"สำนักข่าวอิศรา" เผย 3 ชื่อบก.ตบเท้าพบ ผอ.TPBS ก่อนถอดตอบโจทย์ ขณะ"ภิญโญ"เลิกจัดเพราะถูกแทรก
วันนี้ ( 16 มี.ค.) สำนักข่าวอิศรารายงานว่า สาเหตุที่ นายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา และทีมงานรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ได้ตัดสินใจยุติการทำรายการตอบโจทย์ฯ ในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เนื่องจากรับไม่ได้ที่มีการแทรกแซงจากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
โดยหลังจากทราบการตัดสินของ นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผอ.สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่สั่งให้ยุติการออกอากาศเทปรายการตอบโจทย์ฯ ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 5 ที่มีนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ และนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นแขกรับเชิญ ซึ่งเดิมมีกำหนดออกอากาศ ในเวลา 21.45 น. ของวันที่ 15 มี.ค.2556 อย่างกะทันหัน ทั้งๆ ที่คณะกรรมการนโยบายสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสมีมติให้ออกอากาศต่อไปได้ ภายหลังมีผู้ชุมนุม “คนไทยผู้รักชาติ” มาร้องคัดค้าน ได้มีความพยายามจากทีมงานรายการตอบโจทย์ฯ ประสานไปยังนายสมชัยเพี่อขอให้เปลี่ยนการตัดสินใจ แต่ ผอ.สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสกลับยืนยันการตัดสินใจเดิม
รายงานข่าวยังแจ้งว่า หลังจากเทปรายการตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ฯ” ตอนที่ 5 ถูกแบนไม่ให้ออกอากาศ ทีมงานตอบโจทย์ฯ รวมถึงนายภิญโญ ก็มาหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งหลังพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียดเป็นเวลาหลายชั่วโมง นายภิญโญก็แจ้งต่อทีมงานว่าจะไม่จัดรายการตอบโจทย์ฯ อีกต่อไป แม้นายสมชัยจะติดต่อมาระหว่างนั้น เพื่อต่อรองว่า อาจจะนำเทปรายการตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ฯ” ตอนที่ 5 ไปออกอากาศในวันอังคารที่ 22 มี.ค.2556 แทน ก็ตาม
สำหรับเหตุผลในการเลิกจัดรายการตอบโจทย์ฯ ของนายภิญโญ ส่วนใหญ่ปรากฏในแถลงการณ์ซึ่งโพสต์ผ่านแฟนเพจของรายการ ในช่วงบ่ายวันนี้ (16 มี.ค.2556)
แต่เหตุผลสำคัญก็คือรับไม่ได้กับการแทรกแซงการทำงานโดยผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องบางกลุ่ม ทั้งๆ ที่ ทีมงานตอบโจทย์ฯ ได้ส่งเทปรายการตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ ทั้ง 5 ตอนให้นายสมชัยตรวจสอบล่วงหน้าก่อนออกอากาศ นอกจากนี้ ยังทำไปเพื่อรักษาจุดยืนที่ต้องการรักษาเสรีภาพการทำงานในฐานะสื่อมวลชน
แหล่งข่าวจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ให้ข้อมูลว่า สำหรับพนักงานระดับบรรณาธิการ (บก.) ที่เข้าพบนายสมชัย ก่อนที่รายการตอบโจทย์ฯ ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ฯ” ตอนที่ 5 จะถูกสั่งให้ยุติการออกอากาศ เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค.2556 ประกอบด้วย น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ บก.ข่าวสังคมและนโยบายสาธารณะ น.ส.ณัฎฐา โกมลวาทิน บก.ข่าวอาเซียน และนายบุตรรัตน์ บุตรพรม บก.รายการข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ น.ส.ณาตยา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ใจความว่า แนวทางการสื่อสารเรื่องอ่อนไหวในสังคมไทย ควรจะใช้วิธีที่ทำให้สื่อไม่กลายเป็นชนวนความขัดแย้งเสียเอง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งยากจะแตะต้องอย่างฉายฉวย สื่อที่จะทำเรื่องนี้ต้องมองหาทางเลือกของวิธีการนำเสนออย่างเหมาะสม
“เราต่างก็รู้กันดีกว่าความศรัทธาต่อสถาบันฯ เป็นเรื่องที่ยากจะแตะต้องอย่างฉาบฉวย สื่อมวลชนที่จะทำเรื่องนี้ด้วยความรับผิดชอบต้องมองหาทางเลือกของวิธีการนำเสนออย่างเหมาะสม มีกรณีตัวอย่างเช่น ศ.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ เคยเสนอวิธีเล่าผ่านละคร หรือในกรณีสารคดี 2475 ที่แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่ก็ยังสะท้อนถึงความพยายามที่จะเล่าเรื่องอย่างมีศิลปะและรอบคอบ รวมถึงการเสนอเรื่องปฏิรูปพุทธศาสนาในประเทศไทยด้วยการตั้งคำถามใหม่ ไม่ใช่มุ่งหาคำตอบเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ บอกไว้ว่า ในความขัดแย้งเพราะศรัทธาที่แรงกล้านั้น การตั้งคำถามใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีใครคิดถาม ก็นับว่าได้ทำหน้าที่แล้ว เพราะเรื่องความศรัทธาของคนส่วนใหญ่นั้นอันตรายหากจะหาคำตอบจากคนไม่กี่คน และไม่มีวันที่จะได้คำตอบที่ดีพอ” น.ส.ณาตยากล่าว
สำหรับการงดออกอากาศรายการตอบโจทย์ฯ น.ส.ณาตยา ได้เขียนว่า ผู้ที่ให้คำตอบได้ดีที่สุดก็คือผู้บริหารสูงสุดของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
“สมชัย” แจงแค่ชะลอออกอากาศ ยันไม่มีใครกดดัน
ด้านเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ รายงานว่า นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผอ.สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ให้สัมภาษณ์ถึงการยุติการออกอากาศรายการตอบโจทย์ ในวันที่ 15 มี.ค.2556 ว่า เป็นการตัดสินใจโดยไม่มีแรงกดดันจากสถาบัน หน่วยงาน หรือกลุ่มบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น ภายใต้สถานการณ์ที่ตึงเครียด และมีปัจจัยอื่นแวดล้อม อันอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของทีมงาน ทีมผู้บริหารจึงตัดสินใจชะลอการออกอากาศรายการตอบโจทย์ฯ เพื่อทบทวนให้เกิดความรอบด้าน และพิจารณาความเหมาะสมรวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
“ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดกระบวนการพิจารณาอย่างรอบด้าน ผู้บริหารจึงนำเสนอเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งเป็นกลไกตามกฎหมาย” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัย ยังกล่าวว่า สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสยืนยันในภารกิจของสื่อสาธารณะ ที่ต้องเปิดให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งการนำเสนอประเด็นดังกล่าวมีเป้าหมาย เพื่อเปิดให้ประชาชนได้เกิดมิติการรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และถกเถียงในจุดยืนที่หลากหลาย ทั้งมุ่งหวังเพื่อพัฒนาด้านความคิดในการสื่อสารทางปัญญาของประเด็นที่ถูกถกเถียงในสังคมวงกว้าง แต่ถูกจำกัดขอบเขตอยู่เฉพาะในมุมมืด ภายใต้รูปแบบของรายการที่ให้แต่ละภาคส่วนที่มีความเห็นต่าง โดยเฉพาะประเด็นที่ละเอียดอ่อนได้ใช้เวทีสนทนาสาธารณะด้วยเหตุและผล
“แม้สังคมจะไม่เข้าใจในระยะเริ่มต้นก็ตาม แต่จะเชื่อมั่นว่าน่าจะสร้างความมั่นคงให้กับสังคมและประชาชนในระยะยาว” ผอ.ไทยพีบีเอสกล่าว
“เสริมสุข” ถามทำไมให้ “สมศักดิ์ เจียมฯ” ออกรายการ ถึง 3 วัน
ขณะที่นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บก.ข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว กรณีที่นายภิญโญระบุในแถลงการณ์ยุติการจัดรายการตอบโจทย์ฯ เนื่องจากถูกแทรกแซงอย่างไม่เป็นมืออาชีพ ว่า นายภิญโญคงจะดูลิเกมากไป การทำงานอย่างไม่เป็นมืออาชีพของรายการ ทำให้สังคมตั้งคำถาม โดยเฉพาะการที่ให้นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ออกรายการถึง 3 วันติดต่อกัน ซึ่งอยากขอความชัดเจนว่านายสมศักดิ์ มีราคาแค่ไหนถึงต้องให้ราคาถึง 3 วันติดต่อกัน ตนติดใจประเด็นนี้มาก อยากให้นายภิญโญตอบให้หายข้องใจ หรือว่ามีอะไรซ่อนเร้นเห็นต่างต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
นายเสริมสุขซึ่งทำงานกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสมาตั้งแต่ยุคก่อตั้ง กล่าวยืนยันว่าตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยมีผู้บริหารคนใดมาล้วงลูก หากที่นี่ไม่มีอิสระ เทปการสัมภาษณ์นายเด่น โต๊ะมีนา ตระกูลที่ถูกกล่าวหามาตลอดว่ามีแนวคิดแบ่งแยกดินแดนคงไม่ได้ออกอากาศ
“ออกแถลงการณ์อย่างนี้ท่าจะคบกันไม่ไหว ที่ผ่านมามีหลายทัศนะผมว่าสังคมน่าจะรับได้ ฟังหลายมุมมอง แต่ตอนมาเดี่ยวไมค์ แล้วมามีดีเบตอีกสองเทค อันนี้รับไม่ไหว ราคาหน้าตักมีเท่าไหร่ สมัยจักรภพ มีอำนาจเคยคิดจะมาเยือน ตรวจงานที่สถานี แต่ ผอ.เทพชัย ยุคนั้นชัดเจน จะมาทำแมวอะไร บอกไปชัดเจน มันก็เลยไม่มา เรื่องที่เกี่ยวกับท่านทักษิณ ทำให้บ้านเมืองเสียหายเห็นชัด มีความพยายามหลีกเลี่ยงไม่เอามาเป็นประเด็นพูด คุยเขียนแถลงการณ์เอาดีใส่ตัวอย่างนี้ต้องขอสักดอก” นายเสริมสุขกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ สำนักข่าวอิศรา
เครดิต Tnews
"อิศรา"เปิดชื่อ 3 บก.โร่พบ ผอ.TPBS ก่อนแบนตอบโจทย์ (สาเหตุที่โดนแบน)
วันนี้ ( 16 มี.ค.) สำนักข่าวอิศรารายงานว่า สาเหตุที่ นายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา และทีมงานรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ได้ตัดสินใจยุติการทำรายการตอบโจทย์ฯ ในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เนื่องจากรับไม่ได้ที่มีการแทรกแซงจากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
โดยหลังจากทราบการตัดสินของ นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผอ.สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่สั่งให้ยุติการออกอากาศเทปรายการตอบโจทย์ฯ ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 5 ที่มีนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ และนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นแขกรับเชิญ ซึ่งเดิมมีกำหนดออกอากาศ ในเวลา 21.45 น. ของวันที่ 15 มี.ค.2556 อย่างกะทันหัน ทั้งๆ ที่คณะกรรมการนโยบายสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสมีมติให้ออกอากาศต่อไปได้ ภายหลังมีผู้ชุมนุม “คนไทยผู้รักชาติ” มาร้องคัดค้าน ได้มีความพยายามจากทีมงานรายการตอบโจทย์ฯ ประสานไปยังนายสมชัยเพี่อขอให้เปลี่ยนการตัดสินใจ แต่ ผอ.สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสกลับยืนยันการตัดสินใจเดิม
รายงานข่าวยังแจ้งว่า หลังจากเทปรายการตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ฯ” ตอนที่ 5 ถูกแบนไม่ให้ออกอากาศ ทีมงานตอบโจทย์ฯ รวมถึงนายภิญโญ ก็มาหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งหลังพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียดเป็นเวลาหลายชั่วโมง นายภิญโญก็แจ้งต่อทีมงานว่าจะไม่จัดรายการตอบโจทย์ฯ อีกต่อไป แม้นายสมชัยจะติดต่อมาระหว่างนั้น เพื่อต่อรองว่า อาจจะนำเทปรายการตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ฯ” ตอนที่ 5 ไปออกอากาศในวันอังคารที่ 22 มี.ค.2556 แทน ก็ตาม
สำหรับเหตุผลในการเลิกจัดรายการตอบโจทย์ฯ ของนายภิญโญ ส่วนใหญ่ปรากฏในแถลงการณ์ซึ่งโพสต์ผ่านแฟนเพจของรายการ ในช่วงบ่ายวันนี้ (16 มี.ค.2556)
แต่เหตุผลสำคัญก็คือรับไม่ได้กับการแทรกแซงการทำงานโดยผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องบางกลุ่ม ทั้งๆ ที่ ทีมงานตอบโจทย์ฯ ได้ส่งเทปรายการตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ ทั้ง 5 ตอนให้นายสมชัยตรวจสอบล่วงหน้าก่อนออกอากาศ นอกจากนี้ ยังทำไปเพื่อรักษาจุดยืนที่ต้องการรักษาเสรีภาพการทำงานในฐานะสื่อมวลชน
แหล่งข่าวจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ให้ข้อมูลว่า สำหรับพนักงานระดับบรรณาธิการ (บก.) ที่เข้าพบนายสมชัย ก่อนที่รายการตอบโจทย์ฯ ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ฯ” ตอนที่ 5 จะถูกสั่งให้ยุติการออกอากาศ เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค.2556 ประกอบด้วย น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ บก.ข่าวสังคมและนโยบายสาธารณะ น.ส.ณัฎฐา โกมลวาทิน บก.ข่าวอาเซียน และนายบุตรรัตน์ บุตรพรม บก.รายการข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ น.ส.ณาตยา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ใจความว่า แนวทางการสื่อสารเรื่องอ่อนไหวในสังคมไทย ควรจะใช้วิธีที่ทำให้สื่อไม่กลายเป็นชนวนความขัดแย้งเสียเอง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งยากจะแตะต้องอย่างฉายฉวย สื่อที่จะทำเรื่องนี้ต้องมองหาทางเลือกของวิธีการนำเสนออย่างเหมาะสม
“เราต่างก็รู้กันดีกว่าความศรัทธาต่อสถาบันฯ เป็นเรื่องที่ยากจะแตะต้องอย่างฉาบฉวย สื่อมวลชนที่จะทำเรื่องนี้ด้วยความรับผิดชอบต้องมองหาทางเลือกของวิธีการนำเสนออย่างเหมาะสม มีกรณีตัวอย่างเช่น ศ.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ เคยเสนอวิธีเล่าผ่านละคร หรือในกรณีสารคดี 2475 ที่แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่ก็ยังสะท้อนถึงความพยายามที่จะเล่าเรื่องอย่างมีศิลปะและรอบคอบ รวมถึงการเสนอเรื่องปฏิรูปพุทธศาสนาในประเทศไทยด้วยการตั้งคำถามใหม่ ไม่ใช่มุ่งหาคำตอบเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ บอกไว้ว่า ในความขัดแย้งเพราะศรัทธาที่แรงกล้านั้น การตั้งคำถามใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีใครคิดถาม ก็นับว่าได้ทำหน้าที่แล้ว เพราะเรื่องความศรัทธาของคนส่วนใหญ่นั้นอันตรายหากจะหาคำตอบจากคนไม่กี่คน และไม่มีวันที่จะได้คำตอบที่ดีพอ” น.ส.ณาตยากล่าว
สำหรับการงดออกอากาศรายการตอบโจทย์ฯ น.ส.ณาตยา ได้เขียนว่า ผู้ที่ให้คำตอบได้ดีที่สุดก็คือผู้บริหารสูงสุดของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
“สมชัย” แจงแค่ชะลอออกอากาศ ยันไม่มีใครกดดัน
ด้านเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ รายงานว่า นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผอ.สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ให้สัมภาษณ์ถึงการยุติการออกอากาศรายการตอบโจทย์ ในวันที่ 15 มี.ค.2556 ว่า เป็นการตัดสินใจโดยไม่มีแรงกดดันจากสถาบัน หน่วยงาน หรือกลุ่มบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น ภายใต้สถานการณ์ที่ตึงเครียด และมีปัจจัยอื่นแวดล้อม อันอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของทีมงาน ทีมผู้บริหารจึงตัดสินใจชะลอการออกอากาศรายการตอบโจทย์ฯ เพื่อทบทวนให้เกิดความรอบด้าน และพิจารณาความเหมาะสมรวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
“ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดกระบวนการพิจารณาอย่างรอบด้าน ผู้บริหารจึงนำเสนอเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งเป็นกลไกตามกฎหมาย” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัย ยังกล่าวว่า สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสยืนยันในภารกิจของสื่อสาธารณะ ที่ต้องเปิดให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งการนำเสนอประเด็นดังกล่าวมีเป้าหมาย เพื่อเปิดให้ประชาชนได้เกิดมิติการรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และถกเถียงในจุดยืนที่หลากหลาย ทั้งมุ่งหวังเพื่อพัฒนาด้านความคิดในการสื่อสารทางปัญญาของประเด็นที่ถูกถกเถียงในสังคมวงกว้าง แต่ถูกจำกัดขอบเขตอยู่เฉพาะในมุมมืด ภายใต้รูปแบบของรายการที่ให้แต่ละภาคส่วนที่มีความเห็นต่าง โดยเฉพาะประเด็นที่ละเอียดอ่อนได้ใช้เวทีสนทนาสาธารณะด้วยเหตุและผล
“แม้สังคมจะไม่เข้าใจในระยะเริ่มต้นก็ตาม แต่จะเชื่อมั่นว่าน่าจะสร้างความมั่นคงให้กับสังคมและประชาชนในระยะยาว” ผอ.ไทยพีบีเอสกล่าว
“เสริมสุข” ถามทำไมให้ “สมศักดิ์ เจียมฯ” ออกรายการ ถึง 3 วัน
ขณะที่นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บก.ข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว กรณีที่นายภิญโญระบุในแถลงการณ์ยุติการจัดรายการตอบโจทย์ฯ เนื่องจากถูกแทรกแซงอย่างไม่เป็นมืออาชีพ ว่า นายภิญโญคงจะดูลิเกมากไป การทำงานอย่างไม่เป็นมืออาชีพของรายการ ทำให้สังคมตั้งคำถาม โดยเฉพาะการที่ให้นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ออกรายการถึง 3 วันติดต่อกัน ซึ่งอยากขอความชัดเจนว่านายสมศักดิ์ มีราคาแค่ไหนถึงต้องให้ราคาถึง 3 วันติดต่อกัน ตนติดใจประเด็นนี้มาก อยากให้นายภิญโญตอบให้หายข้องใจ หรือว่ามีอะไรซ่อนเร้นเห็นต่างต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
นายเสริมสุขซึ่งทำงานกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสมาตั้งแต่ยุคก่อตั้ง กล่าวยืนยันว่าตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยมีผู้บริหารคนใดมาล้วงลูก หากที่นี่ไม่มีอิสระ เทปการสัมภาษณ์นายเด่น โต๊ะมีนา ตระกูลที่ถูกกล่าวหามาตลอดว่ามีแนวคิดแบ่งแยกดินแดนคงไม่ได้ออกอากาศ
“ออกแถลงการณ์อย่างนี้ท่าจะคบกันไม่ไหว ที่ผ่านมามีหลายทัศนะผมว่าสังคมน่าจะรับได้ ฟังหลายมุมมอง แต่ตอนมาเดี่ยวไมค์ แล้วมามีดีเบตอีกสองเทค อันนี้รับไม่ไหว ราคาหน้าตักมีเท่าไหร่ สมัยจักรภพ มีอำนาจเคยคิดจะมาเยือน ตรวจงานที่สถานี แต่ ผอ.เทพชัย ยุคนั้นชัดเจน จะมาทำแมวอะไร บอกไปชัดเจน มันก็เลยไม่มา เรื่องที่เกี่ยวกับท่านทักษิณ ทำให้บ้านเมืองเสียหายเห็นชัด มีความพยายามหลีกเลี่ยงไม่เอามาเป็นประเด็นพูด คุยเขียนแถลงการณ์เอาดีใส่ตัวอย่างนี้ต้องขอสักดอก” นายเสริมสุขกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ สำนักข่าวอิศรา
เครดิต Tnews