วาระเรื่องกรรมการ เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สมาคมฟุตบอลไทยเราต้องบรรจุไว้ในนโยบายสำคัญ

ในทุก ๆ วงการนั้น

เมื่อคน มากกว่าสองคนมารวมกัน การเมืองจะอุบัติขึ้น
ทุกวงการเป็นอย่างนั้น
กรรมการฟุตบอลก็เหมือนกัน
หากไทยเราไม่มีกรรมการไปตัดสินในวงการฟุตบอลนานาชาติเลย หรือมีแต่ไม่สร้างกระบวนการเหล่านี้ไว้
เราอาจจะมีปัญหาในเรื่องเหล่านี้

หลักง่าย ๆ ก็เช่นตัวอย่าง มี กรรมการใน AFC มีอยู่ 3 ขั้วใหญ่ ๆ คือ ขั้ว A ,ขั้ว B และขั้ว C
ขั้ว A แบบซี้ปีก มีกรรมการจาก ซาอุ จีน บาเรนห์ โอมาน สิงคโปร มาเลย์ ยูเออี
ขั้ว B แบบซี้ปึ๊ก มีกรรมการจาก อุซเบ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อิหร่าน ฮ่องกง การ์ตร้า
ขั้ว C แบบซี้ปีก มีกรรมการจาก เกาหลีใต้ ใต้หวัน อินเดีย เยเมน คูเวต ทาจิกิสฐาน

เป็นธรรมดาเหลือเกินที่ประเทศของตน ต้องทำทุกอย่างให้ได้เปรียบมากที่สุด
ประเทศที่วางกลไกต่าง ๆ ไว้ ก็จะสามารถใช้ความได้เปรียบได้
กรรมการ นับเป็นกลไกที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมาก

ตัวอย่างเมื่อเกิดแมทซ์การแข่งขัน ซาอุ พบ ไทย
หากซาอุ มีกลไกเหล่า่นี้
สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ซาอุ จะขอจัดให้กรรมสายชั้ว A อาจเป็น จีน บาเรนห์ โอมาน สิงคโปร มาเลย์ ยูเออี มาตัดสิน

ในที่นี้ ได้เป็นกรรมการจาก จีนมาตัดสิน
จีนก็ได้บรรลุข้อตกลงว่า  นัดจีนแข่งกับซีเรีย  กรรมการจากซาอุเป็นผู้ตัดสิน

เมื่อการแข่งขัน กรรมการก็ทำหน้าที่ไปตามปกติ เป่าเป็นประโยชน์แค่ครั้งสองครั้งตลอดทั้งเกม
ก็สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันไปตลอดกาล

เรื่องง่าย ๆ ก็เป็นอย่างนี้
หากประเทศไหนไม่มี power เรื่องกรรมการเลย ก็จะเสียเปรียบทันทีแต่แรก

หากตัวอย่างที่ยก ซาอุ-ไทย  หากไทยเรามี Power กรรมการของเรา ก็จะเกิดการผลักดันให้เกิดกรรมการในขั้วอื่นเช่น B หรือ C
มาทำหน้าที่  ซึ่งก็จะไม่เสียเปรียบแต่แรก

ขอย้ำว่าทุกวงการเป็นอย่างนี้
ยิ่งวงการที่ใช้สายตากรรมการตัดสินก็ต้องยิ่งสร้าง Power ให้มาก ๆ เช่น มวยสากลสมัครเล่น เป็นต้น

เรื่องเหล่านี้ไทยเราต้องให้ความสำคัญ
ฟุตบอลไทยเรา จำเป็นเหลือเกินที่ต้องผลักดันให้ไปตัดสินในระดับนานาชาติให้มาก ๆ นอกจากจะได้นำมาตรฐานมาใช้กับไทยลีกแล้ว
ยังเป็นการป้องกันการถูกเอาเปรียบจากประเทศอื่น ๆ ด้วย

สามารถตั้งคณะทำงานและศึกษาจากเทปการแข่งขันต่าง ๆ รวมถึงสถิติการตัดสินต่าง ๆ ก็จะเห็นความมีนัยยะได้ตามนี้ครับ

รูปแบบช่องทางกลไกเรื่องกรรมการปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก  การดูแลเทคแคร์กรรมการที่มาตัดสินในประเทศเราแม้จะทำได้สุดยอดแค่ไหน
ก็ตาม ไม่เพียงพอที่จะได้ผลตามต้องการ มันต้องอยู่ในลักษณะการเข้าร่วมเป็นภาคีกัน เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และแลกเปลี่ยนผลประโยชน์

"ความคิดโคตรโกงเอาเปรียบไม่ควรมี แต่ความคิดระมัดระวังป้องกันควรมี"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่