แอบคิดถึงเมื่อก่อนตอนที่อยู่ครอบครัวใหญ่ มี คุณปู่ คุณย่า คุณอา 3 คน และก็ตัว จขกท. เอง
ช่วงเย็นๆค่ำๆ บางทีก็ยาวจนเกือบดึก สมาชิกในครอบครัวทุกคนจะต้องมานั่งล้อมวง “กำผัก”
(เตรียมผักพวกกระเพรา ตำลึง ฯลฯ ไปขายที่ตลาดตอนเช้ามืด)
แล้วก็ดูละครหลังข่าวกันไปด้วย ทั้งบ้านมีกัน 6 คน กับโทรทัศน์เครื่องเดียว
สมัยนั้นเป็นขาวดำซะด้วยสิ รีโมทก็ไม่มี จะเปลี่ยนช่องทีต้องวิ่งไปหมุนที่เครื่อง แกร๊กกกกกก
ดูได้แปบนึง พอมีโฆษณา ก็วิ่งไปเปลี่ยนช่องอีก แกร๊กกกก
สมัยนั้นละครจะมีแค่สองช่อง คือ ช่องสาม กับ ช่องเจ็ด
เป็นไปไม่ได้เลย ที่คนหกคนจะชอบดูละครเรื่องเดียวกัน
คนนึงจะดูช่องสาม อีกคนนึงจะดูช่องเจ็ด
บางวันที่ละครตอนอวสาน จขกท. ถึงขั้น ดราม่า บ่อน้ำตาแตก
เพื่อให้ได้ดูละครเลยล่ะ 55+ (จริงจังมาก)
คุณย่าก็เข้าข้าง หลานสุดที่รักค่ะ “จะอะไรนักหนา เด็กมันอยากดูอะไรก็ให้มันดูไปสิปล่อยให้มันร้องไห้ หนวกหู”
ฟากคุณอาที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็จะงอล เดินกระทึบพื้นบ้านที่เป็นไม้ดังปึงๆ ลงบันไดไป
(ช่วงเวลานี้แอบรู้สึกผิด แหะๆ)
บางทีคุณปู่มาทีหลัง แต่แทรกนั่งหน้า บังคุณย่าที่ดูละครอยู่
คุณย่า : เอ๊ะตานี่ มาถึงก็นั่งบังเลย (เอาเปลือกหมากเขวี้ยงหลัง)
คุณปู่ : เอ๊ะยายนี่ หันมามองตาขวาง (น่ากลัวมาก) ข้านั่งบังเอ็ง เอ็ง ก็เขยิบไปสิ (อ้าววว)
คุณย่า : ก็ข้านั่งของข้าอยู่อย่างนี้ตั้งนานแล้ว มานี่ มานั่งตรงนี้ ช่วยกัน “กำผัก”
(ได้คนช่วย กำผักเพิ่มมาอีก 1 คน แถมไม่บังละครอีก คุณย่านี่สุดยอดไปเลย)
แล้วคุณอา ก็เดินเข้ามาพร้อมจานข้าวที่ตักมาจากในครัวเพื่อมา “ยืน” ดูละครด้วย
แต่ว่าไม่ได้มายืนป่าวๆนะคะ มาถึง ก็ แกร๊กกกกกกก เปลี่ยนช่องค๊า.......
คุณปู่ : จะเปลี่ยนทำไม ข้าดูช่องนี้ก็ดีอยู่แล้ว
คุณอา : ไม่เอา เรื่องนั้นไม่เห็นจะดีเลย น่าเบื่อ บลาๆๆๆๆ ดูช่องนี้ดีกว่า
คุณปู่ : อี 5 (ไม่ใช่ว่าไม่สุภาพนะคะ แต่คนที่บ้านเค้าเล่นกันแบบนี้จริงๆนะ)
พอทุกคนเถียงกันจบ กันมาอีกที คุณหลาน (ก็ จขกท. เองนี่ล่ะค่ะ) หลับไปแล้ว แป่วววววว
นั่งดูละครคนเดียวเหงาจังเลยค่ะ คิดถึงสมัยก่อนนั่งดูละครพร้อมหน้าพร้อมตา
ช่วงเย็นๆค่ำๆ บางทีก็ยาวจนเกือบดึก สมาชิกในครอบครัวทุกคนจะต้องมานั่งล้อมวง “กำผัก”
(เตรียมผักพวกกระเพรา ตำลึง ฯลฯ ไปขายที่ตลาดตอนเช้ามืด)
แล้วก็ดูละครหลังข่าวกันไปด้วย ทั้งบ้านมีกัน 6 คน กับโทรทัศน์เครื่องเดียว
สมัยนั้นเป็นขาวดำซะด้วยสิ รีโมทก็ไม่มี จะเปลี่ยนช่องทีต้องวิ่งไปหมุนที่เครื่อง แกร๊กกกกกก
ดูได้แปบนึง พอมีโฆษณา ก็วิ่งไปเปลี่ยนช่องอีก แกร๊กกกก
สมัยนั้นละครจะมีแค่สองช่อง คือ ช่องสาม กับ ช่องเจ็ด
เป็นไปไม่ได้เลย ที่คนหกคนจะชอบดูละครเรื่องเดียวกัน
คนนึงจะดูช่องสาม อีกคนนึงจะดูช่องเจ็ด
บางวันที่ละครตอนอวสาน จขกท. ถึงขั้น ดราม่า บ่อน้ำตาแตก
เพื่อให้ได้ดูละครเลยล่ะ 55+ (จริงจังมาก)
คุณย่าก็เข้าข้าง หลานสุดที่รักค่ะ “จะอะไรนักหนา เด็กมันอยากดูอะไรก็ให้มันดูไปสิปล่อยให้มันร้องไห้ หนวกหู”
ฟากคุณอาที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็จะงอล เดินกระทึบพื้นบ้านที่เป็นไม้ดังปึงๆ ลงบันไดไป
(ช่วงเวลานี้แอบรู้สึกผิด แหะๆ)
บางทีคุณปู่มาทีหลัง แต่แทรกนั่งหน้า บังคุณย่าที่ดูละครอยู่
คุณย่า : เอ๊ะตานี่ มาถึงก็นั่งบังเลย (เอาเปลือกหมากเขวี้ยงหลัง)
คุณปู่ : เอ๊ะยายนี่ หันมามองตาขวาง (น่ากลัวมาก) ข้านั่งบังเอ็ง เอ็ง ก็เขยิบไปสิ (อ้าววว)
คุณย่า : ก็ข้านั่งของข้าอยู่อย่างนี้ตั้งนานแล้ว มานี่ มานั่งตรงนี้ ช่วยกัน “กำผัก”
(ได้คนช่วย กำผักเพิ่มมาอีก 1 คน แถมไม่บังละครอีก คุณย่านี่สุดยอดไปเลย)
แล้วคุณอา ก็เดินเข้ามาพร้อมจานข้าวที่ตักมาจากในครัวเพื่อมา “ยืน” ดูละครด้วย
แต่ว่าไม่ได้มายืนป่าวๆนะคะ มาถึง ก็ แกร๊กกกกกกก เปลี่ยนช่องค๊า.......
คุณปู่ : จะเปลี่ยนทำไม ข้าดูช่องนี้ก็ดีอยู่แล้ว
คุณอา : ไม่เอา เรื่องนั้นไม่เห็นจะดีเลย น่าเบื่อ บลาๆๆๆๆ ดูช่องนี้ดีกว่า
คุณปู่ : อี 5 (ไม่ใช่ว่าไม่สุภาพนะคะ แต่คนที่บ้านเค้าเล่นกันแบบนี้จริงๆนะ)
พอทุกคนเถียงกันจบ กันมาอีกที คุณหลาน (ก็ จขกท. เองนี่ล่ะค่ะ) หลับไปแล้ว แป่วววววว