ช่วงนั้นชีวิตรักก็ดี นอนกอดกันอบอุ่นในห้องนอน
มีลมเย็นๆ โกรกมาระบายอากาศทางหน้าต่างบนหัวเตียง
ผ้าม่านบางๆ ปิดไว้ กันแสงแยงตา
กุ๊กกิ๊กกันกระหน่ำ อย่างกะแม่บ้านซื้อของเซลล์.. อ๊าาาา ชีวิตในแดนสวรรค์
จนวันนึงเริ่มจับพิรุธได้ พอดีกับสามีเริ่มป่วยไอค๊อกแค๊ก
เราก็เหมือนป่วย ไม่สบายอยู่เป็นนิจ จะไปจับผิดอะไรเค้าไหว
กลับมาบ้านเข้าห้องนอนที จะดุ๊กดุ๋ยกันก็เหมือนไม่ใช่เรื่องของเราเพียงสองคน
ต้องพาลคิดไปถึงมือที่สาม สี่ ห้า.. จนไม่รู้ถึงมือที่เท่าไร
ก่อนหน้านี้สักพัก เราเห็นเขาเข้ามาในชีวิตคู่ของเรา ก็ปล่อยวางตามเวรตามกรรม
คิดว่าไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่ จนเขาตามมาถึงบ้าน! ขนข้าวของมาแบบไม่บอกให้ระแคะระคายก่อน
จะมาขออาศัยห้องนอนเดียวกับเรา จะบ้าหรอ! เป็นใครก็ไม่ยอม
ไม่ได้ใจบุญขนาดยกห้องนอนให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้
สามีตัวดี ก็ไม่เห็นเดือดร้อนตีหน้าเฉย มีอะไรๆ ก็ให้เราเคลียร์ตัวเอง อยู่เฉยๆ ทำเมินตลอด
จิตใจมันกระสับกระส่ายบอกไม่ถูก เขาทำให้เราเหม็นขี้.. จะไล่ก็ใจแม่พระเกิน ไม่กล้าเถียงกะคนหมู่มาก
เพราะหลังจากนั้นรู้ว่าเขาก็มีสามี พาสามีมาให้เห็นด้วย
แค่นั้นยังไม่พอ! อุ้มท้องมีลูกจากสามีเขามาด้วย
เราได้แต่ทนนอนมองเห็นเขาอุ้มท้องลูก บางวันก็โวยวายเอะอะจนเรานอนไม่หลับ
ไม่ช่วยรักษาความสะอาด ยังจะทำให้บ้านสกปรกขึ้น
เรารักสามีมาก หัวปักหัวปำเลยก็ว่าได้ มีอะไรก็ยอมขอแค่ได้อยู่กับเค้า
สามีก็เมินๆ หนีไปนอนนอกห้อง จนเราต้องตามไปหาเพราะคิดถึง
คนมันเคยนอนด้วยกันกอดกันทุกวัน
เรียกให้เค้ากลับมานอนในห้องด้วยกัน ก็ไม่ยอม
จะไล่มือที่สามให้ก็ไม่ทำ โถๆๆๆ พ่อ ทำไมเป็นคนแบบนี้
จนถึงวันที่เขาคลอดลูก เรื่องมันยิ่งหนักข้อขึ้น
ลูกร้องทีเอะอะโวยวายไปหมด
และไม่ได้มีเพียงหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเท่าไรเพราะไม่ค่อยสน
จะทำไรก็ทำไป ในเมื่อไม่ยอมไปจากชีวิตเรา
เราก็หนีเองก็ได้ ห้องนอนนั้นเราขอปิดตาย
ไม่ไปเหยียบเลยถ้าไม่จำเป็น
จนวันนึงจำเป็นต้องไปเอาของที่ห้องนอน
ทำใจแล้วว่าถ้าผ่านห้องนี้ ก็ต้องเห็นลูกๆ ของเขาด้วย
ป่านนี้คงโตพอจะมีปากเสียงกับเราล่ะสิ
ที่ก่อนหน้านี้อยู่บ้านเดียวกันไม่ค่อยเห็น
เพราะเราจิตตก หมกตัวแต่ห้องทำงาน ที่เอาไว้ซุกหัวนอนด้วย
จะหยิบจะกินอะไร ก็รีบๆ ซื้อ รีบๆ ทำมากินห้องนี้
จะได้ไม่ยุ่งไม่เห็นครอบครัวที่มีความสุขนั้น
ว่าวันๆ เขาทำอะไรกันบ้าง
เล่ามาระบายซะยาว ก็กลัวคนอ่านจะเบื่อ
ไปตอนที่เราปรี๊ดแตกทนครอบครัวใหม่นี้ไม่ไหวเลยดีกว่า
เขาเป็นอะไรที่ทำสกปรกมาก สามีอยู่กะเขา ก็มีแต่ป่วยไม่เคยช่วยดูแลหรือเห็นใจ
ชอบโวยวาย ชอบว๊ากกก! ตอนเช้าๆ ไม่รู้เป็นยังไง วีนตลอด
เราอด เราทนมากับครอบครัวใหม่นี้ ถึงปีเลยนะ
1 ปีของเรา กับการต้องยกห้องนอนให้ใครก็ไม่รู้
1 ปีของเรา ที่สงสารเด็กๆ เหล่านั้น ไม่กล้าไล่ไป
1 ปีของเรา ต้องคอยเก็บกวาดซากที่เขาทำสกปรกไว้เยี่ยงนางทาส
1 ปีของเรา กับความทรงจำ ที่นอนของเราที่ดุ๊กดุ๋ยกับสามี
1 ปีของเราหายไปไหน!!!!!
จนเราต้องร้องออกมาดังๆ ให้สามีได้ยินว่า
"พ่อ! เมื่อไรจะไล่ฝูงนกจากหน้าต่างซักที เหม็นมาก ขี้เต็มหน้าต่างจนล้นมาบนที่นอนเรา มันโตแล้วบางทีไม่อยู่
พ่อปิดหน้าต่างทลายรังมันซักที!!!!"
แล้วสามีก็เมิน..
จนหน้าที่นี้ บาปกรรมนี้ตกเป็นของเรา

เราต้องใจดำอำมหิต ปิดหน้าต่างห้องนอนลง
ทั้งแกะแคะ ล้าง กระซวก เรียกว่าทำทุกทางแล้ว
ขี้นกที่มันฝังตรงขอบหน้าต่าง มันซึมลึกมาก
ไม่เคยคิดเลยว่า เกิดมาจะใจบุญขนาดยกห้องนอนให้มันทำรัง
แล้วหนีกันไปนอนห้องเล็กๆ กับสามี
สามีบอกรอมันโตแล้วค่อยเอารังออก
จนมันโตแล้ว บินไปแล้วเซ็ตนึง แล้วกลับมาฟักไข่รุ่นที่สอง
ล่าสุดมาฟักรุ่นสามไว้ใบนึง เราเอาออกเลย เพราะรอแม่มันไม่มาซักที
เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพไว้ เคยนับได้เซ็ตนึงประมาณ 16 ตัว + / -
รังมันสร้างจี๊ดเดียว แล้วอาศัยโดยการเหยียบหัวต่อตัวกันสามสี่ชั้นตรงขอบหน้าต่าง
เรียกว่า "วิทยายุทธ์ไม่เบาเลยทีเดียว"
ต้องขออภัยที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดไปต่างๆ นานา
จนไปถึงท่านที่ต้องการช่วยออกคำแนะนำเรื่องปัญหาครอบครัว
กะมาเล่า ขำขำ นะค่ะ ทำให้ไม่พอใจก็ขออภัย
สุดท้ายนี้.. หลังจากนั้นเราก็ไม่เปิดหน้าต่างอีกเลย ถ้าเปิดก็แง้มนิดหน่อยให้อากาศระบายแล้วปิด
เคยเดินไปดูตึกข้างหลัง
อุแม่เจ้า!!! เพิ่งทราบว่าทั้งโครงการ เจ้านกมาสร้างรังเต็มหน้าต่างไปหมด
บางห้องปิดหน้าต่างไปเลย บางห้องปิดแล้วแต่เหลือซาก
บางห้องเปิดไว้เหมือนเรา จนรังมันใหญ่โตกว่าลูกฟุตบอล
มีเป็นร้อยๆ รัง นี่ที่คนอาศัย หรือนกอาศัยนี่
แล้วทำให้เราป่วยด้วย เพราะทั้งฝุ่นทั้งขี้นกมันลอยลมเข้ามาในบ้าน
เหม็นและเสียสุขภาพจิต
ไปดีก่าาาาา

เด๋วมีคนหลงมากระทู้นี้แล้วโมโหเรา ฟริ้วว วววว ว!#@!

เคยต้องสละห้องนอน.. เพราะมือที่ 3..4..5.. ถึงมือที่ 30 กว่าๆ ไหม ?
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะมีลมเย็นๆ โกรกมาระบายอากาศทางหน้าต่างบนหัวเตียง
ผ้าม่านบางๆ ปิดไว้ กันแสงแยงตา
กุ๊กกิ๊กกันกระหน่ำ อย่างกะแม่บ้านซื้อของเซลล์.. อ๊าาาา ชีวิตในแดนสวรรค์
จนวันนึงเริ่มจับพิรุธได้ พอดีกับสามีเริ่มป่วยไอค๊อกแค๊ก
เราก็เหมือนป่วย ไม่สบายอยู่เป็นนิจ จะไปจับผิดอะไรเค้าไหว
กลับมาบ้านเข้าห้องนอนที จะดุ๊กดุ๋ยกันก็เหมือนไม่ใช่เรื่องของเราเพียงสองคน
ต้องพาลคิดไปถึงมือที่สาม สี่ ห้า.. จนไม่รู้ถึงมือที่เท่าไร
ก่อนหน้านี้สักพัก เราเห็นเขาเข้ามาในชีวิตคู่ของเรา ก็ปล่อยวางตามเวรตามกรรม
คิดว่าไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่ จนเขาตามมาถึงบ้าน! ขนข้าวของมาแบบไม่บอกให้ระแคะระคายก่อน
จะมาขออาศัยห้องนอนเดียวกับเรา จะบ้าหรอ! เป็นใครก็ไม่ยอม
ไม่ได้ใจบุญขนาดยกห้องนอนให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้
สามีตัวดี ก็ไม่เห็นเดือดร้อนตีหน้าเฉย มีอะไรๆ ก็ให้เราเคลียร์ตัวเอง อยู่เฉยๆ ทำเมินตลอด
จิตใจมันกระสับกระส่ายบอกไม่ถูก เขาทำให้เราเหม็นขี้.. จะไล่ก็ใจแม่พระเกิน ไม่กล้าเถียงกะคนหมู่มาก
เพราะหลังจากนั้นรู้ว่าเขาก็มีสามี พาสามีมาให้เห็นด้วย
แค่นั้นยังไม่พอ! อุ้มท้องมีลูกจากสามีเขามาด้วย
เราได้แต่ทนนอนมองเห็นเขาอุ้มท้องลูก บางวันก็โวยวายเอะอะจนเรานอนไม่หลับ
ไม่ช่วยรักษาความสะอาด ยังจะทำให้บ้านสกปรกขึ้น
เรารักสามีมาก หัวปักหัวปำเลยก็ว่าได้ มีอะไรก็ยอมขอแค่ได้อยู่กับเค้า
สามีก็เมินๆ หนีไปนอนนอกห้อง จนเราต้องตามไปหาเพราะคิดถึง
คนมันเคยนอนด้วยกันกอดกันทุกวัน
เรียกให้เค้ากลับมานอนในห้องด้วยกัน ก็ไม่ยอม
จะไล่มือที่สามให้ก็ไม่ทำ โถๆๆๆ พ่อ ทำไมเป็นคนแบบนี้
จนถึงวันที่เขาคลอดลูก เรื่องมันยิ่งหนักข้อขึ้น
ลูกร้องทีเอะอะโวยวายไปหมด
และไม่ได้มีเพียงหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเท่าไรเพราะไม่ค่อยสน
จะทำไรก็ทำไป ในเมื่อไม่ยอมไปจากชีวิตเรา
เราก็หนีเองก็ได้ ห้องนอนนั้นเราขอปิดตาย
ไม่ไปเหยียบเลยถ้าไม่จำเป็น
จนวันนึงจำเป็นต้องไปเอาของที่ห้องนอน
ทำใจแล้วว่าถ้าผ่านห้องนี้ ก็ต้องเห็นลูกๆ ของเขาด้วย
ป่านนี้คงโตพอจะมีปากเสียงกับเราล่ะสิ
ที่ก่อนหน้านี้อยู่บ้านเดียวกันไม่ค่อยเห็น
เพราะเราจิตตก หมกตัวแต่ห้องทำงาน ที่เอาไว้ซุกหัวนอนด้วย
จะหยิบจะกินอะไร ก็รีบๆ ซื้อ รีบๆ ทำมากินห้องนี้
จะได้ไม่ยุ่งไม่เห็นครอบครัวที่มีความสุขนั้น
ว่าวันๆ เขาทำอะไรกันบ้าง
เล่ามาระบายซะยาว ก็กลัวคนอ่านจะเบื่อ
ไปตอนที่เราปรี๊ดแตกทนครอบครัวใหม่นี้ไม่ไหวเลยดีกว่า
เขาเป็นอะไรที่ทำสกปรกมาก สามีอยู่กะเขา ก็มีแต่ป่วยไม่เคยช่วยดูแลหรือเห็นใจ
ชอบโวยวาย ชอบว๊ากกก! ตอนเช้าๆ ไม่รู้เป็นยังไง วีนตลอด
เราอด เราทนมากับครอบครัวใหม่นี้ ถึงปีเลยนะ
1 ปีของเรา กับการต้องยกห้องนอนให้ใครก็ไม่รู้
1 ปีของเรา ที่สงสารเด็กๆ เหล่านั้น ไม่กล้าไล่ไป
1 ปีของเรา ต้องคอยเก็บกวาดซากที่เขาทำสกปรกไว้เยี่ยงนางทาส
1 ปีของเรา กับความทรงจำ ที่นอนของเราที่ดุ๊กดุ๋ยกับสามี
1 ปีของเราหายไปไหน!!!!!
จนเราต้องร้องออกมาดังๆ ให้สามีได้ยินว่า
"พ่อ! เมื่อไรจะไล่ฝูงนกจากหน้าต่างซักที เหม็นมาก ขี้เต็มหน้าต่างจนล้นมาบนที่นอนเรา มันโตแล้วบางทีไม่อยู่
พ่อปิดหน้าต่างทลายรังมันซักที!!!!"
แล้วสามีก็เมิน..
จนหน้าที่นี้ บาปกรรมนี้ตกเป็นของเรา
เราต้องใจดำอำมหิต ปิดหน้าต่างห้องนอนลง
ทั้งแกะแคะ ล้าง กระซวก เรียกว่าทำทุกทางแล้ว
ขี้นกที่มันฝังตรงขอบหน้าต่าง มันซึมลึกมาก
ไม่เคยคิดเลยว่า เกิดมาจะใจบุญขนาดยกห้องนอนให้มันทำรัง
แล้วหนีกันไปนอนห้องเล็กๆ กับสามี
สามีบอกรอมันโตแล้วค่อยเอารังออก
จนมันโตแล้ว บินไปแล้วเซ็ตนึง แล้วกลับมาฟักไข่รุ่นที่สอง
ล่าสุดมาฟักรุ่นสามไว้ใบนึง เราเอาออกเลย เพราะรอแม่มันไม่มาซักที
เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพไว้ เคยนับได้เซ็ตนึงประมาณ 16 ตัว + / -
รังมันสร้างจี๊ดเดียว แล้วอาศัยโดยการเหยียบหัวต่อตัวกันสามสี่ชั้นตรงขอบหน้าต่าง
เรียกว่า "วิทยายุทธ์ไม่เบาเลยทีเดียว"
ต้องขออภัยที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดไปต่างๆ นานา
จนไปถึงท่านที่ต้องการช่วยออกคำแนะนำเรื่องปัญหาครอบครัว
กะมาเล่า ขำขำ นะค่ะ ทำให้ไม่พอใจก็ขออภัย
สุดท้ายนี้.. หลังจากนั้นเราก็ไม่เปิดหน้าต่างอีกเลย ถ้าเปิดก็แง้มนิดหน่อยให้อากาศระบายแล้วปิด
เคยเดินไปดูตึกข้างหลัง
อุแม่เจ้า!!! เพิ่งทราบว่าทั้งโครงการ เจ้านกมาสร้างรังเต็มหน้าต่างไปหมด
บางห้องปิดหน้าต่างไปเลย บางห้องปิดแล้วแต่เหลือซาก
บางห้องเปิดไว้เหมือนเรา จนรังมันใหญ่โตกว่าลูกฟุตบอล
มีเป็นร้อยๆ รัง นี่ที่คนอาศัย หรือนกอาศัยนี่
แล้วทำให้เราป่วยด้วย เพราะทั้งฝุ่นทั้งขี้นกมันลอยลมเข้ามาในบ้าน
เหม็นและเสียสุขภาพจิต
ไปดีก่าาาาา