เห็นท่าน neozero บอกจะไม่ลงสปอยโซมะแล้ว ผมเลยขอทำลงแทน(แต่คงเน้นตัวหนังสือ+รายละเอียดด้านโภชนาการเท่าที่พอจะทราบมากกว่าลงภาพเน่อ) อนึ่งมีอะไรจะเสริมหรือจะท้วงติงบอกมาได้เลยครับ
------------------------------
-เปิดตอนมา คณาจารย์ในโทซึกิก็บ่นๆกันว่า ถึงช่วงเวลานี้อีกแล้วสินะ พร้อมกับคุยกันว่าพวกนักเรียนรู้เรื่องกิจกรรมนี้รึยัง อาจารย์โรแลนด์(เชฟยิ้มยากที่สอนโซมะทำเนื้อตุ๋นไวน์แดง) ก็บอกว่ามันเป็นอุปสรรค์ขั้นแรกที่เหล่านักเรียนต้องผ่านไปให้ได้ อาจจะมีนักเรียนบางคนที่ตกและต้องออกจากโรงเรียนไป แต่ก็จะมีบางส่วนที่ฉายแววความสามารถเจิดจรัสแสงออกมาเช่นกัน
-โซมะกำลังนอนหลับอยู่ในห้องก็ถูกปลุกทางท่อลำโพงจากรุ่นพี่อิชิกิ(สิบสุดยอดอันดับ7) อิชิกิขอร้องให้โซมะมาช่วยงานเขาหน่อยพอโซมะปฏิเสธไป อิชิกิก็เลยโผล่ออกมาหาจากบนเพดานซะเลย(แบบเดียวกับตอนที่ชวนโซมะมางานเลี้ยงต้อนรับ)
-สุดท้ายโซมะก็ต้องมาช่วยจนได้ โดนโซมะเดินคู่มาพร้อมกับยูกิ(สาวหัวซาลาเปาที่เลี้ยงสัตว์ในห้อง เชี่ยวชาญเรื่องเนื้อสัตว์ป่า) โซมะถามยูกิว่ารุ่นพี่อิชิกิจะให้พวกเขามาช่วยงานอะไร ยูกิก็ตอบไปว่า วันนี้มีการเก็บเกี่ยวผักในสวนของหอโพลาห์สตาร์ โซมะได้ยินดังนั้นเลยตกใจว่า นักเรียนในหอนี้ปลูกวัตถุดิบกันเองด้วยเหรอ? ซึ่งยูกิก็ตอบว่าใช่ พร้อมกับยกตัวอย่างไปว่า อิบุซากิ(ผู้ชายผมหยักโศกปิดหน้า ถนัดอาหารรมควัน)ก็ตัดไม้สำหรับเอามาใช้รมควันเอง ส่วนเรียวโกะ(สาวผมยาวที่ชวนให้โซมะดื่มเหล้าตอนงานเลี้ยงต้อนรับ)ก็หมักชิโอโคจิ*เอง ส่วนตัวเธอ(ยูกิ)ก็เลี้ยงไก่สายพันธุ์ฝรั่งเศษเอาไว้เช่นกัน
(ชิโอโคจิเป็น เครื่องปรุงรสที่ใช้ในอาหารญี่ปุ่นแบบหนึ่ง หมักจาก โคจิ(หัวเชื้อราสำหรับใช้หมัก) เกลือแล้วก็น้ำ)
-เมื่อเดินมาถึง ยูกิก็แนะนำให้โซมะได้รู้จักกับสวนผัก10ชนิดของรุ่นพี่อิชิกิ เมื่อไปถึงก็พบกับรุ่นพี่อิชิกิทำงานอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับ....
"ผ้าเตียว"ผืนเดียว (ตรงนี้เป็นหน้าเปิดตอน)
-เมงุมิที่เข้ามาช่วยงานอยู่ก่อนแล้วเดินถือตะกร้าผักมาหาพวกโซมะพร้อมกับโชว์ผักที่เก็บได้ให้กับเขาดู ส่วนอิชิกิก็เรียกทุกคนไปหาพร้อมกับให้โซมะลองทานมะเขือเทศที่ปลูกจากไร่ที่นี้ดู โซมะก็พบว่านอกจากผิวจะเต่งตึงแล้วยังมีรสหวานธรรมชาติมากอีกด้วย พร้อมกับชมว่าคุณภาพของผักอยู่ในระดับวิเศษไปเลย
-หลังจากทำงานไปได้สักพัก เมงุมิก็เดินเอาข้าวเที่ยงมาให้ทุกคนทานกัน เมื่อลองเปิดกล่องดูแล้วพบว่ามันเป้น"โอนิงิริ" (ข้าวปั้นสามเหลี่ยมญี่ปุ่น)ที่มีอยู่สามแบบ
-ยูกิลองชิมแบบแรกดูก่อนแล้วก็พบว่ามันเป็นข้าวปั้นไส้อกไก่ลวกกับซอสเนกิชิโอดาเระ(ซอสต้นหอมญี่ปุ่น,เกลือแล้วก็น้ำมัน) ซึ่งเธอก็ชมเปาะว่าอร่อย
-รุ่นพี่อิชิกิลองหยิบแบบที่สองขึ้นมาดูก็พบว่ามันเป็นไส้คอมบุต้มซีอี้วธรรมดา(ไส้มาตฐานของโอนิงิริ) แต่เมื่อลองทานดูแล้วปรากฎว่าเมงุมิผสมชีสเข้าไปใส่กับคอมบุด้วย ซึ่งเธอก็บอกว่ารสหวานของข้าวกับไส้คอมบุต้มซีอิ้วในโอนิงิริอันนี้นั้นไปได้ด้วยดีกับชีส
-ส่วนอันสุดท้ายนั้นโซมะขอเป็นคนลอง เมื่อกัดแล้วก็พบว่าได้กลิ่นกระเทียมเด่นออกมา เมงุมิเลยอธิบายว่า เธอทำไส้หมูหมักกับกระเทียมแล้วก็น้ำผึ้ง โดยเริ่มจากการต้มซี่โครงหมูส่วนหลังกับกระเทียมจนเนื้อนุ่ม หลังจากนั้นนำไปหมักหนึ่งวันกับมิโซะ,สาเกแล้วก็น้ำผึ้ง ซึ่งรสชาติจะไปได้ดีกับข้าว นอกจากนี้เธอยังเตรียมชาเขียวมาให้ทุกคนดื่มอีกด้วย
-หลังจากทุนคนทานเสร็จแล้วก็รู้สึกได้ถึงความสงบ รุ่นพี่อิชิกิบอกว่าอาหารที่ทานแล้วรู้สึกสงบนี้แหละคือเสน่ห์อาหารของทาโดโคโระจังล่ะ ซึ่งโซมะก็ถามเธอไปว่า ถ้าทำได้ขนาดนี้แล้วทำไมไม่เห็นแสดงในห้องเรียนหรืออะไรบ้างเลย ซึ่งเธอก็บอกว่าตอนอยู่ในห้องครัวหรือต่อหน้าคนอื่นเธอจะรู้สึกตื่นเต้นหัวโล่งไปหมดแล้วมักจะตามมาด้วยการทำผิดพลาด ซึ่งรุ่นอิชิกิกับยูกิก็ให้กำลังใจเธอไป(ยูกิมีบอกด้วยว่า นอกจากเป็นเชฟที่ดีแล้วยังเป็นภรรยาที่ดีได้ด้วยแน่ๆ)
-หลังจากทุกคนกลับมาถึงหอ ก็เจอเอกสารอยู่บนโต๊ะโดยมีจั่วหัวไว้ว่า"ค่ายฝึกฝน" โซมะก็ถามว่านี้คืออะไร ยูกิก็เลยเล่าว่า โซมะพึ่งเข้ามายังไม่รู้สินะ แต่ค่ายฝึกฝนนี้คือนรกด่านแรกที่นักเรียนม.ปลายปี1ต้องฝ่าฟันไปให้ได้สำหรับการเรียนที่นี้ ซึ่งอิชิกิก็เสริมว่า มันเป็นหนึ่งในระบบการศึกษาของที่นี้ เป็นกระบวนการคัดกรองอัญมณีที่ที่ผ.อ(ตาเอรินะ)เคยพูดเอาไว้ตอนปฐมนิเทศ
-โซมะก็นึกได้ว่า รุ่นพี่อิชิกิน่าจะเคยผ่านมาแล้ว ก็เลยถามประสบการณ์ ซึ่งรุ่นพี่อิชิกิก็ตอบออกไปว่า แทบทุกวันในค่ายฝึกมีนักเรียนถูกส่งตัวกลับบ้านไปนับสิบกว่าคน ซึ่งอิบุซากิก็เสริมว่า ปีที่แล้วนักเรียนกว่าครึ่งหายไปกับค่ายฝึกฝนนี้ ได้ยินแบบนี้เมงุมิเลยลมจับทันที
-ส่วนโซมะเองพอได้ยินก็นึกถึงของที่จำเป็นสำหรับเอาไปค่าย บางทีเขาอาจจะเอาหมากรุกญี่ปุ่นหรือไพ่ไปเล่นด้วยได้ แต่พวกเครื่องเกมไม่น่าจะเหมาะ แถมเขายังไม่รู้ว่าที่ค่ายจะให้เวลาอาบน้ำนานไหม ยูกิได้ยินแบบนี้เลยถามออกไปว่า ทำไมโซมะมีกะจิตกะใจกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ ซึ่งโซมะก็ตอบออกมาว่า มีนักเรียนที่จะผ่านแค่ครึ่งเดียวใช่ไหม? งั้นพวกเราก็จะอยู่ในครึ่งนั่นแหละ
-ซึ่งอิชิกิเองก็เอ่ยรับประกันออกมาด้วยว่า เขามั่นใจว่านักเรียนของหอโพลาห์สตาร์จะต้องกลับมาครบด้วยกันหมดพร้อมกันทุกคน ได้ยินแบบนี้แล้วทุกคนเลยเริ่มมีไฟ(โดยเฉพาะยูกิ)
-และแล้ววันเวลาก็ได้ผ่านไป ในที่สุดก็เริ่มต้นเวลาของค่ายฝึกฝน เราจะเห็นนักเรียนปี1ทุกคน(พวกโซมะ,เอรินะ&เลขา,อิคุมิ)มาเข้าร่วมค่ายฝึกฝนด้วย
-อาทิตย์หน้า ประเดิมภาคค่ายฝึกฝน หน้าสีติดกันสามอาทิตย์รวด!
------------------------------
ตอนนี้เราจะได้เห็นเมงุมิโชว์ฝึมือซะที ถึงจะเป็นเมนูพื้นๆ แต่ผมว่าค่อนข้างมีเอกลักษณ์เลยนะ อย่างที่รุ่นพี่อิชิกิพูด อาหารของเมงุมิมาไสตล์"สงบจริงๆ" นอกจากวิธีปรุงจะเรียบๆไม่รุนแรงไม่หวือหวา(ต้มไม่ก็ลวกหรือไม่ก็หมัก) ยังเป็นอาหารที่รสชาติซับซ้อนละเมียดละไม(จะเห็นได้ว่าข้าวปั้นทั้งสามแบบ นั้น เครื่องปรุง+รสชาติแทบจะเสริมไปด้วยกันทั้งสามแบบเลย แถมช่วยชูรสให้อร่อยขึ้นเมื่อทานกับข้าวอีก)
ป.ล ข้างล่างเป็นภาพจากรายการ Jump Bang ที่ Tsukuda Yuuto คนแต่งเรื่องนี้ไปออก แล้วก็โชว์ความสามารถทำเมนู"ปลาอีโต้มอญอบมายองเนสห่อใบตอง" พอเห็นฝีมืออาจารย์แกแล้ว บรรลุได้ทันทีเลยว่าอาหารแปลกประหลาดแต่สมจริงในเรื่องนี้นั้นมันมีที่มายังไง
(รู้สึกทึ่งตรงมายอง+ใบตองนี้แหละ เกิดมาพึ่งจะเคยเห็นทำให้อยากลองกินดูว่ารสชาติมันจะเป็นยังไง ดีไม่ดีเราอาจจะเห็นเมนูอาหารไทยในโซมะก็เป็นไปได้)
http://subcultureblog.blog114.fc2.com/blog-entry-10390.html
Shokugeki no Souma 14 -สวนแห่งคำภาวนา-
------------------------------
-เปิดตอนมา คณาจารย์ในโทซึกิก็บ่นๆกันว่า ถึงช่วงเวลานี้อีกแล้วสินะ พร้อมกับคุยกันว่าพวกนักเรียนรู้เรื่องกิจกรรมนี้รึยัง อาจารย์โรแลนด์(เชฟยิ้มยากที่สอนโซมะทำเนื้อตุ๋นไวน์แดง) ก็บอกว่ามันเป็นอุปสรรค์ขั้นแรกที่เหล่านักเรียนต้องผ่านไปให้ได้ อาจจะมีนักเรียนบางคนที่ตกและต้องออกจากโรงเรียนไป แต่ก็จะมีบางส่วนที่ฉายแววความสามารถเจิดจรัสแสงออกมาเช่นกัน
-โซมะกำลังนอนหลับอยู่ในห้องก็ถูกปลุกทางท่อลำโพงจากรุ่นพี่อิชิกิ(สิบสุดยอดอันดับ7) อิชิกิขอร้องให้โซมะมาช่วยงานเขาหน่อยพอโซมะปฏิเสธไป อิชิกิก็เลยโผล่ออกมาหาจากบนเพดานซะเลย(แบบเดียวกับตอนที่ชวนโซมะมางานเลี้ยงต้อนรับ)
-สุดท้ายโซมะก็ต้องมาช่วยจนได้ โดนโซมะเดินคู่มาพร้อมกับยูกิ(สาวหัวซาลาเปาที่เลี้ยงสัตว์ในห้อง เชี่ยวชาญเรื่องเนื้อสัตว์ป่า) โซมะถามยูกิว่ารุ่นพี่อิชิกิจะให้พวกเขามาช่วยงานอะไร ยูกิก็ตอบไปว่า วันนี้มีการเก็บเกี่ยวผักในสวนของหอโพลาห์สตาร์ โซมะได้ยินดังนั้นเลยตกใจว่า นักเรียนในหอนี้ปลูกวัตถุดิบกันเองด้วยเหรอ? ซึ่งยูกิก็ตอบว่าใช่ พร้อมกับยกตัวอย่างไปว่า อิบุซากิ(ผู้ชายผมหยักโศกปิดหน้า ถนัดอาหารรมควัน)ก็ตัดไม้สำหรับเอามาใช้รมควันเอง ส่วนเรียวโกะ(สาวผมยาวที่ชวนให้โซมะดื่มเหล้าตอนงานเลี้ยงต้อนรับ)ก็หมักชิโอโคจิ*เอง ส่วนตัวเธอ(ยูกิ)ก็เลี้ยงไก่สายพันธุ์ฝรั่งเศษเอาไว้เช่นกัน
(ชิโอโคจิเป็น เครื่องปรุงรสที่ใช้ในอาหารญี่ปุ่นแบบหนึ่ง หมักจาก โคจิ(หัวเชื้อราสำหรับใช้หมัก) เกลือแล้วก็น้ำ)
-เมื่อเดินมาถึง ยูกิก็แนะนำให้โซมะได้รู้จักกับสวนผัก10ชนิดของรุ่นพี่อิชิกิ เมื่อไปถึงก็พบกับรุ่นพี่อิชิกิทำงานอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับ...."ผ้าเตียว"ผืนเดียว (ตรงนี้เป็นหน้าเปิดตอน)
-เมงุมิที่เข้ามาช่วยงานอยู่ก่อนแล้วเดินถือตะกร้าผักมาหาพวกโซมะพร้อมกับโชว์ผักที่เก็บได้ให้กับเขาดู ส่วนอิชิกิก็เรียกทุกคนไปหาพร้อมกับให้โซมะลองทานมะเขือเทศที่ปลูกจากไร่ที่นี้ดู โซมะก็พบว่านอกจากผิวจะเต่งตึงแล้วยังมีรสหวานธรรมชาติมากอีกด้วย พร้อมกับชมว่าคุณภาพของผักอยู่ในระดับวิเศษไปเลย
-หลังจากทำงานไปได้สักพัก เมงุมิก็เดินเอาข้าวเที่ยงมาให้ทุกคนทานกัน เมื่อลองเปิดกล่องดูแล้วพบว่ามันเป้น"โอนิงิริ" (ข้าวปั้นสามเหลี่ยมญี่ปุ่น)ที่มีอยู่สามแบบ
-ยูกิลองชิมแบบแรกดูก่อนแล้วก็พบว่ามันเป็นข้าวปั้นไส้อกไก่ลวกกับซอสเนกิชิโอดาเระ(ซอสต้นหอมญี่ปุ่น,เกลือแล้วก็น้ำมัน) ซึ่งเธอก็ชมเปาะว่าอร่อย
-รุ่นพี่อิชิกิลองหยิบแบบที่สองขึ้นมาดูก็พบว่ามันเป็นไส้คอมบุต้มซีอี้วธรรมดา(ไส้มาตฐานของโอนิงิริ) แต่เมื่อลองทานดูแล้วปรากฎว่าเมงุมิผสมชีสเข้าไปใส่กับคอมบุด้วย ซึ่งเธอก็บอกว่ารสหวานของข้าวกับไส้คอมบุต้มซีอิ้วในโอนิงิริอันนี้นั้นไปได้ด้วยดีกับชีส
-ส่วนอันสุดท้ายนั้นโซมะขอเป็นคนลอง เมื่อกัดแล้วก็พบว่าได้กลิ่นกระเทียมเด่นออกมา เมงุมิเลยอธิบายว่า เธอทำไส้หมูหมักกับกระเทียมแล้วก็น้ำผึ้ง โดยเริ่มจากการต้มซี่โครงหมูส่วนหลังกับกระเทียมจนเนื้อนุ่ม หลังจากนั้นนำไปหมักหนึ่งวันกับมิโซะ,สาเกแล้วก็น้ำผึ้ง ซึ่งรสชาติจะไปได้ดีกับข้าว นอกจากนี้เธอยังเตรียมชาเขียวมาให้ทุกคนดื่มอีกด้วย
-หลังจากทุนคนทานเสร็จแล้วก็รู้สึกได้ถึงความสงบ รุ่นพี่อิชิกิบอกว่าอาหารที่ทานแล้วรู้สึกสงบนี้แหละคือเสน่ห์อาหารของทาโดโคโระจังล่ะ ซึ่งโซมะก็ถามเธอไปว่า ถ้าทำได้ขนาดนี้แล้วทำไมไม่เห็นแสดงในห้องเรียนหรืออะไรบ้างเลย ซึ่งเธอก็บอกว่าตอนอยู่ในห้องครัวหรือต่อหน้าคนอื่นเธอจะรู้สึกตื่นเต้นหัวโล่งไปหมดแล้วมักจะตามมาด้วยการทำผิดพลาด ซึ่งรุ่นอิชิกิกับยูกิก็ให้กำลังใจเธอไป(ยูกิมีบอกด้วยว่า นอกจากเป็นเชฟที่ดีแล้วยังเป็นภรรยาที่ดีได้ด้วยแน่ๆ)
-หลังจากทุกคนกลับมาถึงหอ ก็เจอเอกสารอยู่บนโต๊ะโดยมีจั่วหัวไว้ว่า"ค่ายฝึกฝน" โซมะก็ถามว่านี้คืออะไร ยูกิก็เลยเล่าว่า โซมะพึ่งเข้ามายังไม่รู้สินะ แต่ค่ายฝึกฝนนี้คือนรกด่านแรกที่นักเรียนม.ปลายปี1ต้องฝ่าฟันไปให้ได้สำหรับการเรียนที่นี้ ซึ่งอิชิกิก็เสริมว่า มันเป็นหนึ่งในระบบการศึกษาของที่นี้ เป็นกระบวนการคัดกรองอัญมณีที่ที่ผ.อ(ตาเอรินะ)เคยพูดเอาไว้ตอนปฐมนิเทศ
-โซมะก็นึกได้ว่า รุ่นพี่อิชิกิน่าจะเคยผ่านมาแล้ว ก็เลยถามประสบการณ์ ซึ่งรุ่นพี่อิชิกิก็ตอบออกไปว่า แทบทุกวันในค่ายฝึกมีนักเรียนถูกส่งตัวกลับบ้านไปนับสิบกว่าคน ซึ่งอิบุซากิก็เสริมว่า ปีที่แล้วนักเรียนกว่าครึ่งหายไปกับค่ายฝึกฝนนี้ ได้ยินแบบนี้เมงุมิเลยลมจับทันที
-ส่วนโซมะเองพอได้ยินก็นึกถึงของที่จำเป็นสำหรับเอาไปค่าย บางทีเขาอาจจะเอาหมากรุกญี่ปุ่นหรือไพ่ไปเล่นด้วยได้ แต่พวกเครื่องเกมไม่น่าจะเหมาะ แถมเขายังไม่รู้ว่าที่ค่ายจะให้เวลาอาบน้ำนานไหม ยูกิได้ยินแบบนี้เลยถามออกไปว่า ทำไมโซมะมีกะจิตกะใจกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ ซึ่งโซมะก็ตอบออกมาว่า มีนักเรียนที่จะผ่านแค่ครึ่งเดียวใช่ไหม? งั้นพวกเราก็จะอยู่ในครึ่งนั่นแหละ
-ซึ่งอิชิกิเองก็เอ่ยรับประกันออกมาด้วยว่า เขามั่นใจว่านักเรียนของหอโพลาห์สตาร์จะต้องกลับมาครบด้วยกันหมดพร้อมกันทุกคน ได้ยินแบบนี้แล้วทุกคนเลยเริ่มมีไฟ(โดยเฉพาะยูกิ)
-และแล้ววันเวลาก็ได้ผ่านไป ในที่สุดก็เริ่มต้นเวลาของค่ายฝึกฝน เราจะเห็นนักเรียนปี1ทุกคน(พวกโซมะ,เอรินะ&เลขา,อิคุมิ)มาเข้าร่วมค่ายฝึกฝนด้วย
-อาทิตย์หน้า ประเดิมภาคค่ายฝึกฝน หน้าสีติดกันสามอาทิตย์รวด!
------------------------------
ตอนนี้เราจะได้เห็นเมงุมิโชว์ฝึมือซะที ถึงจะเป็นเมนูพื้นๆ แต่ผมว่าค่อนข้างมีเอกลักษณ์เลยนะ อย่างที่รุ่นพี่อิชิกิพูด อาหารของเมงุมิมาไสตล์"สงบจริงๆ" นอกจากวิธีปรุงจะเรียบๆไม่รุนแรงไม่หวือหวา(ต้มไม่ก็ลวกหรือไม่ก็หมัก) ยังเป็นอาหารที่รสชาติซับซ้อนละเมียดละไม(จะเห็นได้ว่าข้าวปั้นทั้งสามแบบ นั้น เครื่องปรุง+รสชาติแทบจะเสริมไปด้วยกันทั้งสามแบบเลย แถมช่วยชูรสให้อร่อยขึ้นเมื่อทานกับข้าวอีก)
ป.ล ข้างล่างเป็นภาพจากรายการ Jump Bang ที่ Tsukuda Yuuto คนแต่งเรื่องนี้ไปออก แล้วก็โชว์ความสามารถทำเมนู"ปลาอีโต้มอญอบมายองเนสห่อใบตอง" พอเห็นฝีมืออาจารย์แกแล้ว บรรลุได้ทันทีเลยว่าอาหารแปลกประหลาดแต่สมจริงในเรื่องนี้นั้นมันมีที่มายังไง
(รู้สึกทึ่งตรงมายอง+ใบตองนี้แหละ เกิดมาพึ่งจะเคยเห็นทำให้อยากลองกินดูว่ารสชาติมันจะเป็นยังไง ดีไม่ดีเราอาจจะเห็นเมนูอาหารไทยในโซมะก็เป็นไปได้)
http://subcultureblog.blog114.fc2.com/blog-entry-10390.html