ซอน ฮอง-มิน หัวหอกจากเกาหลีใต้ เขาคือของจริง
เชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเข้าร่วมวงกับลิเวอร์พูล ในการหมายปองหัวหอกจากสโมสรฮัมบวร์ก ซึ่งในวัยเพียง 20 ปีเขากลายเป็นนักเตะที่ร้อนแรงของบุนเดสลีกาในฤดูกาลนี้ ความแตกต่างในพรีเมียร์ ลีกก็คือซอนเป็นชาวเกาหลีใต้ และโด่งดังขึ้นมามีชื่อเสียงในวงการกีฬาหลังจากยุคของปาร์ค จี-ซอง
ปาร์ค ซึ่งในปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับควีนสพาร์ค เรนเจอร์ส เป็นคนที่สร้างเงินรายได้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมากมาย โดยเพียงเขาคนเดียว สามารถสร้างยอดขายเสื้อได้หลายล้านตัว นักวิเคราะห์เผยว่าด้วยอายุที่น้อยนิดของซอน และการเป็นดาวยิงของเขา หัวหอกวัย 20 ปีรายนี้มีแนวโน้มที่จะทำลายสถิติของปาร์คในช่วงพีคที่สุดได้
"หากว่าผมทำผลงานได้ดี ผู้คนในประเทศของผมทำอะไรที่บ้าบอกันหลายอย่างมาก ผมได้รับจดหมาย...จดหมายบอกรักมากมาย" ซอนเผย
ซอนค้าแข้งอยู่กับฮัมบวร์กมาแล้ว 4 ปี และหลังจากการได้เริ่มลงสนามเป็นตัวจริงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาได้พิสูจน์ให้ทีมโค้ชได้เห็นว่าระบบเยาวชนของสโมสรกำลังไปได้ถูกทาง
แต่ปัจจุบันด้วยเวลาที่เหลืออีก 18 เดือนในสัญญาของเขา ไธส์ ไบลน์ไมสเตอร์ยอมรับว่าสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีมกำลังให้ความสนใจเขา
"ตัวแทนของทางอินเตอร์ มิลานได้ดูเกมการเล่นของเขาอยู่ 2-3 เกม แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่มีการติดต่อใดๆจากทางตัวแทนของพวกเขา"
"การย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์หน้าเหรอ? เขาได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับฮัมบวร์กโดยขยายไปอีก 1 ปี แต่มันก็มีข้อเสนอมากมายมาถึงเขาทั้งจากแมนฯ ยูไนเต็ดและเชลซี"
ในปี 2008 ฮัมบวร์กรับตัว ฮอง-มินเข้ามาอยู่กับทีมในข้อตกลงของสัญญากับทางสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ และ 2 ปีหลังจากนั้น ซอนในวัย 18 ปีได้กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้กับสโมสรในบุนเดสลีกา
ความโด่งดังของซอนในเกาหลีใต้ทำให้ฮัมบวร์กสามารถสร้างรายได้จำนวนมากจากเขา ทัวร์แรกของเกาหลีใต้มาลงที่สโมสรเมื่อปีที่ผ่านมา และหลังจากนั้นก็มีอีกหลายที่ติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ
"ซอนถือเป็นกุญแจของทุกๆสิ่ง ปราศจากซึ่งตัวเขาแล้วอะไรหลายๆอย่างคงเกิดขึ้นไม่ได้" ไบลน์ไมสเตอร์เผย
ในขณะที่สองสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังให้ความสนใจในตัวเขา แฟรงค์ อาร์เนเซ่นผู้อำนวยการกีฬาและนักปั้นมือทองเปรยว่าเงินสดสัก 10 ล้านยูโร อาจจะเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาปล่อยตัวดาวรุ่งรายนี้ ไปสร้างชื่อในเวทีอื่น
"หากว่าสโมสรได้รับเงินจำนวนดังกล่าวจริง พวกเราก็คงจะรับฟังพวกเขา..."
credit : www.soccersuck.com
[กระทู้ฟุตบอลต่างประเทศ 2013-02-27] ซอน ฮอง-มิน หัวหอกจากเกาหลีใต้ เขาคือของจริง (มี clip)
เชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเข้าร่วมวงกับลิเวอร์พูล ในการหมายปองหัวหอกจากสโมสรฮัมบวร์ก ซึ่งในวัยเพียง 20 ปีเขากลายเป็นนักเตะที่ร้อนแรงของบุนเดสลีกาในฤดูกาลนี้ ความแตกต่างในพรีเมียร์ ลีกก็คือซอนเป็นชาวเกาหลีใต้ และโด่งดังขึ้นมามีชื่อเสียงในวงการกีฬาหลังจากยุคของปาร์ค จี-ซอง
ปาร์ค ซึ่งในปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับควีนสพาร์ค เรนเจอร์ส เป็นคนที่สร้างเงินรายได้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมากมาย โดยเพียงเขาคนเดียว สามารถสร้างยอดขายเสื้อได้หลายล้านตัว นักวิเคราะห์เผยว่าด้วยอายุที่น้อยนิดของซอน และการเป็นดาวยิงของเขา หัวหอกวัย 20 ปีรายนี้มีแนวโน้มที่จะทำลายสถิติของปาร์คในช่วงพีคที่สุดได้
"หากว่าผมทำผลงานได้ดี ผู้คนในประเทศของผมทำอะไรที่บ้าบอกันหลายอย่างมาก ผมได้รับจดหมาย...จดหมายบอกรักมากมาย" ซอนเผย
ซอนค้าแข้งอยู่กับฮัมบวร์กมาแล้ว 4 ปี และหลังจากการได้เริ่มลงสนามเป็นตัวจริงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาได้พิสูจน์ให้ทีมโค้ชได้เห็นว่าระบบเยาวชนของสโมสรกำลังไปได้ถูกทาง
แต่ปัจจุบันด้วยเวลาที่เหลืออีก 18 เดือนในสัญญาของเขา ไธส์ ไบลน์ไมสเตอร์ยอมรับว่าสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีมกำลังให้ความสนใจเขา
"ตัวแทนของทางอินเตอร์ มิลานได้ดูเกมการเล่นของเขาอยู่ 2-3 เกม แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่มีการติดต่อใดๆจากทางตัวแทนของพวกเขา"
"การย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์หน้าเหรอ? เขาได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับฮัมบวร์กโดยขยายไปอีก 1 ปี แต่มันก็มีข้อเสนอมากมายมาถึงเขาทั้งจากแมนฯ ยูไนเต็ดและเชลซี"
ในปี 2008 ฮัมบวร์กรับตัว ฮอง-มินเข้ามาอยู่กับทีมในข้อตกลงของสัญญากับทางสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ และ 2 ปีหลังจากนั้น ซอนในวัย 18 ปีได้กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้กับสโมสรในบุนเดสลีกา
ความโด่งดังของซอนในเกาหลีใต้ทำให้ฮัมบวร์กสามารถสร้างรายได้จำนวนมากจากเขา ทัวร์แรกของเกาหลีใต้มาลงที่สโมสรเมื่อปีที่ผ่านมา และหลังจากนั้นก็มีอีกหลายที่ติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ
"ซอนถือเป็นกุญแจของทุกๆสิ่ง ปราศจากซึ่งตัวเขาแล้วอะไรหลายๆอย่างคงเกิดขึ้นไม่ได้" ไบลน์ไมสเตอร์เผย
ในขณะที่สองสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังให้ความสนใจในตัวเขา แฟรงค์ อาร์เนเซ่นผู้อำนวยการกีฬาและนักปั้นมือทองเปรยว่าเงินสดสัก 10 ล้านยูโร อาจจะเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาปล่อยตัวดาวรุ่งรายนี้ ไปสร้างชื่อในเวทีอื่น
"หากว่าสโมสรได้รับเงินจำนวนดังกล่าวจริง พวกเราก็คงจะรับฟังพวกเขา..."
credit : www.soccersuck.com