่วงเย็นๆ แดดร่มลมตก แม่ชอบพาผมไปเที่ยวที่ท้องสนามหลวง ซึ่งเทศบาลนครกรุงเทพ ได้จัดกีฬาไทย มี หมากรุกคน ตะกร้อ ว่าวไทย สนุกทั้งคนดูคนเล่นล่ะครับ ลมพัดเอื่อยๆ มีเสื่อให้เช่า พร้อมของกินเล่นเสร็จสรรพ เด็กๆ ที่ขี่จักรยานเป็นก็โน่น ไปเช่าจักรยานขี่รอบสนามหลวง  ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็ไปชุมนุมกันที่ร้านอาหารชั่วคราว โดยมีน้ำกระสาย วางไว้ตรงหน้าเป็นเครื่องชูบรรยากาศ โซดา น้ำแข็งพร้อม

ที่เชิดหน้าชูตาเห็นจะเป็นว่าวหลากสึล่ะครับ ที่เชิดหน้าชูตาเพราะว่าวติดลมอยู่บนที่สูง ต้องมองแบบนั้น จะมีว่าวหลากสีละลานตาล่องลอยอยู่บนฟ้า ทั้งว่าแข่งและว่าวจากแผงจำหน่าย พร้อมเชือกป่าน สมัยก่อนเห็นจะมีว่าวปักเป้า ว่าวงู สมัยต่อมามีกจะเป็นว่าวอีลุ้ม เพราะขึ้นง่าย ไม่คว้าไปมาเหมือนว่าวปักเป้า ว่าวไหนไม่ติดหางเพื่อ่วงน้ำหนัก ถือว่าช่างประกอบว่าวฝีมือดี แต่ถ้าอยากติดหางเพื่อความสวยงาม เจ้าของจำได้ง่าย ก็ไม่ว่ากัน ตามประสาไทยๆ ครับ

ผมซื้อว่าวที่สนามหลวงกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด ปรากฎว่าขึ้นได้ยาก เพราะลมไม่สม่ำเสมอ ต้องมีฝีมือสักหน่อย ถึงจะติดลมบน ลองซื้อกลับไปหลายปี วิ่งไปตามรันเวย์บนท้องถนนจนลิ้นจุกปาก ว่าวก็ไม่ขึ้น เพื่อนฝูงที่คอยจับว่าวส่งก็รำคาญ เสียเวลาสนุก  เลยหมดความพยายามตั้งแต่นั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่