หลายคนกำลังตั้งคำถามกับการแพร่กระจายของสื่อใหม่ ๆในปัจจุบันที่รุกคืบเข้ามาขยายพื้นที่ในชีวิตประจำวันของผู้คนกันมากขึ้น และมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนยุคดิจิตอลมากขึ้น ที่เปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสารรูปแบบเดิม ๆ ที่เราคุ้นชินกันอย่าง โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร แผ่นพับ โบชัวร์ บิลบอร์ด ใบปลิว มาเป็น สื่อใหม่ ๆ อย่าง Facebook , Twitter , Youtube, Digital magazine , หรือนิวมีเดียต่าง ๆ ที่กำลังขับเคลื่อนพลังผู้บริโภคให้เข้ามามีส่วนกำหนดทิศทางของธุรกิจต่าง ๆ อย่างทุกวันนี้ ว่ามันจะกลายเป็นสื่อที่เปิดอีกมิติหนึ่งของโลกยุคใหม่หรือเปล่า เมื่อกติกาเปลี่ยน บริบทโลกใหม่ทุกวันนี้ กำลังเข้าสู่ยุค Digital Media ที่ทรงอิทธิพลและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแรงกระเพื่อมของพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีส่วนกำหนดทิศทางของเสียงมหาชนผ่านเครื่องมืออย่าง สมาร์ทโฟน แทบเลต ที่รวดเร็วในการแชร์ การชม เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์การสร้างแบรนด์อย่างกลมกลืนไปกับ Lifestyle ของคนยุคนี้

ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ของ Mindshare ซึ่งเป็นเอเจนซี่อันดับต้น ๆของโลกได้เปิดเผยถึงพฤติกรรมของคนในยุคดิจิตอลว่า มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีอำนาจต่อรองกับเจ้าของสินค้ามากขึ้นผ่านทางการส่งเสียงผ่านระบบ Social Media ที่ง่ายในการแชร์ไปยังอีกหลายหมื่น หลายแสน คน หรืออาจจะแพร่กระจายไปราวกับไวรัส ทั่วโลกก็สามารถเกิดขึ้นได้ รวมไปจนถึงโครงสร้างประชากรของไทยที่เห็นได้ชัดว่า ประชากรกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เด็กเกิดใหม่มีอัตราการเกิดน้อยลง ครอบครัวไทยมีขนาดเล็กลง คนแต่งงานช้าลง และถ้าแต่งงานก็ยังคงนิยมไม่มีลูก และถ้าจะมีลูกก็จะมีน้อยลง เพื่อเน้นคุณภาพในการเลี้ยงดูอย่างเต็มที่ รวมไปจนถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตติดออนไลน์ ที่เข้าสู่โลกเสมือนได้มากพอ ๆ กับโลกจริง ในปัจจุบัน ทำให้เกิดกลุ่มชนในเครือข่ายสังคมเป็นก้อนใหญ่ ที่พร้อมจะแบ่งปัน วิพากวิจารณ์ หรือกด แชร์ต่อ ๆ กันไปอย่างง่ายดาย แหละนี้จึงเป็นปัจจัยหลักที่สื่อใหม่ ๆ จึงเกิดขึ้นมาเพื่อรองรับกับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนในยุคนี้นั้นเอง
Digital Marketing ปฎิวัติการตลาดทั้งระบบ .....
เมื่อสื่อดั้งเดิมถูกท้าทายจากสื่อใหม่ ๆ ในปัจจุบัน ทำให้เม็ดเงินของเจ้าของสินค้าต่างๆ ไหลเข้าสู่นิวมีเดียวกันมากขึ้น มีตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของสื่อดิจิตอลที่ทวีความสำคัญมากขึ้นทุกปี ตัวอย่างเช่น ในปี 2555 ที่ผ่านมาเม็ดเงินโฆษณาในสื่ออินเตอร์เนตมีมูลค่า 474 ล้านบาท เติบโต 19% จากเดิม 397 ล้านบาท ( ข้อมูลจาก นีลสัน ประเทศไทย ) อันเป็นผลมาจาก จำนวนคนใช้อินเตอร์เนท ที่มีเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จากข้อมูลล่าสุดที่ได้มา คือในปี 2554 ที่ผ่านมามีจำนวนคนใช้งานอินเตอร์เนทมากถึง 31 ล้านราย รวมไปจนถึงการขายตัวของสมาร์ทดีไวซ์ในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ที่ปาเข้าไปถึง 15.5 ล้านราย จากสถิติข้อมูลปี 2554 โดยแบ่งเป็น สมาร์ทโฟน 14.5 ล้านราย แทบเลตอีก 3 แสนราย และสมาร์ททีวีอีกราว 7 แสนราย และเชื่อว่าปีนี้ 2556 เมื่อมีการเปิดให้บริการ 3G อย่างเต็มรูปแบบ ที่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าเป็น 3G ของแท้ นั้น จะยิ่งทำให้การเติบโตสูงมากขึ้นเป็นทวีคูณ

ปัจจัยเหล่านี้กำลังสะท้อนให้เห็นว่า Digital marketing กำลังมีความชัดเจนมากขึ้นในวงการสื่อบ้านเรา และภายใน 3 - 5 ปีข้างหน้านี้ จะกลายเป็นสิ่งปรกติที่นักการตลาดต้องวางแผนสื่อเหมือนสื่อทั่วไป ที่ผ่านมา ดิจิตอลอาจจะถูกมองเป็นเพียงเทรนด์หรือแฟชั่นที่ต้องตามให้ทัน ซึ่งเชื่อว่ามาแล้วก็จะหายไป แต่ปัจจุบันกระแส Digital กำลังจะขับเคลื่อนวงการสื่อให้เปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งขยายตัวในวงกว้างจนหยุดไม่อยู่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสื่อแบบเดิม ๆ โดยเฉพาะกับสื่อสิ่งพิมพ์อย่าง หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ที่จะต้องอพยพ content ไปยังโลกออนไลน์กันมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการรับสารที่เปลี่ยนไป จากกระดาษไปเป็นบน มือถือ หรือ แทบเลตมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ทุกวันนี้โลกยุคใหม่กำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนผ่านจากยุคสื่อดั้งเดิม เป็นการหลอมรวมกันของสื่อใหม่และสื่อเก่าที่กำลังผสานเป็นไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิตอล เครื่องมือทางการตลาดได้การปรับปรุง และสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนไป โอกาสมีมากขึ้นสำหรับคนที่มองเห็นช่องว่าง ในขณะเดียวกัน วิกฤติ ก็มาถึงสำหรับคนที่ยังไม่ปรับตัว และยังคงยึดติดกับหลักการเดิม ๆ ซึ่งหากไม่รีบจัดการ เกรงว่าอาจจะเหมือนเรื่อง "ใครเอาเนยแข็งของฉันไป " ที่สุดท้ายแล้ว เนยแข็งที่มีอยู่อาจจะหมดไปอย่างน่าเสียดาย ถ้าไม่รีบปรับตัวให้ทัน !
เมื่อสื่อดั้งเดิมถูกรื้อโครงสร้าง โดย New Media วิกฤตหรือโอกาส ?
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ของ Mindshare ซึ่งเป็นเอเจนซี่อันดับต้น ๆของโลกได้เปิดเผยถึงพฤติกรรมของคนในยุคดิจิตอลว่า มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีอำนาจต่อรองกับเจ้าของสินค้ามากขึ้นผ่านทางการส่งเสียงผ่านระบบ Social Media ที่ง่ายในการแชร์ไปยังอีกหลายหมื่น หลายแสน คน หรืออาจจะแพร่กระจายไปราวกับไวรัส ทั่วโลกก็สามารถเกิดขึ้นได้ รวมไปจนถึงโครงสร้างประชากรของไทยที่เห็นได้ชัดว่า ประชากรกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เด็กเกิดใหม่มีอัตราการเกิดน้อยลง ครอบครัวไทยมีขนาดเล็กลง คนแต่งงานช้าลง และถ้าแต่งงานก็ยังคงนิยมไม่มีลูก และถ้าจะมีลูกก็จะมีน้อยลง เพื่อเน้นคุณภาพในการเลี้ยงดูอย่างเต็มที่ รวมไปจนถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตติดออนไลน์ ที่เข้าสู่โลกเสมือนได้มากพอ ๆ กับโลกจริง ในปัจจุบัน ทำให้เกิดกลุ่มชนในเครือข่ายสังคมเป็นก้อนใหญ่ ที่พร้อมจะแบ่งปัน วิพากวิจารณ์ หรือกด แชร์ต่อ ๆ กันไปอย่างง่ายดาย แหละนี้จึงเป็นปัจจัยหลักที่สื่อใหม่ ๆ จึงเกิดขึ้นมาเพื่อรองรับกับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนในยุคนี้นั้นเอง
Digital Marketing ปฎิวัติการตลาดทั้งระบบ .....
เมื่อสื่อดั้งเดิมถูกท้าทายจากสื่อใหม่ ๆ ในปัจจุบัน ทำให้เม็ดเงินของเจ้าของสินค้าต่างๆ ไหลเข้าสู่นิวมีเดียวกันมากขึ้น มีตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของสื่อดิจิตอลที่ทวีความสำคัญมากขึ้นทุกปี ตัวอย่างเช่น ในปี 2555 ที่ผ่านมาเม็ดเงินโฆษณาในสื่ออินเตอร์เนตมีมูลค่า 474 ล้านบาท เติบโต 19% จากเดิม 397 ล้านบาท ( ข้อมูลจาก นีลสัน ประเทศไทย ) อันเป็นผลมาจาก จำนวนคนใช้อินเตอร์เนท ที่มีเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จากข้อมูลล่าสุดที่ได้มา คือในปี 2554 ที่ผ่านมามีจำนวนคนใช้งานอินเตอร์เนทมากถึง 31 ล้านราย รวมไปจนถึงการขายตัวของสมาร์ทดีไวซ์ในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ที่ปาเข้าไปถึง 15.5 ล้านราย จากสถิติข้อมูลปี 2554 โดยแบ่งเป็น สมาร์ทโฟน 14.5 ล้านราย แทบเลตอีก 3 แสนราย และสมาร์ททีวีอีกราว 7 แสนราย และเชื่อว่าปีนี้ 2556 เมื่อมีการเปิดให้บริการ 3G อย่างเต็มรูปแบบ ที่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าเป็น 3G ของแท้ นั้น จะยิ่งทำให้การเติบโตสูงมากขึ้นเป็นทวีคูณ
ปัจจัยเหล่านี้กำลังสะท้อนให้เห็นว่า Digital marketing กำลังมีความชัดเจนมากขึ้นในวงการสื่อบ้านเรา และภายใน 3 - 5 ปีข้างหน้านี้ จะกลายเป็นสิ่งปรกติที่นักการตลาดต้องวางแผนสื่อเหมือนสื่อทั่วไป ที่ผ่านมา ดิจิตอลอาจจะถูกมองเป็นเพียงเทรนด์หรือแฟชั่นที่ต้องตามให้ทัน ซึ่งเชื่อว่ามาแล้วก็จะหายไป แต่ปัจจุบันกระแส Digital กำลังจะขับเคลื่อนวงการสื่อให้เปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งขยายตัวในวงกว้างจนหยุดไม่อยู่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสื่อแบบเดิม ๆ โดยเฉพาะกับสื่อสิ่งพิมพ์อย่าง หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ที่จะต้องอพยพ content ไปยังโลกออนไลน์กันมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการรับสารที่เปลี่ยนไป จากกระดาษไปเป็นบน มือถือ หรือ แทบเลตมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ทุกวันนี้โลกยุคใหม่กำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนผ่านจากยุคสื่อดั้งเดิม เป็นการหลอมรวมกันของสื่อใหม่และสื่อเก่าที่กำลังผสานเป็นไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิตอล เครื่องมือทางการตลาดได้การปรับปรุง และสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนไป โอกาสมีมากขึ้นสำหรับคนที่มองเห็นช่องว่าง ในขณะเดียวกัน วิกฤติ ก็มาถึงสำหรับคนที่ยังไม่ปรับตัว และยังคงยึดติดกับหลักการเดิม ๆ ซึ่งหากไม่รีบจัดการ เกรงว่าอาจจะเหมือนเรื่อง "ใครเอาเนยแข็งของฉันไป " ที่สุดท้ายแล้ว เนยแข็งที่มีอยู่อาจจะหมดไปอย่างน่าเสียดาย ถ้าไม่รีบปรับตัวให้ทัน !