มาตรฐานที่รอการพัฒนาของผู้ตัดสินไทย by...สุรเดช มั่นวิมล

กลับมาอีกแล้ว กับคอลัมน์ ของสุรเดช มั่นวิมล...



เป็นอย่างที่ผมเขียนไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่มีผิดครับ สำหรับความมันระดับห้าดาวของฟุตบอล “โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2013” ที่ลงสนามนัดที่สองไปแล้วเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา
    
เชื่อว่าหลายคนคงคิดเหมือนกันว่า ฟุตบอลไทยยุคนี้เกมสนุก สูสี และชมได้อรรถรสมากกว่าปีก่อนๆ อาจจะเป็นเพราะหลายสโมสรในบ้านเราเริ่มพัฒนาเป็นมืออาชีพเพิ่มมากขึ้น ลีกบ้านเราจึงมีความน่าติดตามไปด้วย เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ

ส่วนเรื่องที่ดูแล้วยังไม่เดินหน้าไปกว่าเมื่อก่อนสักทีเห็นจะเป็น มาตรฐานการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินไทย เพราะเปิดซีซั่นมาเพียงสองเกม สโมสรและแฟนบอลก็ยังบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “กรรมการไทยยังมั่วได้ใจเหมือนเดิม”
        
ปัญหาเดิมๆ เหล่านี้ยังตามหลอกหลอนคนดูบอลบ้านเราอยู่เป็นประจำครับ เพราะการทำหน้าที่ผิดพลาดอยู่บ่อยๆ บางทีมันก็ทำให้อารมณ์เสียเหมือนกันนะครับ เพราะนอกจากจะทำให้ฟุตบอลขาดความสนุกในการติดตามแล้ว สำหรับคนทำทีมบางทีมันก็สร้างความเสียหายให้กับสโมสรได้เหมือนกัน

ปัญหาการตัดสินของกรรมการไทยจึงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ตลอดว่าจะพัฒนาอย่างไรกันดี ผมจึงพยายามรวบรวมปัญหาเหล่านี้มาจากเหล่านักฟุตบอลที่เล่นอยู่ในสนาม กลุ่มคนที่น่าจะให้คำตอบกับเราได้ดีที่สุด เนื่องจากได้สัมผัสการตัดสินแบบใกล้ชิด

นักฟุตบอลกว่าสิบชีวิตจากหลากหลายสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกให้ความร่วมมือในการตอบคำถามเดียวกันคือ “ข้อดีและข้อเสียของผู้ตัดสินเมืองไทยคืออะไร” และได้ข้อสรุปดังต่อไปนี้

เริ่มจากข้อดี  ข้อนี้นักบอลหลายคนใช้เวลาคิดนานเป็นพิเศษ 555 ส่วนใหญ่มองว่าการพูดจาภาษาเดียวกัน ทำให้สื่อสารกันง่าย น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของผู้ตัดสินไทยในปัจจุบัน รวมถึงเรื่องของสภาพร่างกายที่ส่วนใหญ่ฟิตสมบูรณ์พร้อมกับการทำหน้าที่
    
“หมดแล้วเหรอ...??” ผมถามกลับไปยังพี่ๆ น้องๆ นักฟุตบอลที่มาร่วมตอบคำถามของผม...และได้คำตอบกลับมาเหมือนๆ กันว่า “คิดข้อดีไม่ออกแล้ว”

“ไม่เป็นไรงั้นมาพูดกันถึงข้อเสียบ้าง”... คราวนี้มาเป็นตับ 5555 เอาเป็นว่าผมขอเรียงไปทีละข้อตามที่เหล่านักเตะได้แจงให้ฟังแล้วกันนะครับ

1. ตัดสินใจเร็วเกินไป บางจังหวะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดการฟาวล์ แต่ด้วยการที่ปากไว เป่าเร็ว ทำให้เกิดจังหวะปัญหาขึ้นบ่อยๆ
2. การตัดสินที่ไม่มีความเด็ดขาดและแม่นยำ นำมาซึ่งปัญหาไม่สามารถควบคุมเกมการแข่งขันได้ หรือที่เรียกกันว่า “เป่าออกทะเล”
3. ไม่พูดหรืออธิบายการตัดสินในจังหวะต่างๆ ให้นักฟุตบอลทราบ เช่น เมื่อนักฟุตบอลถามว่าทำไมถึงเป่าให้เป็นลูกฟาวล์ ผู้ตัดสินมักจะปฎิเสธการให้เหตุผลจากการทำหน้าที่ของตัวเอง
4. ทฤษฎีอาจเป๊ะ แต่เมื่อลงไปปฎิบัติหน้าที่ในสนามจริงและเจอกับแรงกดดันจากรอบด้านก็เกิดอาการขาดความมั่นใจ ซึ่งมีส่วนอย่างมากที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในการทำหน้าที่
5. เมื่อถูกกดดันจะใช้อารมณ์ในการเป่ามากเกินไป ทำให้เกมที่ไม่มีอะไรกลับเดือดขึ้นมาทันที
6. ยังมีความเกรงใจนักฟุตบอล โค้ช ผู้จัดการทีม หรือแม้กระทั่งผู้บริหารของสโมสร ทำให้การทำหน้าที่ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
7. ผู้ตัดสินฝีมือดียังมีน้อย ไม่เพียงพอต่อแมตช์การแข่งขันในลีกปัจจุบัน
ฯลฯ

เอาเป็นว่าประมาณนี้แล้วกันนะครับ เพราะหากเอามาเขียนให้อ่านทั้งหมดที่พูดคุยกับนักฟุตบอลมา พื้นที่จะไม่พอเอา ซึ่งเมื่ออ่านแล้วจะสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของผู้ตัดสินไทยได้เป็นอย่างดี ว่ามีจุดอ่อนในการทำหน้าที่ด้านใดบ้าง

ซึ่งผมมองว่าการตัดสินที่ผิดพลาดมันมีให้เห็นอยู่ทั่วโลก จนแทบจะเป็นเรื่องปกติเสียด้วยซ้ำ ทำให้หลายครั้งก็เห็นใจผู้ตัดสินไทยอยู่เหมือนกัน เพราะหลายท่านก็ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ บางเกมเป่าดีทั้งเกม แต่พอเกิดผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียวก็ถูกตราหน้าทันที เรียกได้ว่าทำดีเสมอตัว ทำพลาดเมื่อไหร่โดนด่าพ่อล่อแม่เมื่อนั้น

ดังนั้นหน่วยงานที่ดูแลผู้ตัดสินบ้านเราจึงต้องมาทบทวนกันให้ถี่ถ้วนว่าจะทำอย่างไร ให้มาตรฐานของกรรมการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผมเห็นว่าถึงเวลาอันสมควรแล้วที่วงการผู้ตัดสินบ้านเราควรจะปฏิบัติสองสิ่งนี้คือ 1.การปรับปรุงจุดที่บกพร่อง และ 2.กำจัดจุดอ่อนหรือเนื้อเน่าออกจากวงการ

วงการผู้ตัดสินบ้านเราน่าจะเพิ่มการประชุมหารือเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการทำหน้าที่ของกรรมการในแต่ละเกม ทุกวันนี้เทคโนโลยีในการถ่ายทอดสดพัฒนาไปไกลมากแล้ว ภาพช้าในการแข่งขันต่างๆ สามารถระบุได้ว่าใครทำหน้าที่ได้ดีหรือไม่ดีอย่างไร

ทำไมไม่เอาผู้ตัดสินที่เป่าจุดโทษมั่วๆ อยู่ร่ำไป มาดูภาพช้าๆ ชัดๆ จากเทปบันทึกการแข่งขัน ว่าการเป่าของเขาถูกต้อง เหมาะสมหรือไม่ เพื่อเป็นบทเรียนและประสบการณ์ในครั้งต่อไป ว่าควรหรือไม่ควรเป่าอย่างไร

ทำไมไม่เอาผู้ช่วยผู้ตัดสิน ที่ยกธงล้ำหน้าผิดๆ ถูกๆ 5-6 ครั้งต่อเกม มาดูภาพช้าว่าควรจะแก้ไข จังหวะการวิ่ง การมอง การตัดสินใจว่าควรที่จะต้องปรับปรุงตรงไหน

และที่สำคัญผู้ตัดสินจำพวกเป่าพลาดจนติดเป็นนิสัย ขอความกรุณาเถอะครับ หากทำหน้าที่แล้วเป็นภาระของวงการจริงๆ ก็อย่าฝืนเลย หาอย่างอื่นให้เขาทำจะดีกว่า

สิ่งเหล่านี้ทำได้ไม่ยากครับ ขอเพียงแค่เริ่มต้นทำกัน ซึ่งหากวงการผู้ตัดสินทำให้ทุกฝ่ายเห็นแล้วว่า มีความพยายามปรับปรุง แก้ไขอยู่เสมอ ถึงจะทำหน้าที่ผิดพลาด ผมเชื่อว่าหลายคนก็จะให้อภัย

ฉะนั้นอย่าทำเหมือนหูทวนลม เป่าผิดก็ผิดไป นัดหน้าก็มาผิดพลาดใหม่ อย่าคิดแค่ว่าคนไทยลืมง่าย เพราะสิ่งที่ผู้ตัดสินบางคนทำผิดซ้ำซากอยู่นี้ มันก็มีส่วนทำลายวงการฟุตบอลบ้านเราเหมือนกัน

จึงเรียนมาเพื่อทราบ...!!!

สุรเดช มั่นวิมล


*ขอบคุณภาพจากสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด และ สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี*

เครดิต http://www.hikicker.com/footballthai/news/columnists/7822.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่