เหตุการณ์นี้เกิดที่เมือง บันดุง ประเทศอินโดนีเซียนะครับ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ
เวลาทีีผมไปเที่ยวคนเดียวผมจะหลีกเลี่ยงทางเปลี่ยว ซอกซอยเพื่อความปลอดภัย
แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ได้ทำให้ผมได้รับบทเรียนเพิ่มขึ้นครับ ผมโดนปล้นกลางตลาด ย้ำครับ ว่ากลางตลาดนัด!!!
ปกติผมไปเที่ยวผมชอบเดินตลาดเพื่อดูชีวิต บ้างครั้งก็เก็บภาพแนว street lifeเป็นประจำ ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ผมไปเดินตลาดนัดวันอาทิตย์ เมืองบันดุง แต่ผมไม่ได้เอากล้องห้อยคอ เอาใส่กระเป๋ากล้องที่เป็นเป้แล้วคาดสายคาดเอวและอก
ผมเดินดูของอยู่ในตลาด สักพักมีชายสี่คนเดินมาข้างหลัง แล้วจับผมแขนสองข้างผมล็อคพร้อมพยายามถอดนาฬิกา ส่วนชายอีกคนจับขาผมพยายามยามถอดรองเท้าผ้าใบ และชายอีกคนมายืนข้างหน้าผมจับค้นตัวค้นกางเกง
ผมพยายามดิ้นขัดขืนแขนสองข้างหลุดแต่เท้ายังไม่หลุด ชายคนที่ค้นกระเป๋ากางเกงผมเอามือถือกับกระเป๋าใส่เงินใบเล็กออกมาได้
ส่วนหระเป๋าเงินอีกใบอยู่ในกางเกงข้างหลังมีกระเป๋าเป้ปิดไว้เลยไม่โดนอะไร พอผมดิ้นหลุดหมด ผมก็พยายามแย่งคืนแต่สี่ต่อหนึ่ง คงไม่ได้แน่ๆ
ชายกลุ่มนั้นก็ผลักผมแล้วเดินหนีไปช้าๆพร้อมทำท่าให้ผมตามไป แต่ถ้าตามไปผมคงเสียมากกว่านี้แน่ผมเลยรีบเดินหาตำรวจ
ช่วงเวลาที่เกิดเหตุมันเร็วมากและไม่มีใครช่วยผมสักคน ไม่สนใจผม ผมถามหาโปริสไม่มีใครบอก จนผมเดินไปถึงหน้าไปรษณีย์ถามยาม
ยามบอกทางผมะผมเจอคนที่พูดภาษาอังกฤษได้พาผมไปแจ้งความกับตำรวจอินโด ตำรวจอินโดไม่สนใจพร้อมบอกว่าคนที่ตลาดมันเยอะตามยังไงก็ไม่เจอ และเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นประจำ แล้วก็ไม่ทำอะไร คนที่พาผมไปแจ้งความได้ขอโทษแทนตำรวจและเสียใจกับสิ่งที่เกิด ....ต่างที่ต่างแดนไม่ว่าคนจะพลุกพล่านขนาดไหนเราควรมีสติอยู่กับตัวตลอดและอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ต้องมีสติเท่านั้นครับ ของนอกกายเสียได้ดีกว่าเอาตัวไปแลกสู้กับโจร ยอมแล้วเดินหนีออกมาดีกว่า
ขอให้เพื่อนๆเที่ยวกันอย่างมีสตินะครับ
((แชร์))ประสบการ์ณถูกปล้นในต่างแดน ที่ประเทศอินโดนีเซีย
เวลาทีีผมไปเที่ยวคนเดียวผมจะหลีกเลี่ยงทางเปลี่ยว ซอกซอยเพื่อความปลอดภัย
แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ได้ทำให้ผมได้รับบทเรียนเพิ่มขึ้นครับ ผมโดนปล้นกลางตลาด ย้ำครับ ว่ากลางตลาดนัด!!!
ปกติผมไปเที่ยวผมชอบเดินตลาดเพื่อดูชีวิต บ้างครั้งก็เก็บภาพแนว street lifeเป็นประจำ ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ผมไปเดินตลาดนัดวันอาทิตย์ เมืองบันดุง แต่ผมไม่ได้เอากล้องห้อยคอ เอาใส่กระเป๋ากล้องที่เป็นเป้แล้วคาดสายคาดเอวและอก
ผมเดินดูของอยู่ในตลาด สักพักมีชายสี่คนเดินมาข้างหลัง แล้วจับผมแขนสองข้างผมล็อคพร้อมพยายามถอดนาฬิกา ส่วนชายอีกคนจับขาผมพยายามยามถอดรองเท้าผ้าใบ และชายอีกคนมายืนข้างหน้าผมจับค้นตัวค้นกางเกง
ผมพยายามดิ้นขัดขืนแขนสองข้างหลุดแต่เท้ายังไม่หลุด ชายคนที่ค้นกระเป๋ากางเกงผมเอามือถือกับกระเป๋าใส่เงินใบเล็กออกมาได้
ส่วนหระเป๋าเงินอีกใบอยู่ในกางเกงข้างหลังมีกระเป๋าเป้ปิดไว้เลยไม่โดนอะไร พอผมดิ้นหลุดหมด ผมก็พยายามแย่งคืนแต่สี่ต่อหนึ่ง คงไม่ได้แน่ๆ
ชายกลุ่มนั้นก็ผลักผมแล้วเดินหนีไปช้าๆพร้อมทำท่าให้ผมตามไป แต่ถ้าตามไปผมคงเสียมากกว่านี้แน่ผมเลยรีบเดินหาตำรวจ
ช่วงเวลาที่เกิดเหตุมันเร็วมากและไม่มีใครช่วยผมสักคน ไม่สนใจผม ผมถามหาโปริสไม่มีใครบอก จนผมเดินไปถึงหน้าไปรษณีย์ถามยาม
ยามบอกทางผมะผมเจอคนที่พูดภาษาอังกฤษได้พาผมไปแจ้งความกับตำรวจอินโด ตำรวจอินโดไม่สนใจพร้อมบอกว่าคนที่ตลาดมันเยอะตามยังไงก็ไม่เจอ และเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นประจำ แล้วก็ไม่ทำอะไร คนที่พาผมไปแจ้งความได้ขอโทษแทนตำรวจและเสียใจกับสิ่งที่เกิด ....ต่างที่ต่างแดนไม่ว่าคนจะพลุกพล่านขนาดไหนเราควรมีสติอยู่กับตัวตลอดและอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ต้องมีสติเท่านั้นครับ ของนอกกายเสียได้ดีกว่าเอาตัวไปแลกสู้กับโจร ยอมแล้วเดินหนีออกมาดีกว่า
ขอให้เพื่อนๆเที่ยวกันอย่างมีสตินะครับ