ย้อนอดีตกลับไปสู่ยุคเชื่อผู้นำชาติพ้นภัย
ล่าสุด นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.เศรษฐกิจ
โดยนายกฯและผู้เข้าร่วมประชุมไม่สวมสูท ตามมาตรการรณรงค์
ประหยัดพลังงานของรัฐบาล
เป็นตัวอย่างให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน
เตรียมพร้อมรับสถานการณ์วิกฤติตามที่ “เสี่ยเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
รมว.พลังงาน ประกาศเขย่าขวัญล่วงหน้าให้ประชาชนคนไทยเตรียมรับภาวะฉุกเฉิน
ในเดือนเมษายน
กระแสไฟฟ้าไม่พอจ่าย ต้องมีเหตุไฟฟ้าดับ
สงกรานต์นี้เมืองไทยมีหวังร้อนตับแลบแน่ แต่ที่กำลังร้อนอยู่ในตอนนี้
สถานการณ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในห้วงโค้งสุดท้ายเข้าสู่ทางตรง
ตามตัวเลขที่สอดคล้องกันทั้ง “เอแบคโพล” และ “สวนดุสิตโพล”
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แชมป์เก่าจากพรรคประชาธิปัตย์
ช่องว่างทิ้งห่างกันเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว
หรือแม้แต่ “นิด้าโพล” ก็ยังออกมาว่า “พงศพัศ” แต้มนำ
“คุณชายสุขุมพันธุ์” เพียงแต่ระยะห่างไม่มาก
โพลชี้นำหรือไม่ แต่ประชาธิปัตย์คงอยู่เฉยไม่ได้
ที่แน่ๆมุกเผาบ้านเผาเมืองนอกจากจุดไม่ติด ยังเสี่ยงกระแสดีดกลับ
เพราะต้องยอมรับว่า กระแสคนเมืองกรุงอารมณ์เปลี่ยนเร็ว
เรื่องอะไรที่เฝือๆก็เบื่อแล้ว
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่า มันมีแนวทางเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ
กับยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยที่นำโดย “นางกวักเรียกแต้ม”
อย่างนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สามารถคุมเกมอยู่ในโหมดการ
หาเสียงแบบสร้างสรรค์
ไม่เน้นตอบโต้ทางการเมือง
แถมยังมีเรื่องของเกมการตลาดมาช่วยกระตุกกระแส อย่างที่เห็นภาพข่าว
นายกฯยิ่งลักษณ์นำทีมรัฐมนตรีช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ หาเสียงช่วงเย็นหลัง
เวลาราชการ
ขึ้นรถแห่ เดินตลาด เข้าห้าง นั่งรถไฟฟ้า แม้กระทั่งโหนรถเมล์ฟรี
มีทั้งช็อตกอดคนแก่ แหย่เด็ก ถ่ายรูปกับวัยรุ่น ทานข้าว กินไอติม
อัพรูปโชว์ในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเป็นข่าวปรากฏออกสื่อ
ภาพออกมาเป็นธรรมชาติ ติดดิน เข้าถึงชาวบ้าน
สถานการณ์เข้าเหลี่ยม “ยิ่งลักษณ์-พงศพัศ” ที่ถนัดเล่นกระแสสื่ออยู่แล้ว
และนั่นก็กดดันให้อีกฝ่ายต้องปรับแนวสู้แบบถึงลูกถึงคน ลุยจี้ถึงตัวกันเลย
ตามมุกล่าสุดที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวย
การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ แถลงแนวทางการรณรงค์
หาเสียงเพื่อช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง
โดยเน้นกลยุทธ์ให้ผู้ที่สนับสนุนและรักพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเคลื่อนไหว
เพื่อเชิญชวนประชาชนให้มาร่วมลงคะแนนเสียงให้กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
ใน 3 วิธีการ คือ 1. การบอกต่อกันไป 2. โทรศัพท์เชิญชวนเครือญาติ
และ 3. บอกกล่าวกับเพื่อนร่วมงานในสถานที่ทำงาน
กระตุกกองเชียร์ให้ช่วยกันออกแรง
แต่ขณะเดียวกันก็ยังวนอยู่กับเกมถนัด กับจังหวะที่นายศิริโชค โสภา
ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ “เจ้าตำรับมุก ตัดต่อ” แถลงเรียกร้อง
ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กกต.กทม. ติดตามตรวจสอบ
กรณีมีผู้ตัดต่อภาพถ่ายดารา อาทิ เบิร์ด ธงไชย ณเดชน์ คูกิมิยะ และ
บัวขาว ป.ประมุข นักมวยชื่อดัง โดยมีการนำหมายเลขและภาพถ่าย
ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เบอร์ 9 มาตัดต่อติดอยู่กับภาพดาราดังกล่าว
ทำให้เข้าใจผิดว่าบุคคลเหล่านั้นสนับสนุนผู้สมัครคน
ดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนหลงเชื่อและลงคะแนนให้ได้ จึงถือว่าส่อผิด
พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นอย่างชัดเจน เนื่องจากมีภาพและเบอร์ผู้สมัครชัดเจน
ถือเป็นการโกหกประชาชนให้เกิดความเชื่อ เพราะบุคคลเหล่านี้มีแฟนคลับ
มากเป็นพิเศษรีบชิงกระแสตีกิน เบิ้ลใส่คู่ต่อสู้ไว้ก่อน
ทั้งๆที่ไม่ชัดเจนว่า ฝ่ายไหนเป็นคนทำ ตามรูปการณ์เป็นไปได้ทั้งคิวที่ทีมงาน
พล.ต.อ.พงศพัศ “บ้องตื้น” ทำเอง หรือเป็นเหลี่ยมพวกหวังดีประสงค์ร้าย
คู่แข่ง “ยัดไส้” ให้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด.
ทีมข่าวการเมือง
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/327964
อ้าว...วันนี่้...ไทยรัฐ... หน้า 3 ถูกคุณทักษิณ...ซื้อไปซะแล้ว
ดูเถอะ ...ทำงี้ได้ไง ...
เก็บตกมาฝาก เพื่อนๆ ที่เลือก เบอร์ 9
...ถนัดไปคนละทาง... เรียกคะแนน ...กับ...ลดคะแนน
ถนัดกันไปคนละทาง ....วิเคราะห์การเมือง..ไทยรัฐออนไลน์
ล่าสุด นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.เศรษฐกิจ
โดยนายกฯและผู้เข้าร่วมประชุมไม่สวมสูท ตามมาตรการรณรงค์
ประหยัดพลังงานของรัฐบาล
เป็นตัวอย่างให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน
เตรียมพร้อมรับสถานการณ์วิกฤติตามที่ “เสี่ยเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
รมว.พลังงาน ประกาศเขย่าขวัญล่วงหน้าให้ประชาชนคนไทยเตรียมรับภาวะฉุกเฉิน
ในเดือนเมษายน
กระแสไฟฟ้าไม่พอจ่าย ต้องมีเหตุไฟฟ้าดับ
สงกรานต์นี้เมืองไทยมีหวังร้อนตับแลบแน่ แต่ที่กำลังร้อนอยู่ในตอนนี้
สถานการณ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในห้วงโค้งสุดท้ายเข้าสู่ทางตรง
ตามตัวเลขที่สอดคล้องกันทั้ง “เอแบคโพล” และ “สวนดุสิตโพล”
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แชมป์เก่าจากพรรคประชาธิปัตย์
ช่องว่างทิ้งห่างกันเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว
หรือแม้แต่ “นิด้าโพล” ก็ยังออกมาว่า “พงศพัศ” แต้มนำ
“คุณชายสุขุมพันธุ์” เพียงแต่ระยะห่างไม่มาก
โพลชี้นำหรือไม่ แต่ประชาธิปัตย์คงอยู่เฉยไม่ได้
ที่แน่ๆมุกเผาบ้านเผาเมืองนอกจากจุดไม่ติด ยังเสี่ยงกระแสดีดกลับ
เพราะต้องยอมรับว่า กระแสคนเมืองกรุงอารมณ์เปลี่ยนเร็ว
เรื่องอะไรที่เฝือๆก็เบื่อแล้ว
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่า มันมีแนวทางเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ
กับยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยที่นำโดย “นางกวักเรียกแต้ม”
อย่างนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สามารถคุมเกมอยู่ในโหมดการ
หาเสียงแบบสร้างสรรค์
ไม่เน้นตอบโต้ทางการเมือง
แถมยังมีเรื่องของเกมการตลาดมาช่วยกระตุกกระแส อย่างที่เห็นภาพข่าว
นายกฯยิ่งลักษณ์นำทีมรัฐมนตรีช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ หาเสียงช่วงเย็นหลัง
เวลาราชการ
ขึ้นรถแห่ เดินตลาด เข้าห้าง นั่งรถไฟฟ้า แม้กระทั่งโหนรถเมล์ฟรี
มีทั้งช็อตกอดคนแก่ แหย่เด็ก ถ่ายรูปกับวัยรุ่น ทานข้าว กินไอติม
อัพรูปโชว์ในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเป็นข่าวปรากฏออกสื่อ
ภาพออกมาเป็นธรรมชาติ ติดดิน เข้าถึงชาวบ้าน
สถานการณ์เข้าเหลี่ยม “ยิ่งลักษณ์-พงศพัศ” ที่ถนัดเล่นกระแสสื่ออยู่แล้ว
และนั่นก็กดดันให้อีกฝ่ายต้องปรับแนวสู้แบบถึงลูกถึงคน ลุยจี้ถึงตัวกันเลย
ตามมุกล่าสุดที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวย
การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ แถลงแนวทางการรณรงค์
หาเสียงเพื่อช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง
โดยเน้นกลยุทธ์ให้ผู้ที่สนับสนุนและรักพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเคลื่อนไหว
เพื่อเชิญชวนประชาชนให้มาร่วมลงคะแนนเสียงให้กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
ใน 3 วิธีการ คือ 1. การบอกต่อกันไป 2. โทรศัพท์เชิญชวนเครือญาติ
และ 3. บอกกล่าวกับเพื่อนร่วมงานในสถานที่ทำงาน
กระตุกกองเชียร์ให้ช่วยกันออกแรง
แต่ขณะเดียวกันก็ยังวนอยู่กับเกมถนัด กับจังหวะที่นายศิริโชค โสภา
ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ “เจ้าตำรับมุก ตัดต่อ” แถลงเรียกร้อง
ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กกต.กทม. ติดตามตรวจสอบ
กรณีมีผู้ตัดต่อภาพถ่ายดารา อาทิ เบิร์ด ธงไชย ณเดชน์ คูกิมิยะ และ
บัวขาว ป.ประมุข นักมวยชื่อดัง โดยมีการนำหมายเลขและภาพถ่าย
ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เบอร์ 9 มาตัดต่อติดอยู่กับภาพดาราดังกล่าว
ทำให้เข้าใจผิดว่าบุคคลเหล่านั้นสนับสนุนผู้สมัครคน
ดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนหลงเชื่อและลงคะแนนให้ได้ จึงถือว่าส่อผิด
พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นอย่างชัดเจน เนื่องจากมีภาพและเบอร์ผู้สมัครชัดเจน
ถือเป็นการโกหกประชาชนให้เกิดความเชื่อ เพราะบุคคลเหล่านี้มีแฟนคลับ
มากเป็นพิเศษรีบชิงกระแสตีกิน เบิ้ลใส่คู่ต่อสู้ไว้ก่อน
ทั้งๆที่ไม่ชัดเจนว่า ฝ่ายไหนเป็นคนทำ ตามรูปการณ์เป็นไปได้ทั้งคิวที่ทีมงาน
พล.ต.อ.พงศพัศ “บ้องตื้น” ทำเอง หรือเป็นเหลี่ยมพวกหวังดีประสงค์ร้าย
คู่แข่ง “ยัดไส้” ให้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด.
ทีมข่าวการเมือง
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/327964
อ้าว...วันนี่้...ไทยรัฐ... หน้า 3 ถูกคุณทักษิณ...ซื้อไปซะแล้ว
ดูเถอะ ...ทำงี้ได้ไง ...
เก็บตกมาฝาก เพื่อนๆ ที่เลือก เบอร์ 9
...ถนัดไปคนละทาง... เรียกคะแนน ...กับ...ลดคะแนน