จขกท.อายุ 35 นะคะ แฟนอายุมากกว่า 1 ปี จขกท.ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น แต่คุณแฟน เคยมีแน่ๆล่ะ
ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดนะคะ คุณแฟนไปทำงานจะกลับมาเจอกันครั้งละ 1-2 สัปดาห์
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เริ่มมีเพศสัมพันธ์กับคุณแฟน และมีเพศสัมพันธ์กันทุกวันติดกัน 4 วัน(เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร)
แต่วันที่ 4 เริ่มมีอาการเจ็บมาก พอเช้ารุ่งขึ้น จขกท.มีอาการ แสบบริเวณอวัยวะเพศ และฉี่ลำบากสุดๆ เพราะมันแสบมาก
ตอนแรกนึกว่าเป็นเพราะการเสียดสีกันตามปกติ
คืนวันพุธ แทบนอนไม่หลับเลยค่ะ ไข้ขึ้น ปวดแสบปวดร้อน ฉี่นี่แสบสุดๆ มีรอยของเหลวเปื้อนกางเกงใน ไม่มีสีน่าจะเป็นน้ำใสๆ
เช้าวันพฤหัส เลยเปิดดูที่อวัยวะเพศ พบตุ่มขึ้นจำนวนมากเลยค่ะ เอาแล้ว!!!! เป็นอะไรว้า....เปิดหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตโดยทันใด
สงสัยว่าเป็นเริมแน่ๆ เพราะอาการใกล้เคียงสุด บึ่งรถไปหาคุณหมอในเมือง เพื่อตรวจ และตรวจหามะเร็งมดลูกประจำปีไปด้วยเลย
คุณหมอแจ้งว่า.......เป็นเริมที่อวัยวะเพศจริงๆค่ะ.... หน้าเสียเลยเรา...
จากการสอบถามคุณหมอ และการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ก็ทำให้ทราบว่า เป็นการแสดงอาการครั้งแรก ทำให้เป็นหนัก
เราเลยมานั่งคิดว่า เอ...ก็ในเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับแฟนมาตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งเป็น เพราะเชื้อมันเพาะ 2-22 วันนี่นา
เอ๊ะ....รึคุณแฟนพึ่งไปรับเชื้อมา
โทรด่วนเลยค่ะ.....พี่ ระหว่างที่เราคบกัน ไปมีอะไรกับใครรึเปล่า? เจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีๆๆๆๆๆ
เราก็เชื่อใจเค้านะคะ แต่ก็มี ถามคอนเฟิร์มไปอีกรอบ...คำตอบคือไม่มี แล้วให้เราไปหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนค่อยมาถามเค้า...(เค้าชักจะเคือง)
เราเลยนั่งอ่านข้อมูลตลอด 2 วัน ก็เห็นบางข้อความบอกว่า 50% ของผู้หญิงที่ติดเชื้อครั้งแรก อาจไม่แสดงอาการ
อาการจะแสดงออกเมื่อพักผ่อนน้อย ร่างกายอ่อนแอ.........นั่งนึกย้อนกลับไปดู เออ...4 วันนั้น นั่งดูบอล ดูหนัง กันทั้งคืนเลย แถมเป็นหวัดด้วย นอนน้อยมากๆ....แสดงว่าเราก็คงติดจากเค้ามานานแล้ว แต่มันเพิ่งมาแสดงอาการ...
เค้าบอกเค้าไม่รู้ว่าเค้ามีเชื้อ เพราะไม่เคยมีอาการเยอะแบบเรา ก็เหมือนเป็นตุ่มบนอวัยวะเพศ ล้างสบู่ แล้วก็หาย (ชิวมากกกก)
เราเริ่มมีอาการหนักตั้งแต่วันพุธ ไปหาหมอวันพฤหัส วันนี้วันเสาร์แล้ว ตอนกลางคืนนอนหลับไม่สนิทซักคืน ไข้ขึ้น (กินยาลดไข้)
เจ็บแสบมากเวลาอวัยวะเพศโดนน้ำ ตุ่มยังเห็นเป็นสีขาวๆอยู่ น้ำที่ตุ่มเหมือนแตกแล้วแหล่ะค่ะ เป็นรอยบุ๋มตรงกลางตุ่ม แต่ความแสบนี่สุดๆๆ
ถามนะคะ....
1. อาการแสบเนี่ย เพื่อนๆที่เคยเป็น มันจะอยู่กับเราไปกี่วันคะ ถึงจะตกสะเก็ด แล้วอาการแสบหายไป บอกได้เลยเจ็บสุดๆ T T
2. ตอนนี้ทานยาคุมกำเนิดอยู่ด้วย ประจำเดือนจะมาวันพฤหัสหน้า เราควรกินยาคุมต่อโดยไม่เว้น 7 วันเพื่อเลื่อนประจำเดือนไม่ให้มันทรมาน
กว่านี้หรือไม่คะ
3. การใช้ชีวิตประจำวันกับสมาชิกในครอบครัว เช่น ของใช้ต่างๆ การใช้ห้องน้ำ โถส้วม ต้องระวังแค่ไหน เพราะไม่ใช่เริมที่ปาก แต่เป็นเริมที่
อวัยวะเพศ ซึ่งติดต่อทางเพศสัมพันธ์ บางเวปบอกว่า ไม่ติดต่อข้ามสายพันธ์ แต่บางเวปบอกเชื้อมันพัฒนาแล้วอาจติดได้
4. การกินน้ำเยอะช่วยให้อาการดีขึ้นรึเปล่าคะ แต่ไม่อยากกินเยอะอ่ะค่ะ เพราะมันต้องฉี่บ่อย แสบมาก ถึงมากที่สุด
5. ข้อมูลในเน็ตบอก อาการจะเป็น 2-6 สัปดาห์ โห....นานขนาดนั้นเลยเหรอคะ ที่ต้องทรมานเนี่ย
สุดท้ายเสียใจจังเลยค่ะที่เป็น เพราะเป็นแล้วมันก็จะกลับมาเป็นใหม่ได้อีก กลัวจริงๆ ไม่ได้โทษแฟนนะคะ เพราะเค้าเองก็คงไม่รู้
เพราะไม่เคยมีอาการหนักแบบเรา ที่สำคัญเรากลัวมันจะติดไปสู่คนในครอบครัวเนี่ยสิคะ แถมถ้าคิดจะมีลูกก็คงต้องระวังตัวสุดๆอีก T T
เพราะมันสามารถติดต่อสู่บุตรในครรภ์ได้
ขอบคุณนะคะที่ฟังเราระบาย / และตอบคำถาม ^ ^
ปล. tag ---> สวนลุมพินีนี่ตรงสุดๆ
ห้องแป้ง....ผู้หญิงที่จะแต่งงาน ควรตรวจโรคทางเพศสัมพันธ์ก่อนนะคะ เราจะได้มีวิธีป้องกัน
ชานเรือน...สุขอนามัยของคนในครอบครัว
สอบถาม "เริมที่อวัยวะเพศ" เสียใจ และทรมานที่สุดเลยค่ะ
ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดนะคะ คุณแฟนไปทำงานจะกลับมาเจอกันครั้งละ 1-2 สัปดาห์
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เริ่มมีเพศสัมพันธ์กับคุณแฟน และมีเพศสัมพันธ์กันทุกวันติดกัน 4 วัน(เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร)
แต่วันที่ 4 เริ่มมีอาการเจ็บมาก พอเช้ารุ่งขึ้น จขกท.มีอาการ แสบบริเวณอวัยวะเพศ และฉี่ลำบากสุดๆ เพราะมันแสบมาก
ตอนแรกนึกว่าเป็นเพราะการเสียดสีกันตามปกติ
คืนวันพุธ แทบนอนไม่หลับเลยค่ะ ไข้ขึ้น ปวดแสบปวดร้อน ฉี่นี่แสบสุดๆ มีรอยของเหลวเปื้อนกางเกงใน ไม่มีสีน่าจะเป็นน้ำใสๆ
เช้าวันพฤหัส เลยเปิดดูที่อวัยวะเพศ พบตุ่มขึ้นจำนวนมากเลยค่ะ เอาแล้ว!!!! เป็นอะไรว้า....เปิดหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตโดยทันใด
สงสัยว่าเป็นเริมแน่ๆ เพราะอาการใกล้เคียงสุด บึ่งรถไปหาคุณหมอในเมือง เพื่อตรวจ และตรวจหามะเร็งมดลูกประจำปีไปด้วยเลย
คุณหมอแจ้งว่า.......เป็นเริมที่อวัยวะเพศจริงๆค่ะ.... หน้าเสียเลยเรา...
จากการสอบถามคุณหมอ และการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ก็ทำให้ทราบว่า เป็นการแสดงอาการครั้งแรก ทำให้เป็นหนัก
เราเลยมานั่งคิดว่า เอ...ก็ในเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับแฟนมาตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งเป็น เพราะเชื้อมันเพาะ 2-22 วันนี่นา
เอ๊ะ....รึคุณแฟนพึ่งไปรับเชื้อมา
โทรด่วนเลยค่ะ.....พี่ ระหว่างที่เราคบกัน ไปมีอะไรกับใครรึเปล่า? เจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีๆๆๆๆๆ
เราก็เชื่อใจเค้านะคะ แต่ก็มี ถามคอนเฟิร์มไปอีกรอบ...คำตอบคือไม่มี แล้วให้เราไปหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนค่อยมาถามเค้า...(เค้าชักจะเคือง)
เราเลยนั่งอ่านข้อมูลตลอด 2 วัน ก็เห็นบางข้อความบอกว่า 50% ของผู้หญิงที่ติดเชื้อครั้งแรก อาจไม่แสดงอาการ
อาการจะแสดงออกเมื่อพักผ่อนน้อย ร่างกายอ่อนแอ.........นั่งนึกย้อนกลับไปดู เออ...4 วันนั้น นั่งดูบอล ดูหนัง กันทั้งคืนเลย แถมเป็นหวัดด้วย นอนน้อยมากๆ....แสดงว่าเราก็คงติดจากเค้ามานานแล้ว แต่มันเพิ่งมาแสดงอาการ...
เค้าบอกเค้าไม่รู้ว่าเค้ามีเชื้อ เพราะไม่เคยมีอาการเยอะแบบเรา ก็เหมือนเป็นตุ่มบนอวัยวะเพศ ล้างสบู่ แล้วก็หาย (ชิวมากกกก)
เราเริ่มมีอาการหนักตั้งแต่วันพุธ ไปหาหมอวันพฤหัส วันนี้วันเสาร์แล้ว ตอนกลางคืนนอนหลับไม่สนิทซักคืน ไข้ขึ้น (กินยาลดไข้)
เจ็บแสบมากเวลาอวัยวะเพศโดนน้ำ ตุ่มยังเห็นเป็นสีขาวๆอยู่ น้ำที่ตุ่มเหมือนแตกแล้วแหล่ะค่ะ เป็นรอยบุ๋มตรงกลางตุ่ม แต่ความแสบนี่สุดๆๆ
ถามนะคะ....
1. อาการแสบเนี่ย เพื่อนๆที่เคยเป็น มันจะอยู่กับเราไปกี่วันคะ ถึงจะตกสะเก็ด แล้วอาการแสบหายไป บอกได้เลยเจ็บสุดๆ T T
2. ตอนนี้ทานยาคุมกำเนิดอยู่ด้วย ประจำเดือนจะมาวันพฤหัสหน้า เราควรกินยาคุมต่อโดยไม่เว้น 7 วันเพื่อเลื่อนประจำเดือนไม่ให้มันทรมาน
กว่านี้หรือไม่คะ
3. การใช้ชีวิตประจำวันกับสมาชิกในครอบครัว เช่น ของใช้ต่างๆ การใช้ห้องน้ำ โถส้วม ต้องระวังแค่ไหน เพราะไม่ใช่เริมที่ปาก แต่เป็นเริมที่
อวัยวะเพศ ซึ่งติดต่อทางเพศสัมพันธ์ บางเวปบอกว่า ไม่ติดต่อข้ามสายพันธ์ แต่บางเวปบอกเชื้อมันพัฒนาแล้วอาจติดได้
4. การกินน้ำเยอะช่วยให้อาการดีขึ้นรึเปล่าคะ แต่ไม่อยากกินเยอะอ่ะค่ะ เพราะมันต้องฉี่บ่อย แสบมาก ถึงมากที่สุด
5. ข้อมูลในเน็ตบอก อาการจะเป็น 2-6 สัปดาห์ โห....นานขนาดนั้นเลยเหรอคะ ที่ต้องทรมานเนี่ย
สุดท้ายเสียใจจังเลยค่ะที่เป็น เพราะเป็นแล้วมันก็จะกลับมาเป็นใหม่ได้อีก กลัวจริงๆ ไม่ได้โทษแฟนนะคะ เพราะเค้าเองก็คงไม่รู้
เพราะไม่เคยมีอาการหนักแบบเรา ที่สำคัญเรากลัวมันจะติดไปสู่คนในครอบครัวเนี่ยสิคะ แถมถ้าคิดจะมีลูกก็คงต้องระวังตัวสุดๆอีก T T
เพราะมันสามารถติดต่อสู่บุตรในครรภ์ได้
ขอบคุณนะคะที่ฟังเราระบาย / และตอบคำถาม ^ ^
ปล. tag ---> สวนลุมพินีนี่ตรงสุดๆ
ห้องแป้ง....ผู้หญิงที่จะแต่งงาน ควรตรวจโรคทางเพศสัมพันธ์ก่อนนะคะ เราจะได้มีวิธีป้องกัน
ชานเรือน...สุขอนามัยของคนในครอบครัว