The Sting (1973) ...[แชร์ความรู้สึกหลังดู]นักต้มตุ๋นผู้ชนะรางวัลออสการ์



The Sting เป็นหนึ่งในหนังที่ชนะรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่สนุกที่สุดเท่าที่ผมเคยดูมา หนังเรื่องนี้เป็นตัวอย่างชั้นดีของหนังออสการ์ที่ดูแล้วไม่เครียดและเป็นข้อพิสูจน์ว่าหนังที่เน้นขายความบันเทิงเป็นหลักก็สามารถชนะรางวัลออสการ์(หรือรางวัลอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่ราซซี่)ได้ ขอแค่มีนักแสดงเก่งๆที่เล่นเข้าขากันได้,บทที่เน้นความบันเทิงแต่ก็ไม่ตื้นเขิน,เซ็ตฉากที่ดูดีมีสกุล,และดนตรีประกอบเพราะๆที่จะทำให้คนดูเพลิดเพลินไปกับหนังยิ่งขึ้น แค่นี้ก็มากที่จะชนะใจคนดูได้แล้ว

สิ่งที่ทำให้ The Sting แลดูโดดออกมาจากหนังเรื่องอื่นๆ(นอกจากข้อเท็จจริงที่ว่าหนังเรื่องนี้ชนะรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)คือการที่หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวนักต้มตุ๋น สายอาชีพที่คนดูหนังไม่ค่อยได้เห็นมาเฉิดฉายบนจอเงินบ่อยสักเท่าไหร่นัก(ยิ่งเมื่อเทียบกับตำรวจ,มาเฟีย,นักสืบเอกชน,คาวบอย,หรือแม้กระทั่งซามูไร) จนทำไปทำมาอาจทำให้ The Sting เป็นหนังแนวนักต้มตุ๋นที่ดีที่สุดตลอดกาลด้วยความที่หนังเรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องไปตบตีแย่งชิงตำแหน่งหนังต้มตุ๋นที่ดีที่สุดตลอดกาลกับหนังนักต้มตุ๋นเรื่องไหน(ในขณะที่แม้แต่หนังเจ้าพ่ออย่าง The Godfather เองก็ยังต้องตบตีกับ Goodfellas เป็นครั้งคราวในการครองตำแหน่งหนังแก๊งสเตอร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล)

เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้มีความลงตัว กลมกล่อมทั้งในส่วนของดราม่าและคอมเมดี้ พล็อตของหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มนักต้มตุ๋นที่นำทีมโดย Robert Redford ในบทนักต้มตุ๋นหนุ่มไฟแรงกับ Paul Newman ในบทนักต้มตุ๋นรุ่นเก๋ามากประสบการณ์ที่รวมหัวกันวางแผนตุ๋นเจ้าพ่อมาเฟียสุดโหดที่รับบทโดย Robert Shaw นั้นเต็มไปด้วยจุดพลิกแพลงหลายตลบชนิดที่หนังสมัยใหม่หลายๆเรื่องยังต้องอาย ฝีมือการเขียนบทของ David S. Ward สามารถกุมความสนใจของคนดูได้อยู่หมัดด้วยการถ่ายทอดการทำงานตามแผนการเหนือเมฆของเหล่านักต้มตุ๋นที่ทั้งชาลฉลาด,แสบสันต์,และพร้อมที่จะเซอร์ไพรส์คนดูด้วยกลเม็ดแพรวพราวต่างๆได้ตลอดเวลา

เซ็ตฉากของหนังดูดีมีราคา สไตล์การกำกับที่ออกแนวรีโทรที่ให้กลิ่นอายหนังฮอลลีวู้ดยุค 20's - 30's ของผกก. George Roy Hill และเพลงธีมหลักของหนังอย่าง The Entertainer ของ Scott Joplin ที่คอมโพสสำหรับหนังเรื่องนี้โดย Marvin Hamlisch ก็เป็นอีกสององค์ประกอบที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์และขับเน้นฉากหลังของหนังที่เป็นอเมริกายุค 30's ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น

แต่ไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้เลยก็คือการจับคู่กันแท็กทีมกันของ Robert Redford ในมาดพระเอกหนุ่มหัวขบถประเภทที่คนดูสามารถจับต้องและเอาใจช่วยได้กับ Paul Newman ที่พกความเก๋ามาขโมยซีนได้ในทุกๆฉากที่เจ้าตัวโผล่ออกมา ทั้งสองมอบการแสดงที่ดีและมีเคมีที่เข้ากันได้ดีเสียจนยากจะหาคำอธิบายได้ ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งที่สอง(และน่าเสียดายที่เป็นครั้งสุดท้าย)ที่สองดารารูปหล่อแห่งยุคได้มาเล่นเป็นคู่หูกันในหนังของผกก. George Roy Hill โดยมีหนังคาวบอยหัวใจอินดี้อย่าง Butch Cassidy and the Sundance Kid เป็นเรื่องแรก ซึ่งใครที่ชอบ Redford กับ Newman ก็ไม่ควรพลาดทั้ง Butch Cassidy and the Sundance Kid และ The Sting ด้วยประการทั้งปวง

The Sting อาจเป็นหนังที่ไร้ซึ่งแง่มุมทางประวัติศาสตร์แบบหนังออสการ์แนวชีวประวัติอย่าง Lawrence of Arabia, Gandhi หรือเป็นหนังที่มีสารสาระให้คนดูเก็บเอาไปต่อยอดความคิดได้อย่างไม่รู้จบแบบหนังอย่าง The Godfather, No Country for Old Men แต่ยังไงๆหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังที่เพียบพร้อมไปด้วยองค์ประกอบที่บ่งชี้ถึงความเป็น"หนังดี" เป็นหนังคลาสสิกที่ควรค่าแก่การหยิบมาดูสักครั้งหนึ่งเป็นอย่างยิ่ง...


ป.ล. ของแถม เพลง The Entertainer ของ Scott Joplin เพลงธีมอันโด่งดังของหนังเรื่องนี้ คอมโพสสำหรับหนังเรื่องนี้โดย Marvin Hamlisch

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่