เริ่มจาก สมัยมอสามวัยกระเต๊าะริอาจมี 'แฟน' คนแรก ไปเจอกันที่ค่ายภาษาค่ายนึง
ด้วยความที่ช่วงนั้นเพลงของ ผ่าน ของ Slot Machine ฮิตกันมากในหมู่เด็กค่าย
ทุกครั้งที่ฟังเพลงนี้เลยทำให้นึกถึงช่วงเวลานั้น ถึงจะคบกันไม่นานด้วยความเด็กทั้งคู่
แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นบทเรียนสอนอะไรเราได้หลายอย่างเลยทีเดียว
ผ่านมาจนถึงช่วงชั้นมัธยมปลาย ก็ดั้นไปชอบคนนึงเข้าให้
ไม่ได้เป็นคนน่าตาดีหรือมีเสน่ห์อะไรเล้ย อาจจะเป็นความผิดพลาดในครั้งแรกที่เจอกัน
ที่ดันไปมองในมุมองศาไหนก็ไม่ทราบ ทำให้เราหลงชอบเค้าเต็มๆ เปา
แต่ด้วยความขี้ขลาดก็ไม่กล้าเข้าไปคุยหรืออะไรทั้งๆ ที่เพื่อนสนิทเราก็เป็นเพื่อนเขาด้วย
คงจะออกแนวฟอร์มจัดไม่กล้าคุยไม่กล้าทัก ถึงขนาดซ้อมยิ้มให้หน้ากระจกแต่พอเจอเช้าวันต่อมากลับทำหน้าบึ้งใส่ซะอย่างนั้น
แถมวันเกิดเขา ด้วยความที่ไอเราก็วาดรูปไม่เป็นหรอก จะให้เพื่อนวาดให้มันก็ไม่ใช่ฝีมือเรา
สุดท้ายต้องไปซื้อกระดาษลอกลายมาวาดรูปฝากเพื่อนไปให้ โดยให้บอกไปว่าเพื่อนนั่นแหละเป็นคนวาดให้
ลากยาวมาจนถึงจบมัธยมปลาย สุดท้ายเลยเขียนเฟรนชิบใส่กระดาษแข็งหนึ่งแผ่น
พร้อมแผ่นซีดีเจ็ดเพลงที่เลือกกะตรงความรู้สึกตอนนั้นมากที่สุด ใส่ซองสีน้ำตาลซีนอย่างดียื่นให้วันปัจฉิมนิเทศ
ไม่ได้เขียนอะไรความนัยเป็นพิเศษหรอก นอกจากคำว่า 'ยินดีที่ได้เป็นรู้จักกัน'
ไม่มีอาการหน้าแดงเขินอายอะไรอย่างที่หนังนิยามเขาเป็นหรอก มีแต่หน้าซีดจะเป็นลมด้วยความตื่นเต้นจัด
สุดท้ายเราสองคนก็ขยับความสัมพันธ์จากคนรู้จักมาเป็นเพื่อน(ธรรมด๊าธรรมดา)
แต่สำหรับเราแค่นี้ก็พอใจมากแล้วล่ะ ความรู้สึกคลั่งไคล้ตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้ถึงตอนนี้มันไม่มีหลงเหลือแล้วล่ะ
มันเหลือแค่ความรู้สึกดีดีที่มีให้ตลอดเวลา ยังดีใจที่ยังได้เห็นความเป็นไปของเขาในแต่ละช่วงว่าเขามีความสุขแฮปปี้มากแค่ไหน
คนที่เดินผ่าน
ก้อนหินละเมอ
มีอาการ
เพลงนี้เป็นเพลงที่ตั้งใจมอบให้เขามาก แทนความหมายโดยนัยของเราก็คือ
อยากให้อยู่แบบนี้นานอีกหน่อย เป็นคนที่ให้เราได้รู้สึกดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละ
จนเวลาก็ผ่านไปด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้กันบ้างห่างกันบ้างแล้วแต่ช่วงเวลาและโอกาส
กระทั่งวันนึงดั้นไปรู้จักกับเพื่อนใหม่อีกคน ที่เรียนวิชาเดียวกันพอดี
รู้สึกหลงใหลในสายตาเขามาก เพิ่งมารู้ว่าทีหลังเขาก็มองแบบนี้กับทุกคนนั่นแหละ มีเราคิดไปคนเดียว 555555
ชอบคนนี้ได้อยู่เทอมนึง แต่สุดท้ายก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
ด้วยนิสัยด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทำให้เราเองก็สนิทใจจะเป็นเพื่อนมากกว่า
ช่วงเวลานั้นก็คงจะเป็นเพลง คำอธิบาย ที่เขาชอบถึงขนาดมาขอเพลงจากคอมเราหลังจากที่นั่งฟังเพลงกันสองคน
โดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบฟังเพลงเศร้า สงสัยชีวิตจะเศร้าเกิน แต่พอลองแลกเพลงกันฟัง
มันเหมือนเปิดโลกใหม่ให้เราเลย เพลงบางแนวที่เราไม่คิดจะฟังพอลองฟังแล้ว เฮ้ย มันเพราะดีหว่ะ
หลังๆ เราเลยลองเปลี่ยนแนวฟังไปเรื่อยๆ ถึงจะยังคงให้เพลงช้าๆ เศร้าๆ เป็นแนวที่หนึ่งในใจเราก็ตาม ^^
ใครมีเพลงไหนประสบการณ์อะไรยังไงลองเอามาแชร์ได้นะคะ ^_____________^
เอาเพลงประกอบชีวิตมาแบ่งให้ฟังกันค่ะ^^
ด้วยความที่ช่วงนั้นเพลงของ ผ่าน ของ Slot Machine ฮิตกันมากในหมู่เด็กค่าย
ทุกครั้งที่ฟังเพลงนี้เลยทำให้นึกถึงช่วงเวลานั้น ถึงจะคบกันไม่นานด้วยความเด็กทั้งคู่
แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นบทเรียนสอนอะไรเราได้หลายอย่างเลยทีเดียว
ผ่านมาจนถึงช่วงชั้นมัธยมปลาย ก็ดั้นไปชอบคนนึงเข้าให้
ไม่ได้เป็นคนน่าตาดีหรือมีเสน่ห์อะไรเล้ย อาจจะเป็นความผิดพลาดในครั้งแรกที่เจอกัน
ที่ดันไปมองในมุมองศาไหนก็ไม่ทราบ ทำให้เราหลงชอบเค้าเต็มๆ เปา
แต่ด้วยความขี้ขลาดก็ไม่กล้าเข้าไปคุยหรืออะไรทั้งๆ ที่เพื่อนสนิทเราก็เป็นเพื่อนเขาด้วย
คงจะออกแนวฟอร์มจัดไม่กล้าคุยไม่กล้าทัก ถึงขนาดซ้อมยิ้มให้หน้ากระจกแต่พอเจอเช้าวันต่อมากลับทำหน้าบึ้งใส่ซะอย่างนั้น
แถมวันเกิดเขา ด้วยความที่ไอเราก็วาดรูปไม่เป็นหรอก จะให้เพื่อนวาดให้มันก็ไม่ใช่ฝีมือเรา
สุดท้ายต้องไปซื้อกระดาษลอกลายมาวาดรูปฝากเพื่อนไปให้ โดยให้บอกไปว่าเพื่อนนั่นแหละเป็นคนวาดให้
ลากยาวมาจนถึงจบมัธยมปลาย สุดท้ายเลยเขียนเฟรนชิบใส่กระดาษแข็งหนึ่งแผ่น
พร้อมแผ่นซีดีเจ็ดเพลงที่เลือกกะตรงความรู้สึกตอนนั้นมากที่สุด ใส่ซองสีน้ำตาลซีนอย่างดียื่นให้วันปัจฉิมนิเทศ
ไม่ได้เขียนอะไรความนัยเป็นพิเศษหรอก นอกจากคำว่า 'ยินดีที่ได้เป็นรู้จักกัน'
ไม่มีอาการหน้าแดงเขินอายอะไรอย่างที่หนังนิยามเขาเป็นหรอก มีแต่หน้าซีดจะเป็นลมด้วยความตื่นเต้นจัด
สุดท้ายเราสองคนก็ขยับความสัมพันธ์จากคนรู้จักมาเป็นเพื่อน(ธรรมด๊าธรรมดา)
แต่สำหรับเราแค่นี้ก็พอใจมากแล้วล่ะ ความรู้สึกคลั่งไคล้ตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้ถึงตอนนี้มันไม่มีหลงเหลือแล้วล่ะ
มันเหลือแค่ความรู้สึกดีดีที่มีให้ตลอดเวลา ยังดีใจที่ยังได้เห็นความเป็นไปของเขาในแต่ละช่วงว่าเขามีความสุขแฮปปี้มากแค่ไหน
คนที่เดินผ่าน
ก้อนหินละเมอ
มีอาการ
เพลงนี้เป็นเพลงที่ตั้งใจมอบให้เขามาก แทนความหมายโดยนัยของเราก็คือ
อยากให้อยู่แบบนี้นานอีกหน่อย เป็นคนที่ให้เราได้รู้สึกดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละ
จนเวลาก็ผ่านไปด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้กันบ้างห่างกันบ้างแล้วแต่ช่วงเวลาและโอกาส
กระทั่งวันนึงดั้นไปรู้จักกับเพื่อนใหม่อีกคน ที่เรียนวิชาเดียวกันพอดี
รู้สึกหลงใหลในสายตาเขามาก เพิ่งมารู้ว่าทีหลังเขาก็มองแบบนี้กับทุกคนนั่นแหละ มีเราคิดไปคนเดียว 555555
ชอบคนนี้ได้อยู่เทอมนึง แต่สุดท้ายก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
ด้วยนิสัยด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทำให้เราเองก็สนิทใจจะเป็นเพื่อนมากกว่า
ช่วงเวลานั้นก็คงจะเป็นเพลง คำอธิบาย ที่เขาชอบถึงขนาดมาขอเพลงจากคอมเราหลังจากที่นั่งฟังเพลงกันสองคน
โดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบฟังเพลงเศร้า สงสัยชีวิตจะเศร้าเกิน แต่พอลองแลกเพลงกันฟัง
มันเหมือนเปิดโลกใหม่ให้เราเลย เพลงบางแนวที่เราไม่คิดจะฟังพอลองฟังแล้ว เฮ้ย มันเพราะดีหว่ะ
หลังๆ เราเลยลองเปลี่ยนแนวฟังไปเรื่อยๆ ถึงจะยังคงให้เพลงช้าๆ เศร้าๆ เป็นแนวที่หนึ่งในใจเราก็ตาม ^^
ใครมีเพลงไหนประสบการณ์อะไรยังไงลองเอามาแชร์ได้นะคะ ^_____________^