ช่วงนี้เห็นคอมเมนต์ลักษณะว่า เด็กยังเล็กไป ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก อย่าเพิ่งพาลูกเที่ยวเลย อยู่บ่อยๆ เลยขอเขียนถึงข้อดีของการพาลูกเที่ยวจากประสบการณ์ตรงของเราซะหน่อย
ด้วยความที่ลูกเราเป็นลูกคนแรก และเป็นลูกคนเดียว เราก็ค่อนข้างกังวลเรื่องสุขภาพของเค้าเหมือนกัน ว่าพาไปตะลอนๆ จะไม่สบายติดโรคกลับมารึเปล่า เพราะช่วงที่ป่วย ร่างกายและสมองก็ต้องหยุดการพัฒนาไว้ก่อน ดังนั้นเราเริ่มพาลูกตะลอนเที่ยวตอนลูกครบขวบพอดี คือกะว่าตอนนี้แข็งแรงแล้วแหละ วัคซีนก็รับมาเยอะแล้ว ลุย!!
เราพาลูกเที่ยวทุกอาทิตย์ ตอนนี้ลูกขวบสามเดือนแล้วค่ะ ลูกเราไปดรีมเวิลด์ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ หัวหิน (ซานโตรินี่ ตลาดน้ำ) บางปู สวนสามพราน (เข้าฐานทำกิจกรรมไทย) สยามโอเชี่ยนเวิลด์ เขาดิน ทุ่งทานตะวัน ตลาดดอกไม้คลอง 15 ดาษดา บางแสน เขาเขียว ตอนนี้ก็ยังไม่เคยป่วยจากการไปเที่ยว
ก่อนหน้านี้ลูกเราเป็นเด็กพูดค่อนข้างช้าค่ะ เพราะยายเลี้ยงกับทีวี ให้ดูทีวีทั้งวัน แต่การพาไปเที่ยวทำให้ลูกมีพัฒนาการทางภาษาที่ก้าวกระโดดมากในความรู้สึกเรา ลูกเราพูดคำแรกได้ตอนขวบนึงพอดี ตอนนี้ลูกพูดได้เกิน 10 คำแล้ว พูดสองพยางค์ได้แล้ว จำคำศัพท์ได้มากกว่าร้อยคำ และทำตามคำสั่งสองขั้นตอนได้แล้ว (เช่น ไปเอาของที่พ่อมาให้แม่)
ในความคิดเรา เด็กเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ถ้าอยู่บ้านดูทีวี ลูกก็เห็นแต่ภาพ ไม่เข้าใจว่าของจริงเป็นยังไง (แถมบางทีรายการก็ไม่ได้เหมาะกับเด็กด้วย) โดยเฉพาะเด็กที่โตในเมืองแบบลูกเรา ถ้าไม่พาไปเที่ยวก็คงอดเห็นชาวนา อดป้อนหญ้าควาย อดเห็นเรือ และคงพลาดอะไรหลายๆ อย่าง
ถามว่าเด็กเล็กๆ ไปเที่ยวมาแล้วจำได้มั้ย เราขอยกตัวอย่าง วันนี้เราพาเค้าไปบางแสน ซื้อลูกบอลชายหาดให้ลูกนึง กลับมาเค้าวิ่งไปรื้อๆ กองหนังสือแล้วหยิบมาเล่มนึง (ลูกเราชอบเล่นหนังสือค่ะ ที่บ้านหนังสือเยอะมาก) มาเปิดๆๆ เราก็งงว่าเค้าเปิดอะไร แล้วเค้าก็วิ่งมาให้เราดู ชี้รูปลูกบอลชายหาดแล้วก็ชี้ลูกบอลที่เค้าเพิ่งได้มา คือเค้าจำได้ว่าลูกบอลที่แม่ซื้อให้ เค้าเคยเห็นในหนังสือ (จำได้แม้กระทั่งหนังสือเล่มไหน หน้าไหน) พอแม่ชมเค้า เค้าก็ไปหยิบหนังสือสัมผัสที่มีทราย ชี้กองทรายแล้วก็ร้องอื๊อๆ ใหญ่ คือเค้าจำได้ว่าเค้าไปเดินบนทรายมา มันคืออันนี้ที่แม่เคยอ่านให้ฟัง แล้ววันนี้เราพาเค้าไปเขาเขียวต่อ ได้ให้อาหารสัตว์ด้วยกัน ได้ชี้ชวนให้ดู กลับมาเราเอาบัตรคำศัพท์มาแล้วถามลูกว่าไหนแรด ลูกก็ชี้ได้ ทั้งๆ ที่เราไม่เคยสอนรูปแรดเค้ามาก่อน ถามว่าชะนีทำท่ายังไง ลูกก็ทำท่าชะนีให้ดู (แต่ออกมาเหมือนคิงคอง เราแอบถ่ายคลิปไว้แบลคเมล์เค้าตอนโตแล้วด้วย 555)
แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าการจำได้ คือมันเป็นข้อมูล มันคือธรรมชาติ มันคือวิทยาศาสตร์ ที่เค้าจะซึมซับมันไป เด็กที่ได้รับข้อมูลมากพอ จะสามารถคิดวิเคราะห์ได้ดี จะสามารถจินตนาการได้ดี จะสามารถแก้ปัญหาได้ดี (ในทำนองเดียวกับงานวิจัยนึงที่สรุปผลว่า หลักสูตรปริญญาตรีคือขั้นต่ำของข้อมูลที่คนๆ นึงควรจะมี เพื่อให้สามารถคิดวิเคราะห์ได้ และกลายมาเป็นมาตรฐานในการรับสมัครงาน)
ไม่จำเป็นต้องเสียเงินพาเค้าไปที่แพงๆ แต่สำคัญที่เวลาพาเค้าไปเที่ยวต้องให้เค้ามีส่วนร่วมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มาพาลูกเที่ยวกันดีกว่าค่ะ
พาลูกเที่ยวกันดีกว่า
ด้วยความที่ลูกเราเป็นลูกคนแรก และเป็นลูกคนเดียว เราก็ค่อนข้างกังวลเรื่องสุขภาพของเค้าเหมือนกัน ว่าพาไปตะลอนๆ จะไม่สบายติดโรคกลับมารึเปล่า เพราะช่วงที่ป่วย ร่างกายและสมองก็ต้องหยุดการพัฒนาไว้ก่อน ดังนั้นเราเริ่มพาลูกตะลอนเที่ยวตอนลูกครบขวบพอดี คือกะว่าตอนนี้แข็งแรงแล้วแหละ วัคซีนก็รับมาเยอะแล้ว ลุย!!
เราพาลูกเที่ยวทุกอาทิตย์ ตอนนี้ลูกขวบสามเดือนแล้วค่ะ ลูกเราไปดรีมเวิลด์ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ หัวหิน (ซานโตรินี่ ตลาดน้ำ) บางปู สวนสามพราน (เข้าฐานทำกิจกรรมไทย) สยามโอเชี่ยนเวิลด์ เขาดิน ทุ่งทานตะวัน ตลาดดอกไม้คลอง 15 ดาษดา บางแสน เขาเขียว ตอนนี้ก็ยังไม่เคยป่วยจากการไปเที่ยว
ก่อนหน้านี้ลูกเราเป็นเด็กพูดค่อนข้างช้าค่ะ เพราะยายเลี้ยงกับทีวี ให้ดูทีวีทั้งวัน แต่การพาไปเที่ยวทำให้ลูกมีพัฒนาการทางภาษาที่ก้าวกระโดดมากในความรู้สึกเรา ลูกเราพูดคำแรกได้ตอนขวบนึงพอดี ตอนนี้ลูกพูดได้เกิน 10 คำแล้ว พูดสองพยางค์ได้แล้ว จำคำศัพท์ได้มากกว่าร้อยคำ และทำตามคำสั่งสองขั้นตอนได้แล้ว (เช่น ไปเอาของที่พ่อมาให้แม่)
ในความคิดเรา เด็กเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ถ้าอยู่บ้านดูทีวี ลูกก็เห็นแต่ภาพ ไม่เข้าใจว่าของจริงเป็นยังไง (แถมบางทีรายการก็ไม่ได้เหมาะกับเด็กด้วย) โดยเฉพาะเด็กที่โตในเมืองแบบลูกเรา ถ้าไม่พาไปเที่ยวก็คงอดเห็นชาวนา อดป้อนหญ้าควาย อดเห็นเรือ และคงพลาดอะไรหลายๆ อย่าง
ถามว่าเด็กเล็กๆ ไปเที่ยวมาแล้วจำได้มั้ย เราขอยกตัวอย่าง วันนี้เราพาเค้าไปบางแสน ซื้อลูกบอลชายหาดให้ลูกนึง กลับมาเค้าวิ่งไปรื้อๆ กองหนังสือแล้วหยิบมาเล่มนึง (ลูกเราชอบเล่นหนังสือค่ะ ที่บ้านหนังสือเยอะมาก) มาเปิดๆๆ เราก็งงว่าเค้าเปิดอะไร แล้วเค้าก็วิ่งมาให้เราดู ชี้รูปลูกบอลชายหาดแล้วก็ชี้ลูกบอลที่เค้าเพิ่งได้มา คือเค้าจำได้ว่าลูกบอลที่แม่ซื้อให้ เค้าเคยเห็นในหนังสือ (จำได้แม้กระทั่งหนังสือเล่มไหน หน้าไหน) พอแม่ชมเค้า เค้าก็ไปหยิบหนังสือสัมผัสที่มีทราย ชี้กองทรายแล้วก็ร้องอื๊อๆ ใหญ่ คือเค้าจำได้ว่าเค้าไปเดินบนทรายมา มันคืออันนี้ที่แม่เคยอ่านให้ฟัง แล้ววันนี้เราพาเค้าไปเขาเขียวต่อ ได้ให้อาหารสัตว์ด้วยกัน ได้ชี้ชวนให้ดู กลับมาเราเอาบัตรคำศัพท์มาแล้วถามลูกว่าไหนแรด ลูกก็ชี้ได้ ทั้งๆ ที่เราไม่เคยสอนรูปแรดเค้ามาก่อน ถามว่าชะนีทำท่ายังไง ลูกก็ทำท่าชะนีให้ดู (แต่ออกมาเหมือนคิงคอง เราแอบถ่ายคลิปไว้แบลคเมล์เค้าตอนโตแล้วด้วย 555)
แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าการจำได้ คือมันเป็นข้อมูล มันคือธรรมชาติ มันคือวิทยาศาสตร์ ที่เค้าจะซึมซับมันไป เด็กที่ได้รับข้อมูลมากพอ จะสามารถคิดวิเคราะห์ได้ดี จะสามารถจินตนาการได้ดี จะสามารถแก้ปัญหาได้ดี (ในทำนองเดียวกับงานวิจัยนึงที่สรุปผลว่า หลักสูตรปริญญาตรีคือขั้นต่ำของข้อมูลที่คนๆ นึงควรจะมี เพื่อให้สามารถคิดวิเคราะห์ได้ และกลายมาเป็นมาตรฐานในการรับสมัครงาน)
ไม่จำเป็นต้องเสียเงินพาเค้าไปที่แพงๆ แต่สำคัญที่เวลาพาเค้าไปเที่ยวต้องให้เค้ามีส่วนร่วมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มาพาลูกเที่ยวกันดีกว่าค่ะ