ชีวิตมหัศจรรย์ในพระเจ้า
ในวันอาทิตย์วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556 ตอนบ่ายหนึ่ง เวลา 13.00 น. เราได้ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการเนื้องอกในสมองที่ใหญ่มากกว่า 6 CM. บรรยากาศเต็มไปด้วยความกังวลใจของบรรดาครอบครัว และเพื่อนๆ แต่เราก็แทบจะไม่กังวลเลย ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น หมอทุกคนแจ้งว่า เรามีความเสี่ยงสูงที่อาจจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิต เพราะื้น้องอกขนาดใหญ่มาก และตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ ซึ่งยากที่จะเกิดขึ้น นั่นคือที่แกนสมอง โดยมีเส้นเลือดดำใหญ่ที่สำคัญที่สุดอยู่ตรงกลาง ถ้าหากสะกิดโดน เราจะเสียชีวิตได้ และด้วยความที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่มาก นั่นก็หมายความว่าต้องใช้เวลาหลายปีในการเติบโต และยิ่งโตก็ยิ่งกดทับสมองไปเรื่อยๆ และมีน้ำไหลออกมารอบๆ ทำให้เกิดภาวะสมองบวม แต่ถ้าเราปล่อยไว้โอกาสจะเป็นมะเร็งมีสูงมาก และแต่ตั้งแต่วันแรกที่เรารู้ว่าเราป่วยเป็นอะไร หนักแค่ใหน เรากลับไม่กลัวอะไรเลย เพราะพระวิญญาณบรุสุทธิ์ทรงเติมความเข้มแข็งให้เราอย่างเปี่ยมล้นและบอกเราตลอดว่าจะไม่เป็นอะไร
จนถึงเวลาเข้าไปในห้องผ่าตัด สิ่งที่เราเห็นคือเจ้าหน้าที่มากมาย ทุกคนวิ่งวุ่นกันไปหมด และขณะที่สีหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความเครียด สิ่งที่เรานึกในใจเวลานั้นก็คือ พระเจ้า ขณะที่เรากำลังจะถูกดมยาสลบเราบอกนางพยาบาลว่า ขอเวลาอธิฐานแป๊บนะค่ะ ทันใดนั้นเองน้ำตาเราก็ไหลออกมา เราอฐิษานว่า
"ข้าแต่พระเจ้า พระองค์จะทรงสถิตย์อยู่กับลูกเสมอ ขอพระองค์เจิมลูกด้วยพระหัตถ์ที่เต็มไปด้วยความเมตตาขอ
งพระองค์ ชีวิตนี้ลูกมอบไว้ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า อฐิษานในพระนามพระเยซู คริสต์เจ้า อาเมน "
หลังจากดมยาสลบ และแสงไฟสว่างจร้า เปิดขึ้น
เราได้ยินเสียงเต็มไปด้วยความอบอุ่น ว่า "เราอยู่กับลูก" และก่อนที่สติจะขาดไปนั้น เราเห็นพระเจ้ามาปรากฎกับเรา ตาเราก็หลับไปด้วยความรู้สึก อบอุ่น และปลอดภัย
การผ่าตัดผ่านไป มากกว่า 11 ชั่วโมง เปลี่ยนทีมผ่าตัดถึง สามทีม เสียเลือดมากกว่า 2200 ซีซี แต่หลังจากตื่นขึ้นเพียง สามสิบนาที โดยปรกติหากการผ่าตัดใหญ่ขนาดนี้ ต้องมาการใส่เครืองช่วยหายใจอยู่ 1-2 วัน แต่เราไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แค่ต้องให้อ๊อกซิเจนเท่านั้น อาการปวดหัว ปวดแผลแทบไม่มีเลย แขนขาขยับได้ปรกติ มีเรี่ยวแรงปรกติ อยู่ ไอซียู เพียงแค่หนึ่งคืน หมอทุกคน รวมทั้งทีมที่ผ่าตัด บอกว่าเราเป็น superwoman เพียงหนึ่งวัน เราหายปรกติมาก ทีมกายภาพบำบัดที่เตรียมมา ไม่ต้องทำงานอะไรเลย เราอยู่โรงพยาบาลเพียง 6 วันเท่านั้น ทุกคนในโรงพยาบาลเรียกเคสเราว่า Miracle Case เพราะเคสการผ่าตัดของเราใหญ่มาก แต่เราไม่มี effect อะไรเลย เรามีความสุขมาก น้ำตาไหลเลย เรากลับมาเป็นปรกติได้เพราะพระเจ้าของเราพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พระเจ้าผู้เป็นผู้รักษา เป็นหมอผู้รักษาได้ทุกโรค ด้วยความรักความเมตตาจากพระองค์ ทำให้ลูกเดินผ่าหุบเขาเงามัจจุราชมาได้ พระองค์ทรงแสดงการอัศจรรย์ในชีวิตลูกอย่างมากมาย ทรงเฆี่ยนตีลูกอย่างหนัก แต่พระองค์จะไม่มอบลูกไว้ในแดนคนตาย พระองค์นำลูกไปสู่ริมน้ำแดนสงบ ฮาเลลูยา ฮาเลลูยา ขอบพระคุณพระเจ้า ลูกรักพระเจ้าของลูกเหลือเกิน อาเมน
ปล. ตอนนี้เราออกจากโรงพยาบาลแล้ว ไปเดินห้้าง กลับไปทำงาน ไม่เป็นอะไรเลย ขอบคุณมากค่ะ

ชีวิตสุดมหัศจรรย์ ในพระคริสต์ การอัศจรรย์ในพระเจ้า
ในวันอาทิตย์วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556 ตอนบ่ายหนึ่ง เวลา 13.00 น. เราได้ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการเนื้องอกในสมองที่ใหญ่มากกว่า 6 CM. บรรยากาศเต็มไปด้วยความกังวลใจของบรรดาครอบครัว และเพื่อนๆ แต่เราก็แทบจะไม่กังวลเลย ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น หมอทุกคนแจ้งว่า เรามีความเสี่ยงสูงที่อาจจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิต เพราะื้น้องอกขนาดใหญ่มาก และตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ ซึ่งยากที่จะเกิดขึ้น นั่นคือที่แกนสมอง โดยมีเส้นเลือดดำใหญ่ที่สำคัญที่สุดอยู่ตรงกลาง ถ้าหากสะกิดโดน เราจะเสียชีวิตได้ และด้วยความที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่มาก นั่นก็หมายความว่าต้องใช้เวลาหลายปีในการเติบโต และยิ่งโตก็ยิ่งกดทับสมองไปเรื่อยๆ และมีน้ำไหลออกมารอบๆ ทำให้เกิดภาวะสมองบวม แต่ถ้าเราปล่อยไว้โอกาสจะเป็นมะเร็งมีสูงมาก และแต่ตั้งแต่วันแรกที่เรารู้ว่าเราป่วยเป็นอะไร หนักแค่ใหน เรากลับไม่กลัวอะไรเลย เพราะพระวิญญาณบรุสุทธิ์ทรงเติมความเข้มแข็งให้เราอย่างเปี่ยมล้นและบอกเราตลอดว่าจะไม่เป็นอะไร
จนถึงเวลาเข้าไปในห้องผ่าตัด สิ่งที่เราเห็นคือเจ้าหน้าที่มากมาย ทุกคนวิ่งวุ่นกันไปหมด และขณะที่สีหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความเครียด สิ่งที่เรานึกในใจเวลานั้นก็คือ พระเจ้า ขณะที่เรากำลังจะถูกดมยาสลบเราบอกนางพยาบาลว่า ขอเวลาอธิฐานแป๊บนะค่ะ ทันใดนั้นเองน้ำตาเราก็ไหลออกมา เราอฐิษานว่า
"ข้าแต่พระเจ้า พระองค์จะทรงสถิตย์อยู่กับลูกเสมอ ขอพระองค์เจิมลูกด้วยพระหัตถ์ที่เต็มไปด้วยความเมตตาขอ
งพระองค์ ชีวิตนี้ลูกมอบไว้ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า อฐิษานในพระนามพระเยซู คริสต์เจ้า อาเมน "
หลังจากดมยาสลบ และแสงไฟสว่างจร้า เปิดขึ้น
เราได้ยินเสียงเต็มไปด้วยความอบอุ่น ว่า "เราอยู่กับลูก" และก่อนที่สติจะขาดไปนั้น เราเห็นพระเจ้ามาปรากฎกับเรา ตาเราก็หลับไปด้วยความรู้สึก อบอุ่น และปลอดภัย
การผ่าตัดผ่านไป มากกว่า 11 ชั่วโมง เปลี่ยนทีมผ่าตัดถึง สามทีม เสียเลือดมากกว่า 2200 ซีซี แต่หลังจากตื่นขึ้นเพียง สามสิบนาที โดยปรกติหากการผ่าตัดใหญ่ขนาดนี้ ต้องมาการใส่เครืองช่วยหายใจอยู่ 1-2 วัน แต่เราไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แค่ต้องให้อ๊อกซิเจนเท่านั้น อาการปวดหัว ปวดแผลแทบไม่มีเลย แขนขาขยับได้ปรกติ มีเรี่ยวแรงปรกติ อยู่ ไอซียู เพียงแค่หนึ่งคืน หมอทุกคน รวมทั้งทีมที่ผ่าตัด บอกว่าเราเป็น superwoman เพียงหนึ่งวัน เราหายปรกติมาก ทีมกายภาพบำบัดที่เตรียมมา ไม่ต้องทำงานอะไรเลย เราอยู่โรงพยาบาลเพียง 6 วันเท่านั้น ทุกคนในโรงพยาบาลเรียกเคสเราว่า Miracle Case เพราะเคสการผ่าตัดของเราใหญ่มาก แต่เราไม่มี effect อะไรเลย เรามีความสุขมาก น้ำตาไหลเลย เรากลับมาเป็นปรกติได้เพราะพระเจ้าของเราพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พระเจ้าผู้เป็นผู้รักษา เป็นหมอผู้รักษาได้ทุกโรค ด้วยความรักความเมตตาจากพระองค์ ทำให้ลูกเดินผ่าหุบเขาเงามัจจุราชมาได้ พระองค์ทรงแสดงการอัศจรรย์ในชีวิตลูกอย่างมากมาย ทรงเฆี่ยนตีลูกอย่างหนัก แต่พระองค์จะไม่มอบลูกไว้ในแดนคนตาย พระองค์นำลูกไปสู่ริมน้ำแดนสงบ ฮาเลลูยา ฮาเลลูยา ขอบพระคุณพระเจ้า ลูกรักพระเจ้าของลูกเหลือเกิน อาเมน
ปล. ตอนนี้เราออกจากโรงพยาบาลแล้ว ไปเดินห้้าง กลับไปทำงาน ไม่เป็นอะไรเลย ขอบคุณมากค่ะ