เรากับเพื่อน ทำเรื่องจะไปโครงการ work&travel กับบริษัท worantex ซึ่งเพื่อนเราเป็นคนเลือก(เพราะถูกกว่าที่อื่น)
เราที่จะตามไปทีหลัง เลยหมดสิทธิ์ในการเลือกเอเจนซี่ วันที่ไปติดต่อตอนแรกก็พูดดิบดี โน่นนี่นั่น แต่ก็ดูไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่
แต่เค้าก็ยังดูแลเทคแคร์ อย่างโง้นอย่างงี้ เรากับเพื่อนก็เออ ... คงไม่แย่เท่าไหร่มั้ง
เพราะเราก็มาสมัครเร็ว คิดว่าเค้าน่าจะทำเรื่องทัน ทุกอย่างคงเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไรหรอก
และเมื่อถึงวันที่ต้องจ่ายเงินค่าโครงการ เรากับเพื่อนก็จ่ายไป เสร็จสรรพเต็มจำนวน
เมื่อถึงวันที่ให้ส่งเอกสาร ขอวีซ่า เรากับเพื่อนก็ส่งไป และก็รอสัมภาษณ์วีซ่า
ซึ่งเรากับเพื่อนก็รออย่างใจเย็น(มาก) แต่ก็ไม่มีโทรศัพท์เรียกให้ไปสัมภาษณ์วีซ่าสักที
เวลาผ่านไปนานนนนนนน จนเรากับเพื่อนสงสัย พอโทรถาม ทางเอเจนซี่ก็บอกว่า "ต้องรอทางสถานฑูตเรียกนะคะ เดี๋ยวอีกภายในอาทิตย์หน้าแน่นอนค่ะ ใจเย็นๆนะ"
เราก็อะ...ใกล้ละแหละ ใจเย็นรอกันต่อไป ในขณะที่ราคาตั๋วเครื่องบินก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถึงอาทิตย์ที่worantexบอก เราก็โทรไปอีก "พี่ต้องรอเอกสารยืนยันจากนายจ้างก่อนนะคะ ยังยื่นไม่ได้เลย" เรากับเพื่อนแบบเอ๊ะ!อะไร ?? ไหนบอก รอสถานฑูตเรียกไง แต่เราก็บอกไปว่า พี่คะ คือหนูเช็คในเว็บแล้งค่าตั๋วเครื่องบินมันเริ่มแพงแล้วตอนนี้ พี่ช่วยเร่งให้หน่อยนะ
ทาง worantex บอกกับพวกเราว่า "ซื้อตั๋วได้เลยค่ะน้อง เพราะยังไงวีซ่าก็ผ่านแน่นอน"
(อ๊าววววว,,,,!! เราก็รู้นะว่า J-1 ผ่านค่อนข้างง่าย แต่ถ้าให้ซ์้อตั๋วไว้เลยแล้วถ้าเกิดไม่ได้สัมภาษณ์วีซ่าตามกำหนด แล้วไม่ทันตั๋วเครื่องบินล่ะ ใครจะรับผิดชอบ ซื้อให้โง่สิ)
เราก็ตัดสินใจไม่ซื้อหรอก แต่ก็ยังรอสัมภาษณ์วีซ่าต่อไป ซึ่งเราต้องรอตั้งแต่มกรา .. มาจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้สัมภาษณ์วีซ่าเลย ในขณะที่ กำหนดการณ์การเดินทาง คือกลางเดือนนี้แล้ว
นอกจากนั้น บริษัทแสนซวยบริษัทนี้ ยังเปลี่ยนสถานที่ทำงานให้เราเอง โดยไม่มีการบอก หรือถามเราก่อนด้วย(แน่ซี๊!! เอาเงินไปแล้วนี่!! อยากทำอะไรก็ทำเล๊ยยยย!!!!) แล้วพอเปลี่ยนสถานที่ ที่พักก็ต้องเปลี่ยนด้วย
และเมื่อผู้ปกครองของพวกเรา เข้าไปที่บริษัทเพื่อสอบถาม(วีนแหละว่าง่ายๆ) บริษัทก็ชี้แจงเหมือนเดิมว่า ต้องรอเอกสารจากนายจ้าง(มันนานขนาดนั้นเลยเหรอ? นี่ติดต่อเรื่องกันเมื่อไหร่มิทราบคะ? หลายเดือนแล้วยังไม่ถึงซะที) นอกจากนั้น Worantex ผู้แสนหัวใส ยังเสนอขายตั๋วเครื่องบินของทางบริษัทเอง ที่ร่วมมือกับเอเจนซี่สายการบินอีกอันนึง โดยที่บอกผู้ปกครองว่า "น้องไม่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินเองได้ ต้องซื้อกับทางบริษัทเท่านั้น" (อ้าวแล้วไหนตอนแรกบอกว่าซื้อได้เลยไง? นี่พยายามจะขายของอีกชัดๆ)
และนอกจากนั้นอีก!! วันทำงานตามเอกสารที่มีมาให้เซ็นนั้น เปลี่ยนไปหมด จากที่เคยกำหนดไว้วันนึง ในเอกสารกลับเป็นอีกวันนึง !! เราก็ยังถามเลยว่า นี่มันอะไร? ทาง worantex บอกอย่างชาญฉลาดว่า ตอนนี้ทางอเมริกาเข้มมาก เค้ารู้วันเปิดเทอมของทุกมหาลัยในไทยหมดเลย มันทำให้พี่ต้องเปลี่ยนวันเริ่มทำงานของน้องทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยง ไม่ให้เค้าจับได้ค่ะ (อะไรวะ???)
และเมื่อเราถามว่าทำไมช้า พนักงานผู้แสนน่ารักบอกว่า เพราะน้องๆเป็นน้องในการดูแลของพี่คนนึง และพี่คนนี้ไม่ทำงาน ไม่จัดการเอกสารให้ เลยทำให้งานของน้องๆ ล่าช้า (อ๋อออ..) แต่ก็ไม่มีการเสนอตัว รับผิดชอบอะไรใดๆ ก็ทำเหมือนว่า เรามาสมัครช้า (อ๋อออ.... นี่ไม่คิดจะง้อหรืออะไรเลยงั้นสิ ไม่มีทั้งการคืนเงินส่วนนึง หรือแม้แต่คำว่า พี่ขอโทษ ยังไม่มีเล๊ยยยย!!!)
และอีกหลายเรื่องสตอเบอรี่ที่เอามาพูดได้อีก
มากกกกกกกกกกกก ร่ายให้หมดคงพิมจนเหนื่อยล่ะค่ะ
และตอนนี้เรารู้สึก พอกันที กับโครงการนี้ บริษัทนี้ ในเมื่อไม่ใส่ใจจะรับผิดชอบตั้งแต่เราอยู่เมืองไทยขนาดนี้ล่ะก็ เราคงไม่ไปแล้ว
เพราะรู้สึกว่า เค้าคงไม่รับผิดชอบอะไรเลยถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เราไม่ได้คาดหวังให้เค้าโอบอุ้มดูแล แต่ต้องมีความรับผิดชอบเรา ซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าของเค้าคนนึง มากกว่านี้ แถมยังหน้าเงินอีก เรื่องเงินล่ะไวเหลือเกิน เร่งให้จ่ายภายในโน่นนี่ เราก็ซื่อทำตามหมด
มันเป็นไปได้มั้ยคะถ้าเราจะขอเงินค่าโครงการของเราคืนแบบเต็มจำนวนน่ะค่ะ เพราะสุดจะทนจริงๆ

หรือร้องเรียนกับที่ไหนได้บ้างมั้ยคะ
ถ้าอยากทำเรื่องขอเงินค่าโครงการคืน จากบริษัทworantex จะทำได้มั้ย ทิ้งขว้างกันเกินไป ไม่ไหวแล้ว
เราที่จะตามไปทีหลัง เลยหมดสิทธิ์ในการเลือกเอเจนซี่ วันที่ไปติดต่อตอนแรกก็พูดดิบดี โน่นนี่นั่น แต่ก็ดูไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่
แต่เค้าก็ยังดูแลเทคแคร์ อย่างโง้นอย่างงี้ เรากับเพื่อนก็เออ ... คงไม่แย่เท่าไหร่มั้ง
เพราะเราก็มาสมัครเร็ว คิดว่าเค้าน่าจะทำเรื่องทัน ทุกอย่างคงเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไรหรอก
และเมื่อถึงวันที่ต้องจ่ายเงินค่าโครงการ เรากับเพื่อนก็จ่ายไป เสร็จสรรพเต็มจำนวน
เมื่อถึงวันที่ให้ส่งเอกสาร ขอวีซ่า เรากับเพื่อนก็ส่งไป และก็รอสัมภาษณ์วีซ่า
ซึ่งเรากับเพื่อนก็รออย่างใจเย็น(มาก) แต่ก็ไม่มีโทรศัพท์เรียกให้ไปสัมภาษณ์วีซ่าสักที
เวลาผ่านไปนานนนนนนน จนเรากับเพื่อนสงสัย พอโทรถาม ทางเอเจนซี่ก็บอกว่า "ต้องรอทางสถานฑูตเรียกนะคะ เดี๋ยวอีกภายในอาทิตย์หน้าแน่นอนค่ะ ใจเย็นๆนะ"
เราก็อะ...ใกล้ละแหละ ใจเย็นรอกันต่อไป ในขณะที่ราคาตั๋วเครื่องบินก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถึงอาทิตย์ที่worantexบอก เราก็โทรไปอีก "พี่ต้องรอเอกสารยืนยันจากนายจ้างก่อนนะคะ ยังยื่นไม่ได้เลย" เรากับเพื่อนแบบเอ๊ะ!อะไร ?? ไหนบอก รอสถานฑูตเรียกไง แต่เราก็บอกไปว่า พี่คะ คือหนูเช็คในเว็บแล้งค่าตั๋วเครื่องบินมันเริ่มแพงแล้วตอนนี้ พี่ช่วยเร่งให้หน่อยนะ
ทาง worantex บอกกับพวกเราว่า "ซื้อตั๋วได้เลยค่ะน้อง เพราะยังไงวีซ่าก็ผ่านแน่นอน"
(อ๊าววววว,,,,!! เราก็รู้นะว่า J-1 ผ่านค่อนข้างง่าย แต่ถ้าให้ซ์้อตั๋วไว้เลยแล้วถ้าเกิดไม่ได้สัมภาษณ์วีซ่าตามกำหนด แล้วไม่ทันตั๋วเครื่องบินล่ะ ใครจะรับผิดชอบ ซื้อให้โง่สิ)
เราก็ตัดสินใจไม่ซื้อหรอก แต่ก็ยังรอสัมภาษณ์วีซ่าต่อไป ซึ่งเราต้องรอตั้งแต่มกรา .. มาจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้สัมภาษณ์วีซ่าเลย ในขณะที่ กำหนดการณ์การเดินทาง คือกลางเดือนนี้แล้ว
นอกจากนั้น บริษัทแสนซวยบริษัทนี้ ยังเปลี่ยนสถานที่ทำงานให้เราเอง โดยไม่มีการบอก หรือถามเราก่อนด้วย(แน่ซี๊!! เอาเงินไปแล้วนี่!! อยากทำอะไรก็ทำเล๊ยยยย!!!!) แล้วพอเปลี่ยนสถานที่ ที่พักก็ต้องเปลี่ยนด้วย
และเมื่อผู้ปกครองของพวกเรา เข้าไปที่บริษัทเพื่อสอบถาม(วีนแหละว่าง่ายๆ) บริษัทก็ชี้แจงเหมือนเดิมว่า ต้องรอเอกสารจากนายจ้าง(มันนานขนาดนั้นเลยเหรอ? นี่ติดต่อเรื่องกันเมื่อไหร่มิทราบคะ? หลายเดือนแล้วยังไม่ถึงซะที) นอกจากนั้น Worantex ผู้แสนหัวใส ยังเสนอขายตั๋วเครื่องบินของทางบริษัทเอง ที่ร่วมมือกับเอเจนซี่สายการบินอีกอันนึง โดยที่บอกผู้ปกครองว่า "น้องไม่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินเองได้ ต้องซื้อกับทางบริษัทเท่านั้น" (อ้าวแล้วไหนตอนแรกบอกว่าซื้อได้เลยไง? นี่พยายามจะขายของอีกชัดๆ)
และนอกจากนั้นอีก!! วันทำงานตามเอกสารที่มีมาให้เซ็นนั้น เปลี่ยนไปหมด จากที่เคยกำหนดไว้วันนึง ในเอกสารกลับเป็นอีกวันนึง !! เราก็ยังถามเลยว่า นี่มันอะไร? ทาง worantex บอกอย่างชาญฉลาดว่า ตอนนี้ทางอเมริกาเข้มมาก เค้ารู้วันเปิดเทอมของทุกมหาลัยในไทยหมดเลย มันทำให้พี่ต้องเปลี่ยนวันเริ่มทำงานของน้องทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยง ไม่ให้เค้าจับได้ค่ะ (อะไรวะ???)
และเมื่อเราถามว่าทำไมช้า พนักงานผู้แสนน่ารักบอกว่า เพราะน้องๆเป็นน้องในการดูแลของพี่คนนึง และพี่คนนี้ไม่ทำงาน ไม่จัดการเอกสารให้ เลยทำให้งานของน้องๆ ล่าช้า (อ๋อออ..) แต่ก็ไม่มีการเสนอตัว รับผิดชอบอะไรใดๆ ก็ทำเหมือนว่า เรามาสมัครช้า (อ๋อออ.... นี่ไม่คิดจะง้อหรืออะไรเลยงั้นสิ ไม่มีทั้งการคืนเงินส่วนนึง หรือแม้แต่คำว่า พี่ขอโทษ ยังไม่มีเล๊ยยยย!!!)
และอีกหลายเรื่องสตอเบอรี่ที่เอามาพูดได้อีกมากกกกกกกกกกกก ร่ายให้หมดคงพิมจนเหนื่อยล่ะค่ะ
และตอนนี้เรารู้สึก พอกันที กับโครงการนี้ บริษัทนี้ ในเมื่อไม่ใส่ใจจะรับผิดชอบตั้งแต่เราอยู่เมืองไทยขนาดนี้ล่ะก็ เราคงไม่ไปแล้ว
เพราะรู้สึกว่า เค้าคงไม่รับผิดชอบอะไรเลยถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เราไม่ได้คาดหวังให้เค้าโอบอุ้มดูแล แต่ต้องมีความรับผิดชอบเรา ซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าของเค้าคนนึง มากกว่านี้ แถมยังหน้าเงินอีก เรื่องเงินล่ะไวเหลือเกิน เร่งให้จ่ายภายในโน่นนี่ เราก็ซื่อทำตามหมด
มันเป็นไปได้มั้ยคะถ้าเราจะขอเงินค่าโครงการของเราคืนแบบเต็มจำนวนน่ะค่ะ เพราะสุดจะทนจริงๆ