ถึงจะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตาม บอกตรง ๆ ครับ ว่าการเลือกตั้ง ผู้ว่าเมืองเทวดาสร้างในครั้งนี้ ถึงแม้จะเป็นแค่สนามการเมืองท้องถิ่น แต่กลับเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ผมรู้สึก เศร้าใจ ผิดหวัง และสงสารประเทศชาติมากที่สุด ขนาดคนกรุงเทพซึ่งคุยว่าตนเองมีการศึกษาดี กลับคิดกันได้แค่นี้ ยอมเลือกคนที่บริหารไม่เป็น ยอมเลือกคนที่มีปัญหาส่อเค้าว่าทุจริตเบียดบังงบประมาณ เพียงเพราะไม่ชอบคนของเพื่อไทย ก่อนเลือกตั้งผมคิดตามหลักเหตุผลแล้ว ยังไง เบอร์ 9 ก็ต้องชนะ เบอร์ 16 และเป็นการชนะแบบขาดลอยหลุดลุ่ยด้วยซ้ำ จากเหตุปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่มันเอื้อให้มองเช่นนั้น
ด้วยกระแสความตกต่ำของพรรคคู่แข่งซึ่งมีหัวหน้าพรรคที่ไร้ผลงาน หนีทหาร ใช้เอกสารทางราชการเท็จ ไหนจะมีคดีอีกนับพันที่รออยู่ เรื่องแดงฝีแตกสด ๆ ร้อน ๆ ก็การส่อเค้าทุจริตของโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 สถานี ในช่วงที่ตัวเองเป็นรัฐบาล การก่อสร้างมากมายแต่ใช้ผู้รับเหมารายเดียวยังไงก็ไม่มีทางเสร็จทัน เพราะนี่คือการก่อสร้างสถานีตำรวจไม่ใช่ก่อสร้างกระต๊อบ จึงมองยังไงก็ไม่มีความโปร่งใส
ไหนจะความเสื่อมจากวาทะกรรมการพูดดี แต่ก็ดีแต่พูดนะแหละ เพราะทำไม่เป็น จะรู้ดี ดีมาก ถึงดีที่สุด แต่ก็มั่วที่สุดเช่นกันในเรื่องของชาวบ้าน ชอบกล่าวอ้างจริยธรรม แต่เรื่องความผิดของตัวเอง ของพรรค แม้ว่าจะชัดเจนเพียงใดก็จะเงียบสมองเอ๋อเสมือนหนึ่งไม่เคยรู้ว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบนโลกมาก่อน สมาชิกพรรคจึงยังอยู่สุขสบายนั่งหน้าตาเฉยในสภาแม้ว่าจะฆ่าคนตายก็ตาม อีกทั้งความหน้าด้านที่ขึ้นชื่อลือชาชอบกระแนะกระแหน แต่กลับมักเป็นไปในทำนอง "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง"
เมื่อหันมาดูที่ตัวแทนพรรคก็เป็นคนเดิมซึ่งข่าวว่าไม่เป็นที่ปลื้มและเต็มใจของคนในพรรคที่จะส่งลงมารักษาแชมป์ แต่จำใจต้องส่งมารักษาเก้าอี้ เพราะไม่มีผลงานที่ชัดเจนสร้างชื่อเสียงเชิดหน้าชูตา ให้สมกับระดับผู้ว่าที่มีงบมาหาศาลอยู่ในมือ ที่มองเห็นกลับไม่ใช่ชื่อเสียงแต่เป็นชื่อเสียซะมากกว่า ในเรื่องดัมมี่ทั้งกล้องวงจรปิด และอุโมงยักษ์
และที่โชว์ความเอ๋อได้ระบือลือลั่นสนั่นสามโลกให้คนไทยได้อับอายขายขี้หน้าประชาชี ก็จากผลงานการสร้างสนามฟุตซอลเพื่อใช้งานในระดับโลก โดยใช้งบประมาณเป็นพันล้าน แต่การพิจารณาเซ็นต์สัญญาการก่อสร้างกลับไม่แหกตาดูวันสิ้นสุดสัญญาว่าเลยกำหนดวันใช้งาน ทั้งที่การดำเนินการทันตามกำหนดใช้งานหรือไม่นั้น เป็นความจำเป็นเร่งด่วนอันดับแรกที่สุดที่ต้องดู นอกเหนือจากเงินใต้โต๊ะ นี่กลับหลับหูหลับตาลงนามโดยไม่ดูวันสิ้นสุดสัญญาว่าเลยกำหนดวันใช้งาน แสดงให้เห็นถึงความอ่อนหัดมือไม่ถึงทั้งที่เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ยังพลาดได้
ในขณะที่ทางฝั่งเบอร์ 9 ภาพพจน์ของคนไฟแรง คนทำงานมีมากกว่า จุดเด่นที่สำคัญเป็นตำรวจเก่าหมาด ๆ ทำให้การมองภาพมองปัญหาเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎหมายได้ทะลุปรุโปร่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในยุคยาเสพติดท่วมเมือง
ก็ด้วยเหตุผลคร่าว ๆ ประมาณนี้แหละที่ทำให้คิดว่ายังไงก็ตามเก้าอี้ผู้ว่าต้องมีการเปลี่ยนมือเปลี่ยนพรรคแน่นอน แต่อนิจจาที่นี่ประเทศไทย รู้สึกสะท้อนใจหากคนไทยยังเป็นเช่นนี้แล้วประเทศชาติจะพัฒนาไปได้เช่นไรกัน
หากถามว่าแล้วจะต้องเลือกเบอร์ 9 เท่านั้นใช่มั้ยถึงจะถูกใจ ก็ขอตอบไม่ใช่เช่นนั้น ใครก็ได้ที่ท่านพอใจ แต่การตัดสินใจต้องไม่ใช่เพราะเกลียดโน่นนี่โดยไม่ได้มองที่ผลงาน ไม่ได้มองนโยบาย ว่าเมื่อเลือกเข้าไปแล้วจะบริงานกรุงเทพให้เจริญได้ยังไง อย่างไร ซื่อสัตย์หรือไม่ ไม่ใช่ดันทุรังเลือกอีก ทั้งที่ผลงานความเอ๋อของคนเก่าก็มีให้เห็นอยู่ สำหรับแฟนพันธุ์แท้ก็ปล่อยเขาไป เพราะยังไงก็เปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้อยู่แล้ว แต่ที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้นี่ซิคิดยังไง
ที่นี่กรุงเทพ
ด้วยกระแสความตกต่ำของพรรคคู่แข่งซึ่งมีหัวหน้าพรรคที่ไร้ผลงาน หนีทหาร ใช้เอกสารทางราชการเท็จ ไหนจะมีคดีอีกนับพันที่รออยู่ เรื่องแดงฝีแตกสด ๆ ร้อน ๆ ก็การส่อเค้าทุจริตของโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 สถานี ในช่วงที่ตัวเองเป็นรัฐบาล การก่อสร้างมากมายแต่ใช้ผู้รับเหมารายเดียวยังไงก็ไม่มีทางเสร็จทัน เพราะนี่คือการก่อสร้างสถานีตำรวจไม่ใช่ก่อสร้างกระต๊อบ จึงมองยังไงก็ไม่มีความโปร่งใส
ไหนจะความเสื่อมจากวาทะกรรมการพูดดี แต่ก็ดีแต่พูดนะแหละ เพราะทำไม่เป็น จะรู้ดี ดีมาก ถึงดีที่สุด แต่ก็มั่วที่สุดเช่นกันในเรื่องของชาวบ้าน ชอบกล่าวอ้างจริยธรรม แต่เรื่องความผิดของตัวเอง ของพรรค แม้ว่าจะชัดเจนเพียงใดก็จะเงียบสมองเอ๋อเสมือนหนึ่งไม่เคยรู้ว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบนโลกมาก่อน สมาชิกพรรคจึงยังอยู่สุขสบายนั่งหน้าตาเฉยในสภาแม้ว่าจะฆ่าคนตายก็ตาม อีกทั้งความหน้าด้านที่ขึ้นชื่อลือชาชอบกระแนะกระแหน แต่กลับมักเป็นไปในทำนอง "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง"
เมื่อหันมาดูที่ตัวแทนพรรคก็เป็นคนเดิมซึ่งข่าวว่าไม่เป็นที่ปลื้มและเต็มใจของคนในพรรคที่จะส่งลงมารักษาแชมป์ แต่จำใจต้องส่งมารักษาเก้าอี้ เพราะไม่มีผลงานที่ชัดเจนสร้างชื่อเสียงเชิดหน้าชูตา ให้สมกับระดับผู้ว่าที่มีงบมาหาศาลอยู่ในมือ ที่มองเห็นกลับไม่ใช่ชื่อเสียงแต่เป็นชื่อเสียซะมากกว่า ในเรื่องดัมมี่ทั้งกล้องวงจรปิด และอุโมงยักษ์
และที่โชว์ความเอ๋อได้ระบือลือลั่นสนั่นสามโลกให้คนไทยได้อับอายขายขี้หน้าประชาชี ก็จากผลงานการสร้างสนามฟุตซอลเพื่อใช้งานในระดับโลก โดยใช้งบประมาณเป็นพันล้าน แต่การพิจารณาเซ็นต์สัญญาการก่อสร้างกลับไม่แหกตาดูวันสิ้นสุดสัญญาว่าเลยกำหนดวันใช้งาน ทั้งที่การดำเนินการทันตามกำหนดใช้งานหรือไม่นั้น เป็นความจำเป็นเร่งด่วนอันดับแรกที่สุดที่ต้องดู นอกเหนือจากเงินใต้โต๊ะ นี่กลับหลับหูหลับตาลงนามโดยไม่ดูวันสิ้นสุดสัญญาว่าเลยกำหนดวันใช้งาน แสดงให้เห็นถึงความอ่อนหัดมือไม่ถึงทั้งที่เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ยังพลาดได้
ในขณะที่ทางฝั่งเบอร์ 9 ภาพพจน์ของคนไฟแรง คนทำงานมีมากกว่า จุดเด่นที่สำคัญเป็นตำรวจเก่าหมาด ๆ ทำให้การมองภาพมองปัญหาเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎหมายได้ทะลุปรุโปร่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในยุคยาเสพติดท่วมเมือง
ก็ด้วยเหตุผลคร่าว ๆ ประมาณนี้แหละที่ทำให้คิดว่ายังไงก็ตามเก้าอี้ผู้ว่าต้องมีการเปลี่ยนมือเปลี่ยนพรรคแน่นอน แต่อนิจจาที่นี่ประเทศไทย รู้สึกสะท้อนใจหากคนไทยยังเป็นเช่นนี้แล้วประเทศชาติจะพัฒนาไปได้เช่นไรกัน
หากถามว่าแล้วจะต้องเลือกเบอร์ 9 เท่านั้นใช่มั้ยถึงจะถูกใจ ก็ขอตอบไม่ใช่เช่นนั้น ใครก็ได้ที่ท่านพอใจ แต่การตัดสินใจต้องไม่ใช่เพราะเกลียดโน่นนี่โดยไม่ได้มองที่ผลงาน ไม่ได้มองนโยบาย ว่าเมื่อเลือกเข้าไปแล้วจะบริงานกรุงเทพให้เจริญได้ยังไง อย่างไร ซื่อสัตย์หรือไม่ ไม่ใช่ดันทุรังเลือกอีก ทั้งที่ผลงานความเอ๋อของคนเก่าก็มีให้เห็นอยู่ สำหรับแฟนพันธุ์แท้ก็ปล่อยเขาไป เพราะยังไงก็เปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้อยู่แล้ว แต่ที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้นี่ซิคิดยังไง