เป็นหัวข้อ ted talk หัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจเลยครับ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ... ความแตกต่างของภาษาที่ใช้ future tense กับ ภาษาที่ไม่มี future tense
เมื่อ future tense ใช้แบ่งแยก อนาคต กับปัจจุบัน สิ่งนี้เองที่ทำให้ผู้ที่ใช้ภาษานั้นๆ รุ้สึกว่า อนาคตอยู่ไกลเกินไป คือไกลเกินว่า ปัจจุบันไป
แต่ภาษาที่ไร้ future tense ทำให้ปัจจุบัน กับอนาคต ไม่ได้ถูกแยกความแตกต่างกันไว้
โดยที่เรื่องนี้ ถูกนำมาใช้อธิบาย ลักษณะการออมเงิน ของกลุ่มประชากร ที่ใช้ภาษา แบบมี future กับ ไร้ future tense
ซึ่งพบว่า เมื่อ ปัจจุบัน กับอนาคต ไม่ได้ถูกตีกรอบให้แบ่งแยกกัน จากลักษณะโครงสร้างทางภาษา
การออมเงิน เพื่ออนาคต ของกลุ่มประเทศที่ประชากรไม่มี future tense ในโครงสร้าง ภาษา คิดเป็นเปอร์เซนต์ีที่มากกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาแบบที่มี future tense.
ส่วนตัวอย่างอื่นๆ ที่ โคร้งสร้างทางภาษา ส่งผลกระทบต่อวิธีการคิดของผู้ใช้ภาษานั้นๆ อาทิ
ในภาษาอังกฤษ ต้องมีคนทำแจกันแตกเสมอ (แม้ว่ามันจะตกแตกเองก็ตาม) ในขณะที่ ภาษาญี่ปุ่น หรือภาษาสเปน (หรือไทยก็ตาม) ไม่จำเป็นต้องมีคนทำให้มันแตก --> เป็นเรื่อง guilty alert อยู่ตลอดเวลา
การบอกระดับสีของแต่ละภาษาที่แตกต่างกัน (อันนี้ผมขอยกตัวอย่างเป็นภาษาไทย เช่น สีแดงดอกเซ่ง แดงเลือดนก แดงเลือดหมู แดงชาด) ทำให้ผู้ที่ใช้ภาษานั้นๆ สามารถจำแนกสีได้ดีกว่า ...
uncle ที่ภาษาจีน (และไทย) แยกเป็น ลุงฝั่ง พ่อ/แม่, ลุงโดยสายเลือด/ลุงเขย, หรือลุงที่แก่กว่าพ่อ/เด็กกว่าพ่อ (อา) ทำให้ผู้ใช้ภาษาต้องพิจารณาความสำคัญกับลำดับญาติ ในขณะที่บางภาษา เรียกทุกคนว่า ลุง เฉยๆ
ฯลฯ ครับ
ลองไปตามอ่านได้ที่ blog นี้นะครับ
http://blog.ted.com/2013/02/19/5-examples-of-how-the-languages-we-speak-can-affect-the-way-we-think/
โครงสร้างภาษาที่ส่งผลต่อวินัยการออมเงิน
สิ่งที่น่าสนใจคือ ... ความแตกต่างของภาษาที่ใช้ future tense กับ ภาษาที่ไม่มี future tense
เมื่อ future tense ใช้แบ่งแยก อนาคต กับปัจจุบัน สิ่งนี้เองที่ทำให้ผู้ที่ใช้ภาษานั้นๆ รุ้สึกว่า อนาคตอยู่ไกลเกินไป คือไกลเกินว่า ปัจจุบันไป
แต่ภาษาที่ไร้ future tense ทำให้ปัจจุบัน กับอนาคต ไม่ได้ถูกแยกความแตกต่างกันไว้
โดยที่เรื่องนี้ ถูกนำมาใช้อธิบาย ลักษณะการออมเงิน ของกลุ่มประชากร ที่ใช้ภาษา แบบมี future กับ ไร้ future tense
ซึ่งพบว่า เมื่อ ปัจจุบัน กับอนาคต ไม่ได้ถูกตีกรอบให้แบ่งแยกกัน จากลักษณะโครงสร้างทางภาษา
การออมเงิน เพื่ออนาคต ของกลุ่มประเทศที่ประชากรไม่มี future tense ในโครงสร้าง ภาษา คิดเป็นเปอร์เซนต์ีที่มากกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาแบบที่มี future tense.
ส่วนตัวอย่างอื่นๆ ที่ โคร้งสร้างทางภาษา ส่งผลกระทบต่อวิธีการคิดของผู้ใช้ภาษานั้นๆ อาทิ
ในภาษาอังกฤษ ต้องมีคนทำแจกันแตกเสมอ (แม้ว่ามันจะตกแตกเองก็ตาม) ในขณะที่ ภาษาญี่ปุ่น หรือภาษาสเปน (หรือไทยก็ตาม) ไม่จำเป็นต้องมีคนทำให้มันแตก --> เป็นเรื่อง guilty alert อยู่ตลอดเวลา
การบอกระดับสีของแต่ละภาษาที่แตกต่างกัน (อันนี้ผมขอยกตัวอย่างเป็นภาษาไทย เช่น สีแดงดอกเซ่ง แดงเลือดนก แดงเลือดหมู แดงชาด) ทำให้ผู้ที่ใช้ภาษานั้นๆ สามารถจำแนกสีได้ดีกว่า ...
uncle ที่ภาษาจีน (และไทย) แยกเป็น ลุงฝั่ง พ่อ/แม่, ลุงโดยสายเลือด/ลุงเขย, หรือลุงที่แก่กว่าพ่อ/เด็กกว่าพ่อ (อา) ทำให้ผู้ใช้ภาษาต้องพิจารณาความสำคัญกับลำดับญาติ ในขณะที่บางภาษา เรียกทุกคนว่า ลุง เฉยๆ
ฯลฯ ครับ
ลองไปตามอ่านได้ที่ blog นี้นะครับ
http://blog.ted.com/2013/02/19/5-examples-of-how-the-languages-we-speak-can-affect-the-way-we-think/