ผมลำดับเรื่องราวให้ฟังดังนี้
เมื่อหลายปีก่อน ตอนท่านบัญญัติ บรรทัดฐานเป็นหัวหน้าพรรค ปชป ตอนหาเสียง ก็มีการเชิญหัวหน้าพรรคต่างๆไปออกทีวี
พิธีกรถามท่านบัญญัติประมาณว่า "อยากให้ท่านช่วยบอกข้อดีของการเลือกพรรค ปชป หน่อยครับ"
ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะพรรคการเมือง ก็ต้องนำเสนอเรื่องราวนโยบายดีๆว่าจะทำอะไรให้ประชาชนเพื่อแข่งกันด้านนโยบาย ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน
ท่านบัญญัติกลับตอบมาว่า "ในสังคมไทย ไม่ใครนิยมการยกยอตัวเอง หรือกล่าวถึงตัวเองในแง่ดีนัก แต่ ......." แล้วท่านก็พูดของท่านต่อไป
พอมาวันก่อน ในการเลือกตั้ง ผู้ว่ากทม ครั้ืงนี้ คราวนี้ ท่านสุขุมพันธ์ครับ
พิธีกร ถามอะไรประมาณเดียวกันนี้แหละ
ท่านสุขุมพันธ์ท่านก็ตอบมาประมาณเหมือนท่านบัญญัติเป๊ะเลยครับ ประมาณว่า
"สังคมไทย ไ่ม่ค่อยชอบการที่มายกยอตัวเองนะครับ ดังนั้น ผม........ " แล้วท่านก็ว่าของท่านต่อไป
เอ้อ ทำไมเหมือนกันเป๊ะอย่างนี้ครับ
ผมชักคิดว่า ปชป เขาสอนกันมาอย่างนี้ใช่ไหมครับ
ว่าสังคมไทย ไม่นิยมคนยกยอ ชื่นชมตัวเอง ดังนั้น การนำเสนอนโยบายของพรรคตัวเองให้ประชาชนรู้สึกว่าดี จึงไม่ใช่เรื่องที่ีควรทำ แต่ควรกล่าวตำหนิติติงนโยบายของฝ่ายตรงข้ามแทน เลยทำให้แนวทางการหาเสียงของพรรค ปชป วนอยู่ในแบบที่เราเห็นกันมานมนานแบบนี้
ถ้าหากเรื่องที่ผมสงสัยเป็นจริง (คือเขาสอนกันมาในพรรคอย่างนี้) ผมว่าคงจะผิดยุคแล้วนะครับ
ยุคนี้ ประชาชนเขาไม่ได้เลือกเพราะชื่นชมอย่างเดียว แต่เขาอยากรู้ว่า นักการเมืองเลือกเข้ามาแล้วจะทำอะไรให้เขาบ้าง ก็บอกเขาไปสิครับ มันไม่ใช่คำยกยอตัวเอง แต่เป็นคำมั่นสัญญา เป็นนโยบาย ที่ีต้องแข่งกันในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่สอนมาว่าคนไทยไม่ชอบคนชมตัวเอง แต่ชอบฟังด่าฝ่ายตรงข้าม
ไม่อย่างนั้น การหาเสียงก็วนอยู่กับวนน้ำเน่า พูด 1 ชั่วโมง มีนโยบายตัวเอง 5 นาที อีก 55 นาที ด่านโยบายฝ่ายตรงข้ามหมด
ผมคิดว่าทาง ปชป น่าจะสอนกันมาอย่างนี้ครับ
เมื่อหลายปีก่อน ตอนท่านบัญญัติ บรรทัดฐานเป็นหัวหน้าพรรค ปชป ตอนหาเสียง ก็มีการเชิญหัวหน้าพรรคต่างๆไปออกทีวี
พิธีกรถามท่านบัญญัติประมาณว่า "อยากให้ท่านช่วยบอกข้อดีของการเลือกพรรค ปชป หน่อยครับ"
ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะพรรคการเมือง ก็ต้องนำเสนอเรื่องราวนโยบายดีๆว่าจะทำอะไรให้ประชาชนเพื่อแข่งกันด้านนโยบาย ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน
ท่านบัญญัติกลับตอบมาว่า "ในสังคมไทย ไม่ใครนิยมการยกยอตัวเอง หรือกล่าวถึงตัวเองในแง่ดีนัก แต่ ......." แล้วท่านก็พูดของท่านต่อไป
พอมาวันก่อน ในการเลือกตั้ง ผู้ว่ากทม ครั้ืงนี้ คราวนี้ ท่านสุขุมพันธ์ครับ
พิธีกร ถามอะไรประมาณเดียวกันนี้แหละ
ท่านสุขุมพันธ์ท่านก็ตอบมาประมาณเหมือนท่านบัญญัติเป๊ะเลยครับ ประมาณว่า
"สังคมไทย ไ่ม่ค่อยชอบการที่มายกยอตัวเองนะครับ ดังนั้น ผม........ " แล้วท่านก็ว่าของท่านต่อไป
เอ้อ ทำไมเหมือนกันเป๊ะอย่างนี้ครับ
ผมชักคิดว่า ปชป เขาสอนกันมาอย่างนี้ใช่ไหมครับ
ว่าสังคมไทย ไม่นิยมคนยกยอ ชื่นชมตัวเอง ดังนั้น การนำเสนอนโยบายของพรรคตัวเองให้ประชาชนรู้สึกว่าดี จึงไม่ใช่เรื่องที่ีควรทำ แต่ควรกล่าวตำหนิติติงนโยบายของฝ่ายตรงข้ามแทน เลยทำให้แนวทางการหาเสียงของพรรค ปชป วนอยู่ในแบบที่เราเห็นกันมานมนานแบบนี้
ถ้าหากเรื่องที่ผมสงสัยเป็นจริง (คือเขาสอนกันมาในพรรคอย่างนี้) ผมว่าคงจะผิดยุคแล้วนะครับ
ยุคนี้ ประชาชนเขาไม่ได้เลือกเพราะชื่นชมอย่างเดียว แต่เขาอยากรู้ว่า นักการเมืองเลือกเข้ามาแล้วจะทำอะไรให้เขาบ้าง ก็บอกเขาไปสิครับ มันไม่ใช่คำยกยอตัวเอง แต่เป็นคำมั่นสัญญา เป็นนโยบาย ที่ีต้องแข่งกันในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่สอนมาว่าคนไทยไม่ชอบคนชมตัวเอง แต่ชอบฟังด่าฝ่ายตรงข้าม
ไม่อย่างนั้น การหาเสียงก็วนอยู่กับวนน้ำเน่า พูด 1 ชั่วโมง มีนโยบายตัวเอง 5 นาที อีก 55 นาที ด่านโยบายฝ่ายตรงข้ามหมด