คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ข้อดี - ไม่ต้องลงทุน และแบกรับความเสี่ยงสต็อกสินค้า
ข้อเสีย - ควบคุมคุณภาพ และราคาเองไม่ได้ ( หากตั้งราคาสูงกว่าเจ้าของสินค้า
- อาจจะถูกแย่งลูกค้าจากผู้ผลิตเอง แบบเนียน ๆ ได้เหมือนกัน
- ระยะยาวจะไม่ยั่งยืน อย่าลืมว่า ยุคสมัยนี้ internet ย่อโลกให้แคบลงได้
ในเมื่อเราเห็นสินค้าจากผู้ผลิต ที่ใช้ช่องทางเดียวกับลูกค้า
สักวันหนึ่ง ลูกค้าก็ต้องเห็นเหมือนคุณบ้าง ไม่เร็วก็ช้า แต่ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า
ก็ย่อมส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของเราด้วย
ปล. Google สามารถค้นหาภาพที่ใกล้กันได้ หากลูกค้าทำการค้นหาภาพสินค้าของคุณ
ซึ่งแน่นอน คุณจะต้องใช้ภาพของผู้ผลิตมาโพสขายเหมือนกัน
คำตอบคงไม่ต้องบอกรายละเอียดนะครับ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ...
จากประสบการณ์ของผมเอง เคยมองว่า การ dropship เป็นช่องทางการกระจายสินค้าที่ดีทางหนึ่ง
แต่เมื่อทำ ๆ ไป จากมุมของผู้ผลิตแล้ว มันไปกระทบกับลูกค้าที่ซื้อขาด (ราคาส่ง) ถึงแม้ว่ากลุ่มลูกค้าส่งนี้ จะได้ส่วนลดมากกว่ากลุ่ม
dropship ก็จริง แต่เค้าจะมีต้นทุนที่มากกว่าแน่นอน อย่างน้อย ๆ ก็คือความเสี่ยงที่จะต้องซื้อมาสต็อกไว้
ส่วน dropship ไม่มี ก็เลยสามารถตั้งราคาแบบตัดราคาขาย เพื่อเอากำไรเพียงนิดเดียว ซึ่งไปกระทบกับลูกค้าที่ซื้อไปสต็อกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แง่มุมนี้ เลยเป็นกรณีศึกษาได้ดีครับว่า หากจะมีนโบาย dropship ก็อย่ามี นโยบาย ขายส่ง เพราะมันไม่ส่งผลดีกับใครเลย
ประมาณนี้ครับ
ข้อเสีย - ควบคุมคุณภาพ และราคาเองไม่ได้ ( หากตั้งราคาสูงกว่าเจ้าของสินค้า
- อาจจะถูกแย่งลูกค้าจากผู้ผลิตเอง แบบเนียน ๆ ได้เหมือนกัน
- ระยะยาวจะไม่ยั่งยืน อย่าลืมว่า ยุคสมัยนี้ internet ย่อโลกให้แคบลงได้
ในเมื่อเราเห็นสินค้าจากผู้ผลิต ที่ใช้ช่องทางเดียวกับลูกค้า
สักวันหนึ่ง ลูกค้าก็ต้องเห็นเหมือนคุณบ้าง ไม่เร็วก็ช้า แต่ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า
ก็ย่อมส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของเราด้วย
ปล. Google สามารถค้นหาภาพที่ใกล้กันได้ หากลูกค้าทำการค้นหาภาพสินค้าของคุณ
ซึ่งแน่นอน คุณจะต้องใช้ภาพของผู้ผลิตมาโพสขายเหมือนกัน
คำตอบคงไม่ต้องบอกรายละเอียดนะครับ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ...
จากประสบการณ์ของผมเอง เคยมองว่า การ dropship เป็นช่องทางการกระจายสินค้าที่ดีทางหนึ่ง
แต่เมื่อทำ ๆ ไป จากมุมของผู้ผลิตแล้ว มันไปกระทบกับลูกค้าที่ซื้อขาด (ราคาส่ง) ถึงแม้ว่ากลุ่มลูกค้าส่งนี้ จะได้ส่วนลดมากกว่ากลุ่ม
dropship ก็จริง แต่เค้าจะมีต้นทุนที่มากกว่าแน่นอน อย่างน้อย ๆ ก็คือความเสี่ยงที่จะต้องซื้อมาสต็อกไว้
ส่วน dropship ไม่มี ก็เลยสามารถตั้งราคาแบบตัดราคาขาย เพื่อเอากำไรเพียงนิดเดียว ซึ่งไปกระทบกับลูกค้าที่ซื้อไปสต็อกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แง่มุมนี้ เลยเป็นกรณีศึกษาได้ดีครับว่า หากจะมีนโบาย dropship ก็อย่ามี นโยบาย ขายส่ง เพราะมันไม่ส่งผลดีกับใครเลย
ประมาณนี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยขายเสื้อผ้าแฟชันแบบdropship(รับออร์เดอร์จากลูกค้าแล้วสั่งให้อีกร้านส่งให้ลูกค้า เนียนว่าเราส่ง)บ้างคะ
มีคำแนะนำ หรือข้อดีเสีย อย่างไรบ้าง ขอบคุณมากค่ะ