เรื่องย่อ
"The Sting" เป็นภาพยนตร์อาชญากรรม คอมเมดี้ คลาสสิกที่ออกฉายในปี 1973 กำกับโดย
George Roy Hill และนำแสดงโดยสองนักแสดงระดับตำนานอย่าง
Paul Newman และ
Robert Redford ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเป็นที่รู้จักจากพล็อตเรื่องที่ซับซ้อนและหักมุมสุดๆ
เรื่องราวเกิดขึ้นในยุค 1930s ที่เมืองจอลเลียต รัฐอิลลินอยส์ และชิคาโก Henry Gondorff (Paul Newman) นักต้มตุ๋นมืออาชีพผู้มีชื่อเสียง กำลังตกต่ำและติดเหล้า ส่วน Johnny Hooker (Robert Redford) เป็นนักต้มตุ๋นหน้าใหม่ที่มีฝีมือ แต่โชคร้ายที่การต้มตุ๋นเล็กๆ น้อยๆ ของเขาไปพัวพันกับคนสนิทของ
Doyle Lonnegan (Robert Shaw) เจ้าพ่ออาชญากรรมผู้มีอิทธิพลและเหี้ยมโหด เมื่อ Lonnegan สั่งให้ฆ่าเพื่อนสนิทของ Hooker เพื่อเป็นการแก้แค้น Hooker จึงตัดสินใจเดินทางไปหา Gondorff เพื่อขอความช่วยเหลือ
เพื่อล้างแค้นให้เพื่อนรัก Gondorff และ Hooker วางแผนที่จะร่วมมือกันเพื่อ "ต้ม" Lonnegan อย่างเป็นทางการ พวกเขาวางแผนที่จะหลอกลวง Lonnegan ด้วย "แผนต้มตุ๋นใหญ่" (the big con) ที่ซับซ้อนและต้องใช้ความร่วมมือจากนักต้มตุ๋นอีกหลายคน แผนการนี้เต็มไปด้วยการหลอกลวง การสร้างฉาก การปลอมแปลงตัวตน และการเล่นกับความโลภของเป้าหมาย เรื่องราวเต็มไปด้วยการพลิกผันที่น่าทึ่งในทุกขั้นตอน ซึ่งผู้ชมจะต้องคอยลุ้นและประหลาดใจไปกับทุกๆ กลโกงที่ตัวละครได้วางไว้
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Sting" เป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุกและมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ แม้จะออกฉายมาหลายสิบปีแล้ว แต่ความฉลาดของบทภาพยนตร์และเทคนิคการเล่าเรื่องก็ยังคงทันสมัยและน่าติดตาม สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ
เคมีระหว่าง Paul Newman และ Robert Redford ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว พวกเขารับส่งบทกันได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้มิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครดูน่าเชื่อถือและอบอุ่น
พล็อตเรื่องมีความซับซ้อนและชาญฉลาดมาก การเล่าเรื่องที่ค่อยๆ เปิดเผยรายละเอียดของแผนการต้มตุ๋นในแต่ละขั้นตอน ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังร่วมอยู่ในแผนการด้วย ความเฉลียวฉลาดของตัวละครในการหลอกลวงศัตรูนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม และทุกครั้งที่มีการเปิดเผยความจริงก็สร้างความประหลาดใจได้อย่างคาดไม่ถึง การกำกับของ George Roy Hill นั้นมีสไตล์และทำให้บรรยากาศของยุค 1930s มีชีวิตชีวา ทั้งการแต่งกาย ฉาก และการใช้ดนตรีประกอบแนว Ragtime ของ
Marvin Hamlisch ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์และได้รับรางวัลออสการ์ไป
"The Sting" ไม่ได้เป็นแค่หนังที่เน้นกลโกง แต่ยังเป็นภาพยนตร์ที่มีสไตล์ มีอารมณ์ขันแบบคลาสสิก และมีการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ เป็นภาพยนตร์ที่ดูได้ซ้ำๆ และค้นพบความฉลาดของมันได้ทุกครั้งที่ดู
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 8.3/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 93% , คะแนนจากผู้ชม 90%
สรุป
"The Sting" คือภาพยนตร์อาชญากรรมสุดคลาสสิกที่โดดเด่นด้วยบทภาพยนตร์ที่ชาญฉลาด การแสดงที่ยอดเยี่ยมของ
Paul Newman และ
Robert Redford รวมถึงสไตล์การเล่าเรื่องที่น่าสนใจ แม้จะออกฉายมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่ "The Sting" ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่มอบความบันเทิงและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยคะแนนวิจารณ์และคะแนนจากผู้ชมที่สูงมาก เป็นเครื่องยืนยันถึงความยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน "The Sting" เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวอาชญากรรม การหลอกลวง และเรื่องราวที่เต็มไปด้วยไหวพริบและชั้นเชิง.
The Sting: แผนต้มใหญ่ สุภาพบุรุษจอมลวง และกลโกงที่เหนือความคาดหมาย
เรื่องย่อ
"The Sting" เป็นภาพยนตร์อาชญากรรม คอมเมดี้ คลาสสิกที่ออกฉายในปี 1973 กำกับโดย George Roy Hill และนำแสดงโดยสองนักแสดงระดับตำนานอย่าง Paul Newman และ Robert Redford ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเป็นที่รู้จักจากพล็อตเรื่องที่ซับซ้อนและหักมุมสุดๆ
เรื่องราวเกิดขึ้นในยุค 1930s ที่เมืองจอลเลียต รัฐอิลลินอยส์ และชิคาโก Henry Gondorff (Paul Newman) นักต้มตุ๋นมืออาชีพผู้มีชื่อเสียง กำลังตกต่ำและติดเหล้า ส่วน Johnny Hooker (Robert Redford) เป็นนักต้มตุ๋นหน้าใหม่ที่มีฝีมือ แต่โชคร้ายที่การต้มตุ๋นเล็กๆ น้อยๆ ของเขาไปพัวพันกับคนสนิทของ Doyle Lonnegan (Robert Shaw) เจ้าพ่ออาชญากรรมผู้มีอิทธิพลและเหี้ยมโหด เมื่อ Lonnegan สั่งให้ฆ่าเพื่อนสนิทของ Hooker เพื่อเป็นการแก้แค้น Hooker จึงตัดสินใจเดินทางไปหา Gondorff เพื่อขอความช่วยเหลือ
เพื่อล้างแค้นให้เพื่อนรัก Gondorff และ Hooker วางแผนที่จะร่วมมือกันเพื่อ "ต้ม" Lonnegan อย่างเป็นทางการ พวกเขาวางแผนที่จะหลอกลวง Lonnegan ด้วย "แผนต้มตุ๋นใหญ่" (the big con) ที่ซับซ้อนและต้องใช้ความร่วมมือจากนักต้มตุ๋นอีกหลายคน แผนการนี้เต็มไปด้วยการหลอกลวง การสร้างฉาก การปลอมแปลงตัวตน และการเล่นกับความโลภของเป้าหมาย เรื่องราวเต็มไปด้วยการพลิกผันที่น่าทึ่งในทุกขั้นตอน ซึ่งผู้ชมจะต้องคอยลุ้นและประหลาดใจไปกับทุกๆ กลโกงที่ตัวละครได้วางไว้
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Sting" เป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุกและมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ แม้จะออกฉายมาหลายสิบปีแล้ว แต่ความฉลาดของบทภาพยนตร์และเทคนิคการเล่าเรื่องก็ยังคงทันสมัยและน่าติดตาม สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ เคมีระหว่าง Paul Newman และ Robert Redford ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว พวกเขารับส่งบทกันได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้มิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครดูน่าเชื่อถือและอบอุ่น
พล็อตเรื่องมีความซับซ้อนและชาญฉลาดมาก การเล่าเรื่องที่ค่อยๆ เปิดเผยรายละเอียดของแผนการต้มตุ๋นในแต่ละขั้นตอน ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังร่วมอยู่ในแผนการด้วย ความเฉลียวฉลาดของตัวละครในการหลอกลวงศัตรูนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม และทุกครั้งที่มีการเปิดเผยความจริงก็สร้างความประหลาดใจได้อย่างคาดไม่ถึง การกำกับของ George Roy Hill นั้นมีสไตล์และทำให้บรรยากาศของยุค 1930s มีชีวิตชีวา ทั้งการแต่งกาย ฉาก และการใช้ดนตรีประกอบแนว Ragtime ของ Marvin Hamlisch ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์และได้รับรางวัลออสการ์ไป
"The Sting" ไม่ได้เป็นแค่หนังที่เน้นกลโกง แต่ยังเป็นภาพยนตร์ที่มีสไตล์ มีอารมณ์ขันแบบคลาสสิก และมีการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ เป็นภาพยนตร์ที่ดูได้ซ้ำๆ และค้นพบความฉลาดของมันได้ทุกครั้งที่ดู
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 8.3/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 93% , คะแนนจากผู้ชม 90%
สรุป
"The Sting" คือภาพยนตร์อาชญากรรมสุดคลาสสิกที่โดดเด่นด้วยบทภาพยนตร์ที่ชาญฉลาด การแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Paul Newman และ Robert Redford รวมถึงสไตล์การเล่าเรื่องที่น่าสนใจ แม้จะออกฉายมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่ "The Sting" ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่มอบความบันเทิงและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยคะแนนวิจารณ์และคะแนนจากผู้ชมที่สูงมาก เป็นเครื่องยืนยันถึงความยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน "The Sting" เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวอาชญากรรม การหลอกลวง และเรื่องราวที่เต็มไปด้วยไหวพริบและชั้นเชิง.