คือเรื่องเป็นแบบนี้ครับ ผมเกิดที่ กทม . โดยพ่อแม่พี่น้องเป่าหูมาตลอดว่า โตมา ต้องทำงานดีๆ กำไรเยอะๆ จะได้มีเงินเป็นสิบๆล้าน
พอดี ผมมาได้เมียเป็นคนที่ อ.วังสะพุง จ.เลย ตอนนี้ ที่กทม.ก่อนผมจะมาที่นี่ ผมก็ได้ทำอาชีพ ขายของแต่งรถที่นำเข้าจากจีน มาขาย กำไรต่อชิ้นก็แล้วแต่ รวมๆ เดือนนึงได้ประมาณ30000-50000 พอดีผมมีแพลนว่าจะเปิดร้านแต่งรถเพิ่มที่ กทม. เพื่อที่จะเพิ่มรายได้เป็นประมาณ 80000-100000 บาทต่อเดือน
พอดีช่วงนี้ว่างงานที่ กทม.ก็เลยมาช่วยเมียขายของที่สหกรณ์ของหมู่บ้าน พอผมได้มาอยู่จริงๆจังๆ ก็เกิดรู้สึกชอบนะ ปล่อยให้ธรรมชาติพาเราไหลไปวันๆ ไม่ต้องคิดที่จะไปแข่ง ไปชิงดีชิงเด่นกับใครแบบในกทม แต่คุยกับใครไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ต้องให้เมียแปลให้อีกที
พ่อตาแม่ยายผม มีไร่อ้อยประมาณ80ไร่ เมียผมก็เอ่ยปากบอกว่า ทำไมไม่มาช่วยพ่อทำไร่อ้อยที่นีไปเลยล่ะ ผมก็เกิดคิดขึ้นมานะ
แต่พอแม่ผม พี่เขยผม ผมโทรมาถามว่าอยู่ที่นี่นเป็นไงมั่ง ก็ชอบมาถากถางประมาณว่า โอ๊ย บ้านนอก จะหาเงินได้ซักเท่าไหร่กัน จะเจริญเหรออยู่แบบนั้นไปจนแก่ตายนั่นแหละ
ใจนึงถ้าผมเลือกที่จะกลับไป กทม ผมก็เปิดร้านต่อ
ใจนึง ถ้าผมจะอยู่ที่นี่เลย ผมก็ต้องช่วยพ่อตาทำไร่อ้อย เปิดห้องเช่า แต่ก็จะโดนถากถาง
ตอนนี้ที่ผมมาช่วยเมียทำสหกรณ์ ผมก็เอาพวก โน๊ตบุค ไอโฟน มารับเติมเงินมือถือออนไลน์ คนในหมู่บ้านก็โหๆ มีแบบนี้ด้วยเหรอ ปกติขูดบัตรเอา
ตอนมอเตอร์ไซค์ก็มาเติมน้ำมันแบบปั๊มมือหมุน ผมเลยเอาตู้น้ำมันหยอดเหรียญที่ผมมีที่ กทม เอามาใช้1ตู้ ตั้งไว้หน้าบ้านเมีย คนก็ไม่ค่อยกล้าเติม กลับไปเติมมือหมุนมากกว่า
เวลาว่างๆ ผมก็รับถ่ายเอกสาร พิมพ์รายงานให้เด็กนักเรียน ขายกิฟชอฟเล็กๆ ก็ดูใช้ชีวิตสบายดีไม่มีอะไรมาก
พี่เขยผมเปิดร้านแต่งรถ ได้กำไรเดือนละประมาณ4-5แสน เค้ามองว่า ที่นี่มันจิ๊บจ๊อย อะไรประมาณนี้
ผมก็เลยกำลังงงกับตัวเองว่า จริงๆแล้ว ผมต้องการอะไรกันแน่
ผมคน กทม.โดยกำเนิด จะมาอยู่ที่ต่างจังหวัด จะคิดถูกหรือผิดครับ
พอดี ผมมาได้เมียเป็นคนที่ อ.วังสะพุง จ.เลย ตอนนี้ ที่กทม.ก่อนผมจะมาที่นี่ ผมก็ได้ทำอาชีพ ขายของแต่งรถที่นำเข้าจากจีน มาขาย กำไรต่อชิ้นก็แล้วแต่ รวมๆ เดือนนึงได้ประมาณ30000-50000 พอดีผมมีแพลนว่าจะเปิดร้านแต่งรถเพิ่มที่ กทม. เพื่อที่จะเพิ่มรายได้เป็นประมาณ 80000-100000 บาทต่อเดือน
พอดีช่วงนี้ว่างงานที่ กทม.ก็เลยมาช่วยเมียขายของที่สหกรณ์ของหมู่บ้าน พอผมได้มาอยู่จริงๆจังๆ ก็เกิดรู้สึกชอบนะ ปล่อยให้ธรรมชาติพาเราไหลไปวันๆ ไม่ต้องคิดที่จะไปแข่ง ไปชิงดีชิงเด่นกับใครแบบในกทม แต่คุยกับใครไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ต้องให้เมียแปลให้อีกที
พ่อตาแม่ยายผม มีไร่อ้อยประมาณ80ไร่ เมียผมก็เอ่ยปากบอกว่า ทำไมไม่มาช่วยพ่อทำไร่อ้อยที่นีไปเลยล่ะ ผมก็เกิดคิดขึ้นมานะ
แต่พอแม่ผม พี่เขยผม ผมโทรมาถามว่าอยู่ที่นี่นเป็นไงมั่ง ก็ชอบมาถากถางประมาณว่า โอ๊ย บ้านนอก จะหาเงินได้ซักเท่าไหร่กัน จะเจริญเหรออยู่แบบนั้นไปจนแก่ตายนั่นแหละ
ใจนึงถ้าผมเลือกที่จะกลับไป กทม ผมก็เปิดร้านต่อ
ใจนึง ถ้าผมจะอยู่ที่นี่เลย ผมก็ต้องช่วยพ่อตาทำไร่อ้อย เปิดห้องเช่า แต่ก็จะโดนถากถาง
ตอนนี้ที่ผมมาช่วยเมียทำสหกรณ์ ผมก็เอาพวก โน๊ตบุค ไอโฟน มารับเติมเงินมือถือออนไลน์ คนในหมู่บ้านก็โหๆ มีแบบนี้ด้วยเหรอ ปกติขูดบัตรเอา
ตอนมอเตอร์ไซค์ก็มาเติมน้ำมันแบบปั๊มมือหมุน ผมเลยเอาตู้น้ำมันหยอดเหรียญที่ผมมีที่ กทม เอามาใช้1ตู้ ตั้งไว้หน้าบ้านเมีย คนก็ไม่ค่อยกล้าเติม กลับไปเติมมือหมุนมากกว่า
เวลาว่างๆ ผมก็รับถ่ายเอกสาร พิมพ์รายงานให้เด็กนักเรียน ขายกิฟชอฟเล็กๆ ก็ดูใช้ชีวิตสบายดีไม่มีอะไรมาก
พี่เขยผมเปิดร้านแต่งรถ ได้กำไรเดือนละประมาณ4-5แสน เค้ามองว่า ที่นี่มันจิ๊บจ๊อย อะไรประมาณนี้
ผมก็เลยกำลังงงกับตัวเองว่า จริงๆแล้ว ผมต้องการอะไรกันแน่