ข่าวหุ้น
หน้าหนึ่ง
เปิดโผ11หุ้นกำไรเจ๋ง
เติบโตกระฉูดเกิน100%
ยกหุ้น MALEE, FSS, TMT, CNT, FPI และ JAS ดาวเด่น
เปิดโผ 11 หุ้น กำไรสุทธิปี 55 โตก้าวกระโดดเกิน 100% เทียบปี 54 ประกอบด้วย MALEE, FSS, ZMICO, TMT, Q-CON, BROCK, CNT, SAMCO, FPI, SALEE และ JAS ส่วนค่าพีอีต่ำมาก เล่นได้สบายไม่ต้องกลัวเกณฑ์ติดแคชบาลานซ์ สัปดาห์นี้ หุ้นผันผวน ยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุน ติดตามเศรษฐกิจสหรัฐ กับเลือกตั้งนายกฯ อิตาลี ประเมินแนวรับ 1,516 จุด และแนวต้าน 1,560 จุด
“ข่าวหุ้นธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่าผลประกอบการของปี 2555 ที่ประกาศออกมามีหลายบริษัทที่มีผลกำไรสุทธิแบบก้าวกระโดด และเติบโตเกิน 100% โดยจะคัดเลือกเฉพาะที่มีกำไรจากการดำเนินงาน โดยจะตัดบริษัทที่เติบโตจากการพลิกจากขาดทุนในเหตุการณ์น้ำท่วมช่วงปลายปี 2554
สำหรับรายชื่อบริษัทที่มีกำไรสุทธิเติบโตเกิน 100% มีดังนี้ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 645.90 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 227.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 14.63 เท่า, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 181.50 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 79.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 18.74 เท่า
บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 101.35 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 23.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 340% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 26.78 เท่า, บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMT ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 446.97 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 80.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 453% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 29.78 เท่า
บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-CON ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 398.05 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 95.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 317% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 20.30 เท่า, บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน) หรือ BROCK ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 30.66 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 12.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 139% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 116.94 เท่า
บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 465.78 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 165.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 182% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 27.36 เท่า, บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 44.53 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 6.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 618% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 33.88 เท่า
บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 162.53 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 63.43 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 156% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 20.33 เท่า, บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 166.46 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 66.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 21.08 เท่า และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 2,136 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 1,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 23.37 เท่า
ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยไทย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ว่า ดัชนีจะผันผวน โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือเรื่องการตัดลดงบประมาณรายจ่ายมูลค่ากว่า 1 แสนล้านเหรียญของสหรัฐ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ว่าจะมีทิศทางใด รวมถึงการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของประเทศอิตาลี ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้
โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไร และแนะนำหุ้นที่น่าสนใจคือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ทั้งนี้ ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,516 จุด และประเมินแนวต้านที่ 1,560 จุด

(ตีตั๋วขึ้นรถกันรัวๆๆๆๆๆๆๆ) เปิดชื่อ 11 หุ้น กำไรเจ๋ง! โตก้าวกระโดดเกิน 100% ประกอบด้วย JAS, BROCK ........... ฯลฯ
หน้าหนึ่ง
เปิดโผ11หุ้นกำไรเจ๋ง
เติบโตกระฉูดเกิน100%
ยกหุ้น MALEE, FSS, TMT, CNT, FPI และ JAS ดาวเด่น
เปิดโผ 11 หุ้น กำไรสุทธิปี 55 โตก้าวกระโดดเกิน 100% เทียบปี 54 ประกอบด้วย MALEE, FSS, ZMICO, TMT, Q-CON, BROCK, CNT, SAMCO, FPI, SALEE และ JAS ส่วนค่าพีอีต่ำมาก เล่นได้สบายไม่ต้องกลัวเกณฑ์ติดแคชบาลานซ์ สัปดาห์นี้ หุ้นผันผวน ยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุน ติดตามเศรษฐกิจสหรัฐ กับเลือกตั้งนายกฯ อิตาลี ประเมินแนวรับ 1,516 จุด และแนวต้าน 1,560 จุด
“ข่าวหุ้นธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่าผลประกอบการของปี 2555 ที่ประกาศออกมามีหลายบริษัทที่มีผลกำไรสุทธิแบบก้าวกระโดด และเติบโตเกิน 100% โดยจะคัดเลือกเฉพาะที่มีกำไรจากการดำเนินงาน โดยจะตัดบริษัทที่เติบโตจากการพลิกจากขาดทุนในเหตุการณ์น้ำท่วมช่วงปลายปี 2554
สำหรับรายชื่อบริษัทที่มีกำไรสุทธิเติบโตเกิน 100% มีดังนี้ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 645.90 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 227.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 14.63 เท่า, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 181.50 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 79.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 18.74 เท่า
บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 101.35 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 23.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 340% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 26.78 เท่า, บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMT ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 446.97 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 80.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 453% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 29.78 เท่า
บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-CON ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 398.05 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 95.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 317% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 20.30 เท่า, บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน) หรือ BROCK ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 30.66 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 12.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 139% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 116.94 เท่า
บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 465.78 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 165.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 182% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 27.36 เท่า, บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 44.53 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 6.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 618% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 33.88 เท่า
บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 162.53 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 63.43 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 156% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 20.33 เท่า, บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 166.46 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 66.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 21.08 เท่า และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 2,136 ล้านบาท เทียบปี 2554 มีกำไรสุทธิ 1,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% สำหรับค่าพีอีอยู่ที่ 23.37 เท่า
ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยไทย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ว่า ดัชนีจะผันผวน โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือเรื่องการตัดลดงบประมาณรายจ่ายมูลค่ากว่า 1 แสนล้านเหรียญของสหรัฐ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ว่าจะมีทิศทางใด รวมถึงการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของประเทศอิตาลี ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้
โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไร และแนะนำหุ้นที่น่าสนใจคือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ทั้งนี้ ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,516 จุด และประเมินแนวต้านที่ 1,560 จุด