จากประชาชนต้องมาก่อน
พัฒนาเป็น เป็นประชาชนมาแล้ว ก็มีสิทธิโดนยิงตายก่อน
และพัฒนาไปสู่ ชี้ว่าประชาชนเป็นอริราชศัตรู กับการหาเสียงในการจะลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
บอกตามตรงว่ามึนตึ๊บครับ อยากจะลองค้นหาจริง ๆ ว่่า มีพรรคการเมืองไหนในโลกใบนี้ สามารถมองประชาชนเพือนร่วมประเทศของตนเองเป็นไปได้ถึงเพียงนี้
ครั้งนึง ผู้หลักผู้ใหญ่ ของพรรคการเมืองนี้ ขึ้นเวทีปราศรัยสาปแช่งประชาชนที่ไม่เลือกพรรคของตนเองว่า ที่ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมก็เพราะว่าประชาชนในภาคนั้นคิดไม่ดี สิ่งศักดิ์สิทธิจึงลงโทษ (อึ้ง) แต่หลังจากนั้น ไม่นาน ฝนดันทะลึ่งย้ายไปตกในจังหวัดฐานเสียงของพรรคแก หนำซ้ำเกิดอุทกภัยที่หนักกว่านานกว่า
แกก็หุบปากแหลม ๆ ของแกเงียบสนิท (ฮา)
จากประชาชนสวะ กลายเป็น ศัตรูยึดเมืองหลวงเป็นเมืองขึ้น
จนนาทีนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกเลยว่า "พวกมันเอาอะไรคิด"
ไม่เคยปรับปรุงตัวเอง นอกจาก ด่าคนอื่น สาปแช่งคนอื่น ดูถูกคนอื่น ที่สำคัญที่สุด กล่าวหาคนอื่น
เพื่อให้ได้ชัยชนะ แค่ ๔ ปี ก็สามารถกระทำชั่วได้ แม้กระทั่ง "กล่าวหาประชาชน"
เคยมีคำกล่าวว่า ผู้แทนราษฏร์ จะเกรงกลัว เพราะประชาชนจะเป็นผู้ชี้ว่า เขาหรือเธอเหล่านั้น จะสอบได้ หรือสอบตก
นักการเมือง ชื่อเฉลิม
ตอนแกโดนล้อมที่จังหวัดกระบี่ ในฐานะ รัฐมนตรีมหาดไทย และมีหน้าที่คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แกสารภาพกลางสภาว่า แกเป็นนักการเมืองต้นทุนต่ำ แต่แกไม่เคยคิดจะทำร้ายประชาชน
ถึงแแม้นประชาชนที่มาขับไล่แก จะเป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองอื่น แกก็เลือกที่จะหนี
แกเลือกที่จะหนีอย่างหัวซุกหัวซุน ดีกว่าจะระดมตำรวจถือกระบองมาปราบปราม ซึ่งแกก็มีสิทธิจะทำได้
เพราะแกเป็นนักการเมือง "แกมาจากเสียงของประชาชน"
ย้อนหลังไปยุคทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม
แกสอบตกหดมพรรค ได้ ส.ส.ในกรุงเทพเพียงคนเดียว คือ สุดารัตน์
ทักษิณประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ ยอมรับเสียงของประชาชน และปลอบใจลูกพรรคของตนว่า
เราต้องไปปรับปรุงตนเอง เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้าไปทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ในการเลือตั้งครั้งหน้า
เขาไม่เคยปรามาสประชาชนว่า เห็นแก่ตัว เงินซื้อได้
เขาไม่เคย ด่าประชาชน สาปแช่งประชาชน
และไม่เคย มองประชาชนเป็นศัตรู
มีวลีเด็ด วลีหนึ่ง ให้คำนิยามกับนักการเมืองไว้ว่า
เมื่อท่านพุดเราจะฟัง แต่เมื่อท่านลงมือทำเราจึงจะเชื่อ
ทั้งประชาธิปัตย์ และพรรคการเมือง ที่โดนยุบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนปัจจุบันคือพรรคเพื่อไทย
ได้พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นแล้วว่า ใครทำ ใครไม่ทำ ใครทำไม่เป็น
เมื่อประชาชน ตอบผลลัพท์ ตามบรรทัดฐานข้างต้น ผ่านการเลือกตั้ง ๓ ถึง ๔ ครั้งซ้อน ๆ
แทนที่จะพิจารณา ตนเอง
ดันทะลึ่ง ด่าประชาชนซะงั้น
คิดได้อย่างไรเนี่ย พรรคสันขวานเอ้ยยยยยยย
หยามประชาชนได้ขนาดนี้ แล้วคุณจะมีหน้าไปขอเสียงเขาในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้อีกหรือ
พัฒนาเป็น เป็นประชาชนมาแล้ว ก็มีสิทธิโดนยิงตายก่อน
และพัฒนาไปสู่ ชี้ว่าประชาชนเป็นอริราชศัตรู กับการหาเสียงในการจะลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
บอกตามตรงว่ามึนตึ๊บครับ อยากจะลองค้นหาจริง ๆ ว่่า มีพรรคการเมืองไหนในโลกใบนี้ สามารถมองประชาชนเพือนร่วมประเทศของตนเองเป็นไปได้ถึงเพียงนี้
ครั้งนึง ผู้หลักผู้ใหญ่ ของพรรคการเมืองนี้ ขึ้นเวทีปราศรัยสาปแช่งประชาชนที่ไม่เลือกพรรคของตนเองว่า ที่ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมก็เพราะว่าประชาชนในภาคนั้นคิดไม่ดี สิ่งศักดิ์สิทธิจึงลงโทษ (อึ้ง) แต่หลังจากนั้น ไม่นาน ฝนดันทะลึ่งย้ายไปตกในจังหวัดฐานเสียงของพรรคแก หนำซ้ำเกิดอุทกภัยที่หนักกว่านานกว่า
แกก็หุบปากแหลม ๆ ของแกเงียบสนิท (ฮา)
จากประชาชนสวะ กลายเป็น ศัตรูยึดเมืองหลวงเป็นเมืองขึ้น
จนนาทีนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกเลยว่า "พวกมันเอาอะไรคิด"
ไม่เคยปรับปรุงตัวเอง นอกจาก ด่าคนอื่น สาปแช่งคนอื่น ดูถูกคนอื่น ที่สำคัญที่สุด กล่าวหาคนอื่น
เพื่อให้ได้ชัยชนะ แค่ ๔ ปี ก็สามารถกระทำชั่วได้ แม้กระทั่ง "กล่าวหาประชาชน"
เคยมีคำกล่าวว่า ผู้แทนราษฏร์ จะเกรงกลัว เพราะประชาชนจะเป็นผู้ชี้ว่า เขาหรือเธอเหล่านั้น จะสอบได้ หรือสอบตก
นักการเมือง ชื่อเฉลิม
ตอนแกโดนล้อมที่จังหวัดกระบี่ ในฐานะ รัฐมนตรีมหาดไทย และมีหน้าที่คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แกสารภาพกลางสภาว่า แกเป็นนักการเมืองต้นทุนต่ำ แต่แกไม่เคยคิดจะทำร้ายประชาชน
ถึงแแม้นประชาชนที่มาขับไล่แก จะเป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองอื่น แกก็เลือกที่จะหนี
แกเลือกที่จะหนีอย่างหัวซุกหัวซุน ดีกว่าจะระดมตำรวจถือกระบองมาปราบปราม ซึ่งแกก็มีสิทธิจะทำได้
เพราะแกเป็นนักการเมือง "แกมาจากเสียงของประชาชน"
ย้อนหลังไปยุคทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม
แกสอบตกหดมพรรค ได้ ส.ส.ในกรุงเทพเพียงคนเดียว คือ สุดารัตน์
ทักษิณประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ ยอมรับเสียงของประชาชน และปลอบใจลูกพรรคของตนว่า
เราต้องไปปรับปรุงตนเอง เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้าไปทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ในการเลือตั้งครั้งหน้า
เขาไม่เคยปรามาสประชาชนว่า เห็นแก่ตัว เงินซื้อได้
เขาไม่เคย ด่าประชาชน สาปแช่งประชาชน
และไม่เคย มองประชาชนเป็นศัตรู
มีวลีเด็ด วลีหนึ่ง ให้คำนิยามกับนักการเมืองไว้ว่า
เมื่อท่านพุดเราจะฟัง แต่เมื่อท่านลงมือทำเราจึงจะเชื่อ
ทั้งประชาธิปัตย์ และพรรคการเมือง ที่โดนยุบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนปัจจุบันคือพรรคเพื่อไทย
ได้พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นแล้วว่า ใครทำ ใครไม่ทำ ใครทำไม่เป็น
เมื่อประชาชน ตอบผลลัพท์ ตามบรรทัดฐานข้างต้น ผ่านการเลือกตั้ง ๓ ถึง ๔ ครั้งซ้อน ๆ
แทนที่จะพิจารณา ตนเอง
ดันทะลึ่ง ด่าประชาชนซะงั้น
คิดได้อย่างไรเนี่ย พรรคสันขวานเอ้ยยยยยยย