เห็นเขาเครียดก็สงสารไม่รู้จะพูดยังไงดี (เนื้อหายาวนะครับ โปรดรับทราบ)

ผู้ชายขาวๆ ตี๋ๆ อายุ 33 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ ทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง กำลังเครียดเรื่องกู้เงินจะซื้อคอนโดฯ

แรกเริ่มเดิมทีไม่พูดให้ผมฟังเรื่องซื้อคอนโดฯ นะครับ จนเวลาล่วงเลยมาหลายเดือนผมเก็บกวาดห้องจึงได้เห็นหลักฐานการโอนเงินดาวน์ และสัญญาจะซื้อจะขาย สัญญาโอนสิทธิ์ต่างๆ (ซื้อใบจองต่อจากคนอื่นมาตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว) ในครั้งนั้นผมน้อยใจพอสมควรที่เรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมไม่ปรึกษากันก่อน(ผมรู้เรื่องเดือนที่ผ่านมานี่เอง)

ผมก็ต่อว่าเขาไปพอสมควร เพราะก่อนหน้าผมเคยชวนเขาซื้อคอนโดฯ แต่เขาบอกไม่ชอบชีวิตแบบคอนโดฯ เขาให้เหตุผลว่า เขาอยากได้ที่ดินด้วยจะได้ปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้า และที่สำคัญคือ เขาบอกว่า ตัวผมเองไม่ชอบให้มีคนมาเดินบนหัวของผมและผมชอบหมา เขาอยากให้ผมอยู่บ้านเดี่ยวและเลี้ยงหมามากกว่า แต่ตอนนี้เขาบอกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วเขาคิดว่าคอนโดฯ จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราทั้งคู่ได้ดีกว่าบ้านเดี่ยวและเขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา

ตกลงว่าหลังจากที่เขาให้เหตุผลกับผม ผมเข้าใจและรับฟังเขา เรื่องนั้นจบไปแล้ว ต่อมาผมเอารูปการตกแต่งคอนโดฯ สวยๆ สไตล์ที่ผมและเขาชอบมาโชว์ให้ดู และยังเพ้อฝันไปว่า จะทำห้องครัวใหญ่ๆ เราจะทำอาหารกินด้วยกัน เราจะไปเรียนทำขนมแล้วมาทำกินที่บ้าน เขาก็บอกให้ผมไปเรียนทำขนมส่วนเขาจะออกแบบแพ็คเกจน่ารักๆ แล้วหิ้วไปขายที่ทำงานด้วย ทุกอย่างลงตัวเหมือนเดิม ความน้อยใจของผมที่ผมน้อยใจเขา ผมตัดทิ้งไปแล้ว ผมลืมไปแล้ว

หลังจากนั้นต่อมา ผมสังเกตุเห็นเขาซึมๆ ไม่ร่าเริงเหมือนก่อน เขาพูดเรื่องเงินมากขึ้น ประหยัดมากขึ้นจนผมแปลกใจ (วันก่อนจะไปกินชาบูฯ ซึ่งผมมีบัตรส่วนลด แต่พอจะถึงร้านผมลืมบัตรส่วนลดไว้ที่ห้องพักซึ่งมันลดได้หกสิบกว่าบาท เขาก็บ่นๆ จนผมน้อยใจเลยบอกเขาไปว่า ผมไม่กินแล้วผมจะกลับห้องและผมก็เดินตากแดดกลับห้อง เขากลับมาง้อ มาขอโทษแล้วครับ และผมก็หายงอนแล้ว)  ผมตัดสินใจถามจึงได้รู้ว่า "เขากลัวกู้เงินไม่ผ่าน"

ผมปลอบใจไปแล้ว ผมอธิบายด้วยความรู้เท่าหางอึ่งของผมไปแล้วเรื่องกู้เงิน เรื่องหลักการกู้เงิน เขาก็ยิ้มออก แต่ต่อมาก็กลับไปซึมเหมือนเดิม ผมพยายามหยอกล้อ พาไปกินข้าว เอาอกเอาใจให้มากขึ้น ไลน์หา โทรหาบ่อยขึ้นด้วยความเป็นห่วง หวังอยากให้เขากลับมาเป็นคนร่าเริงเหมือนเดิม

แต่เขาก็ยังซึมๆ ครับ จากคนที่พูดจาเป็นต่อยหอย กลายเป็นคนเฉยๆ ซึมๆ  จากที่เล่นเกมส์จนดึกดื่น ต้องห้าม ต้องลากไปนอน ตอนนี้ไม่ห้ามอะไรเลย แต่เขาก็ไม่เล่น (มีแต่เข้าเฟซฯ ของโครงการ)

วันหยุดนี้คิดว่าจะชวนเขาไปดูอุปกรณ์ตกแต่งห้องครัว ไปดูการตกแต่งห้องครัว ตกแต่งบ้านสไตล์คอนโดฯ เผื่อเขาจะผ่อนคลายได้บ้าง

แต่ก็อย่างว่าครับผมกลัวเขาเหงา ซึม ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน

///  สิ่งที่อยากขอคำปรึกษานะครับ ///

คุณๆ เห็นควรว่าผมน่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี เพื่อให้เขามีกำลังใจระหว่างรอคำตอบจากสถาบันการเงินครับ?

------ ข้อมูลเพิ่มเติม ----------

ตัวเขาเองทำงานกับธนาคารแห่งนี้จะสามปีแล้ว ฐานเงินเดือนจริงๆ ห้าหมื่นกว่าบาท รับจริงๆ ตกหกหมื่นต้นๆ ภาระมีดังนี้ ค่าเช่าห้องพักเฉลี่ยเดือนละห้าพัน ค่าโทรศัพท์มือถือเดือนละไม่เกินพันห้า  มีบัตรเครดิตหนึ่งใบวงเงินน่าจะสองแสนกว่า(ปรากฎเห็นผ่านๆ ในใบแจ้งหนี้)แต่ใช้ไปเดือนไม่เกินสามพันจ่ายเต็มทุกเดือน และนอกจากนั้นก็ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายอะไรอีก นอกจากไปเที่ยวกับผม กินอาหารอร่อยๆ

ส่วนวงเงินที่เขาขอกู้เพื่อซื้อในครั้งนี้สองล้านครับ เพราะส่วนที่เกินไปหลักแสนเราจ่ายเงินสด

ส่วนตัวผมมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง อยู่เชียงใหม เทียวไปๆ มาๆ กรุงเทพฯ มาหาเขา เฉลี่ยสองสัปดาห์ต่อครั้ง แต่ช่วงนี้มาพักกับเขาเพราะเขาซึมผิดปรกติ บอกตรงๆ ว่าเป็นห่วง (คืนวันเสาร์ก็ตัวร้อน ไม่สบายต้องเทียวตืนมาเช็ดตัวให้ทั้งคืน วันทิตย์ก็ปล่อยให้นอนทั้งวัน มาเมื่อคืนก็หน้าซีดๆ กลับมาจากที่ทำงานบอกว่าปวดหัวมากเลยถอดเสื้อผ้าออกให้แล้วปล่อยให้นอนหลับยาวเลย ถามเมื่อเช้าบอกดีขึ้น วันนี้ไปทำงานแล้ว)

เหตุผลความกังวลใจของเขาจริงๆ แล้วผมคิดว่าคงเป็นเรื่องของเครดิตบูโรฯ ครับ  

เมื่อสาม-สี่ ปีก่อนหน้าผมเปิดบริษัทฯ ใหม่ๆ ผมต้องใช้เงินเยอะ ก็เลยขอยืมวงเงินเอย บัตรเงินสดเอย บัตรเครดิตเอย ของเขามาใช้ ซึ่งรวมๆ กันเป็นวงเงินมากกว่าสองล้าน และผมก็ผิดเองที่บริหารการเงินไม่ดีเท่าไหร่ทำให้ถูกทวงถามบ้าง มีจดหมายใบเตือนบ้าง แต่เราทั้งสองคนก็สู้มาจนใช้หนี้หมดแล้วครับ มียอมให้ฟ้องบางตัวแล้วไปตกลงที่ศาล และมีให้ยื่นโนติสย์จากสำนักงานทนายความมาแล้วผมยื่นขอแฮร์คัทไปบางตัว

ซึ่งสรุป ณ วันนี้ว่า เราใช้หนี้หมดแล้วตั้งแต่ปี 54 ครับ  แต่ในเอกสารแสดงจาก บ.บูโรฯ เกี่ยวกับประวัติเครดิตของเขา มันยังมีตัวหนังสือเยอะๆ แต่ก็สรุปยอดมาว่า ปิดบัญชี กันทุกตัวแล้ว (แต่ประวัติมันยังมีครับ ซึ่งผมคิดว่า เขาคงเครียดไอ้ที่ยังมีบันทึกประวัตินี่แน่นอน)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่