คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
เขาเรียกว่า แบตแบบ MF ครับ หรือ Maintenance Free battery ครับ คือ ไม่ต้องไปบำรุงรักษาครับ ถ้าไฟมันหมด ก็โยนทิ้งเปลี่ยนใหม่ได้เลยครับ
จริง ๆ อายุการใช้งานของแบตปัจจุบัน จะอยู่ที่ 1 - 2 ปี + - ครับ บางคัน 8 เดือน 10 เดือน ก็ลาโลกแล้ว บางคัน 2 ปีกว่ายังใช้ได้ชิว ๆ ครับ
มันมีวิธีดูแบต เบื้องต้น แต่ก็ไม่เสมอไปนะครับ เพราะปัจจุบัน ผมว่า บางยี่ห้อออกแบบแปลก ๆ ครับ
เอาที่นิยมใช้นะครับ หลัก ๆ จะมี 3 แบบครับ
คือ ส่วนมาก ถ้าแบตแบบใช้น้ำกลั่นเนี่ย ฝาเติมน้ำมันจะเป็นลักษณะปุ่ม ที่เราสามารถเอานิ้วจับและหมุนได้เลย
ถัดมาคือ แบตแบบ MF คือ ไม่ต้องไปยุ่งกับการเติมน้ำกลั่นมันครับ การออกแบบ ส่วนใหญ่ ฝาเติมจะเสมอกับตัวแบตเตอรี่เลย การเปิดด้วยมือ จะไม่สามารถเปิดได้ ส่วนใหญ่ จะมีร่อง สำหรับใช้เหรียญเสียบแล้วหมุน และ บริเวณด้านตัวแบต จะมีข้อความสกีนคำว่า MF หรือ Maintenance Free อยู่ด้านข้างของแบตเตอรี่ครับ
สุดท้ายคือ SMF ครับ จริง ๆ มันก็คือ แบบ MF นั่นเหละ เพียงแต่ตัว S ที่เพิ่มขึ้นมา คือ Sealed คือ การซีลปิดด้านบนมาเลย พูดง่าย ๆ คือ มันไม่มีช่องสำหรับเติมน้ำกลั่นให้เห็นนั่นเหละครับ
ส่วนแบตแห้ง ผมไม่พูดถึงนะครับ เพราะมันมีราคาสูง และไม่ค่อยเป็นที่นิยม ซึ่ง แบตแห้งก็คือ แห้งจริง ๆ นะครับ ไม่มีส่วนผสมของน้ำกลั่น
แต่บางคน ก็ยังเรียกกันผิดนะครับ คือ แบตแบบ SMF บางคนก็เรียกว่า แบตแห้งครับ เพราะเห็นว่ามันไม่มีช่องสำหรับเติมน้ำกลั่น เลยเรียกแบตแห้ง ซึ่งจริง ๆ มันก็ไม่ใช่แบตแห้งครับ มันก็คือ แบตใช้น้ำกลั่นนี่เหละ เพียงแต่การออกแบบ ทำให้มีอัตราการกินน้ำกลั่นน้อยมาก ๆ ๆ ขนาดที่ว่า แบตพัง น้ำกลั่นยังไม่หมด อะไรประมาณนั้นครับ
ก่อนหน้านี้ จะมี แบตยี่ห้อนึง ที่โฆษณาว่า ไม่ง้อน้ำ อะไรสักอย่างนี่เหละ จริง ๆ ก็ไม่ใช่แบตแห้งอยู่ดีครับ มันคือ แบบ SMF หรือ ซีลฝาปิด ไม่ให้มีช่องสำหรับเติมน้ำกลั่นนั่นเองครับ
ถ้าถามว่า เปลี่ยนแบตแบบไหนดี
อันนี้ ก็แล้วแต่ครับ จะแบตใช้น้ำกลั่นแบบธรรมดา หรือ แบบ MF หรือ SMF ก็ใช้ได้หมดครับ
อย่างแบตเติมน้ำกลั่น ราคาก็จะถูกกว่าแบตชนิดอื่น ๆ แต่ก็อาจจะไม่สะดวกที่จะต้องคอยเช็คน้ำกลั่นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ถึงกับบ่อยมาก ผมว่า สัก เดือนละครั้งก็น่าจะโอเคครับ
ส่วนหากขี้เกียจต้องคอยเปิดฝากระโปรงดูน้ำกลั่น ก็ใช้แบบ MF นั่นเหละครับ ราคาจะสูงกว่าแบตแบบใช้น้ำกลั่น แต่คุณไม่ต้องห่วงเรื่องการเติมน้ำกลั่นไปตลอด จนกว่ามันจะพังนั่นเหละครับ
แต่ถ้าถามว่า แบบใดคุ้มค่า ผมก็ยังมองว่าเป็นแบบใช้น้ำกลั่นปกตินี่เหละครับ เพราะ ถ้าเอา ราคาแบตที่ถูกกว่าแบบอื่น บวกกับค่าน้ำกลั่น ต่อให้เติมเดือนละขวดเลยด้วย 2 ปี ก็ 24 ขวด รวมค่าน้ำกลั่นที่เติมตลอด 2 ปี มันก็ยังถูกกว่า ซื้อแบตแบบ MF ครับ
จริง ๆ อายุการใช้งานของแบตปัจจุบัน จะอยู่ที่ 1 - 2 ปี + - ครับ บางคัน 8 เดือน 10 เดือน ก็ลาโลกแล้ว บางคัน 2 ปีกว่ายังใช้ได้ชิว ๆ ครับ
มันมีวิธีดูแบต เบื้องต้น แต่ก็ไม่เสมอไปนะครับ เพราะปัจจุบัน ผมว่า บางยี่ห้อออกแบบแปลก ๆ ครับ
เอาที่นิยมใช้นะครับ หลัก ๆ จะมี 3 แบบครับ
คือ ส่วนมาก ถ้าแบตแบบใช้น้ำกลั่นเนี่ย ฝาเติมน้ำมันจะเป็นลักษณะปุ่ม ที่เราสามารถเอานิ้วจับและหมุนได้เลย
ถัดมาคือ แบตแบบ MF คือ ไม่ต้องไปยุ่งกับการเติมน้ำกลั่นมันครับ การออกแบบ ส่วนใหญ่ ฝาเติมจะเสมอกับตัวแบตเตอรี่เลย การเปิดด้วยมือ จะไม่สามารถเปิดได้ ส่วนใหญ่ จะมีร่อง สำหรับใช้เหรียญเสียบแล้วหมุน และ บริเวณด้านตัวแบต จะมีข้อความสกีนคำว่า MF หรือ Maintenance Free อยู่ด้านข้างของแบตเตอรี่ครับ
สุดท้ายคือ SMF ครับ จริง ๆ มันก็คือ แบบ MF นั่นเหละ เพียงแต่ตัว S ที่เพิ่มขึ้นมา คือ Sealed คือ การซีลปิดด้านบนมาเลย พูดง่าย ๆ คือ มันไม่มีช่องสำหรับเติมน้ำกลั่นให้เห็นนั่นเหละครับ
ส่วนแบตแห้ง ผมไม่พูดถึงนะครับ เพราะมันมีราคาสูง และไม่ค่อยเป็นที่นิยม ซึ่ง แบตแห้งก็คือ แห้งจริง ๆ นะครับ ไม่มีส่วนผสมของน้ำกลั่น
แต่บางคน ก็ยังเรียกกันผิดนะครับ คือ แบตแบบ SMF บางคนก็เรียกว่า แบตแห้งครับ เพราะเห็นว่ามันไม่มีช่องสำหรับเติมน้ำกลั่น เลยเรียกแบตแห้ง ซึ่งจริง ๆ มันก็ไม่ใช่แบตแห้งครับ มันก็คือ แบตใช้น้ำกลั่นนี่เหละ เพียงแต่การออกแบบ ทำให้มีอัตราการกินน้ำกลั่นน้อยมาก ๆ ๆ ขนาดที่ว่า แบตพัง น้ำกลั่นยังไม่หมด อะไรประมาณนั้นครับ
ก่อนหน้านี้ จะมี แบตยี่ห้อนึง ที่โฆษณาว่า ไม่ง้อน้ำ อะไรสักอย่างนี่เหละ จริง ๆ ก็ไม่ใช่แบตแห้งอยู่ดีครับ มันคือ แบบ SMF หรือ ซีลฝาปิด ไม่ให้มีช่องสำหรับเติมน้ำกลั่นนั่นเองครับ
ถ้าถามว่า เปลี่ยนแบตแบบไหนดี
อันนี้ ก็แล้วแต่ครับ จะแบตใช้น้ำกลั่นแบบธรรมดา หรือ แบบ MF หรือ SMF ก็ใช้ได้หมดครับ
อย่างแบตเติมน้ำกลั่น ราคาก็จะถูกกว่าแบตชนิดอื่น ๆ แต่ก็อาจจะไม่สะดวกที่จะต้องคอยเช็คน้ำกลั่นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ถึงกับบ่อยมาก ผมว่า สัก เดือนละครั้งก็น่าจะโอเคครับ
ส่วนหากขี้เกียจต้องคอยเปิดฝากระโปรงดูน้ำกลั่น ก็ใช้แบบ MF นั่นเหละครับ ราคาจะสูงกว่าแบตแบบใช้น้ำกลั่น แต่คุณไม่ต้องห่วงเรื่องการเติมน้ำกลั่นไปตลอด จนกว่ามันจะพังนั่นเหละครับ
แต่ถ้าถามว่า แบบใดคุ้มค่า ผมก็ยังมองว่าเป็นแบบใช้น้ำกลั่นปกตินี่เหละครับ เพราะ ถ้าเอา ราคาแบตที่ถูกกว่าแบบอื่น บวกกับค่าน้ำกลั่น ต่อให้เติมเดือนละขวดเลยด้วย 2 ปี ก็ 24 ขวด รวมค่าน้ำกลั่นที่เติมตลอด 2 ปี มันก็ยังถูกกว่า ซื้อแบตแบบ MF ครับ
แสดงความคิดเห็น
แบตเตอรี่ของรถยนต์ HONDA ACCORD 2.0 EL NEVI เป็นแบตชนิดไหนคะ
เมื่อเดือน พ.ย 55 รถดับสนิท สตาร์ทไม่ติด ตรวจสอบพบว่า แบตเตอรี่ อ่อน น้ำกลั่นแห้ง
ต้องพ่วงกับรถอีกคัน จึงจะสตาร์ทติด แล้วเอารถไปจอดไว้ที่บ้าน
เพื่อพรุ่งนี้เช้าจะได้นำรถไปเข้าศูนย์เพราะตอนนั้น เย็นมากแล้ว
พอรุ่งเช้า ก็สตาร์ทรถติด ไม่ต้องพ่วงกับรถอีกคันแล้ว
ก็ขับไปที่ศูนย์ พอเจอเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ ที่ศูนย์ฮอนด้า 2-3 คนบอกไม่ตรงกัน
คนนึงบอกเป็นแบตที่ต้องคอยเติมน้ำกลั่น มีอายุการใช้งาน เป็น 5 ปี 10 ปี
แต่ตอนนี้แบตเสื่อมไปแล้วเพราะน้ำกลั่นแห้ง ต้องเปลี่ยนแบตใหม่
อีกคนนึงบอกเป็นแบตชนิดแห้งไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีอายุการใช้งาน2-3 ปี ก็ควรเปลี่ยนแบตอันใหม่
แล้วตกลงจริงๆเป็นแบตแบบไหนคะ ผู้รู้ช่วยบอกทีนะคะ