คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12  (ที่มา:มติชนรายวัน 26 ก.พ.2556)


ขอประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเลยนะครับ

วันที่ 3 มีนาคมนี้ เชิญผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพฯ

ไปเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ใครจะกาเลือกใครก็เชิญ แต่ขอให้ออกไปใช้สิทธิ

เพราะทุกเสียงที่ท่านโหวต มีความหมายมากกว่าการเลือก
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่

ทั้งนี้ เนื่องจาก "เดิมพัน" ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครั้งนี้ มีสูงเหลือเกิน

ยิ่งเป็นผู้สมัครตัวเต็ง อย่าง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9 จากพรรคเพื่อไทย
และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 16 จากพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยแล้ว ยิ่งมีเดิมพันสูง

พรรคที่ส่งผู้สมัครลงชิงชัย อย่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ก็มีเดิมพันเรื่อง
ศักดิ์ศรีทางการเมือง

รวมไปถึงทัศนคติของคนกรุงเทพฯที่สามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับวิธีการ
หาเสียงของพรรคการเมืองได้อีกด้วย

การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ของคนกรุงเทพฯ จึงเหมือนกับการออกไปประชามติ

เลือก หรือ ไม่เลือก...

ประการแรก คือเลือกหรือไม่เลือก ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ถ้าเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ ก็แสดงว่าไม่เลือกคนอื่น

ถ้าเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็แสดงว่าไม่เลือกคนอื่น

ประการที่สอง คือ เลือกหรือไม่เลือกแนวนโยบายที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งนำเสนอ

ถ้าเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ ก็แสดงว่าเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานคร

ถ้าเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็แสดงว่าเลือกที่จะพอใจในผลงานที่ได้ทำมาแล้ว

ประการที่สาม คือ เลือกหรือไม่เลือกวิธีการหาเสียงของพรรคการเมือง

ถ้าเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ ก็แสดงว่าเห็นด้วยกับการหาเสียงด้วยวิธีนำเสนอนโยบาย
เห็นด้วยกับสโลแกน ?ไร้รอยต่อ?

แต่ถ้าเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็แสดงว่าเห็นด้วยกับการที่จะไม่เลือก พล.ต.อ.พงศพัศ
เพราะถ้าเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ เท่ากับเลือกพวกเผาบ้านเผาเมือง

การเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เท่ากับเห็นด้วยกับการนำเอาเหตุการณ์ปี 2553 มาหาเสียง

ประการสุดท้ายนี่เพิ่งได้ยิน

นั่นคือ เลือกหรือไม่เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงพรรคประชาธิปัตย์

ถ้าเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พรรคประชาธิปัตย์อาจมีการเปลี่ยนแปลง อย่างน้อย
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็บอกแล้วว่าจะลาออก

ยิ่งเมื่อ นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

แนะนำว่า หากการเลือกตั้งครั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์แพ้ ... นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
อาจจะพิจารณาตัวเอง

ตอนนี้เรื่องเปลี่ยนแปลงพรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นหัวข้อใหม่ที่พ่วงท้ายการจะ
ไปลงคะแนนเสียงกัน

นี่ยังดีนะ ที่การหาเสียงเลือกตั้งกำลังจะหมดเวลาลงในวันที่ 2 มีนาคม

เพราะหากเปิดโอกาสให้ยืดระยะออกไป เดิมพันการเลือกตั้งอาจจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

คิดดูสิ เริ่มต้นจากการส่งตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างเดียวแท้ๆ

พอเข้าสู่สนามหาเสียงเกิดมีการเพิ่มเดิมพันอื่นๆ เข้ามาเยอะแยะ

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงสำคัญไม่ใช่น้อย

และความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคะแนนเสียงที่ชาวกรุงเทพฯ
จะไปโหวตในวันเลือกตั้งด้วยสิ

การไปใช้สิทธิเลือกตั้งจึงเป็นประชามติของคนกรุง

เวลาที่เหลืออีกไม่กี่วันก่อนวันเลือกตั้งจะมาถึง เป็นโอกาสที่เปิดให้คนกรุงเทพฯ
ตรึกตรองกันให้ซึ้ง

คิดแล้วจะเลือกหมายเลขอะไรก็ตามสบาย ขออย่างเดียว ขอให้ไปใช้สิทธิของตัวเอง

เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันที่ 3 มีนาคมนี้

.........................

นฤตย์ เสกธีระ max@matichon.co.th

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1361876465&grpid=&catid=02&subcatid=0207

...มติชน ... เอ๊ย  มติชิน...อิ อิ ..เอาใจคุณร้อนหนาว ...หรือจะเป็น มติโจร มติชั่ว..ก็ได้
บอกแค่ให้ไปเลือกตั้ง วันที่ 3 มี.ค. นะคะ ไม่ได้บอกให้เลือกพรรคไหน ?  แต่บอกว่า
เลือกใคร...ได้อะไร ..แค่นั้นเอง...ไม่ว่าจะเลือกใคร  ก็ได้ผู้ว่า...กทม.คนใหม่แน่ๆ  ค่ะ