วิกฤติต้มยำกุ้ง พ.ศ.2540 เป็นมหาวินาศภัยเศรษฐกิจร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
ระบบการเงินพังระเนนระนาด แบงก์ทรัสต์ล้มกันเป็นแถบ ทุนสำรองประเทศเหี้ยนเต้ หนี้เน่าหนี้เสียมโหฬารบานไม่หุบ
เกิดวิกฤติหนี้เน่าก้อนใหญ่ใน ธนาคารของรัฐพร้อมกัน 2 แห่ง
เป็นสัญญาณเตือนอันตรายว่า วิกฤติการเงินรอบใหม่มีโอกาสย้อนรอยกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง??
ธนาคารของรัฐ 2 แห่ง ที่ตรวจพบปริมาณหนี้เสียสูงผิดปกติ ได้แก่...
1, ธนาคารเอสเอ็มอีแบงก์ ซึ่งกระ-ทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่เข้าควบคุมกิจการ และตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อทั้งระบบ
อาการล่าสุดอยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัส
2, ธนาคารอิสลาม หรือไอแบงก์ กระ- ทรวงการคลังในฐานะหุ้นใหญ่ กำลังเร่ง ล้างไส้หนี้เน่ากันอุตลุด
เช็กอาการล่าสุดอยู่ในขั้นวิกฤติ ระดับฝีหัวช้างแตก
หนี้เน่าสามหมื่นเก้าพันล้านบาท เท่า กับ 1 ใน 4 ของยอดสินเชื่อทั้งหมด
พูดง่ายๆคือ ไอแบงก์ปล่อยเงินกู้ 100 บาท เป็นหนี้เน่าลืมใส่ยากันบูดถึง 30 บาท
อนึ่ง ผลการตรวจสอบล่าสุด ยังพบหนี้เน่ามหาศาลของไอแบงก์ ไม่ใช่เกิดจากลูกค้ารายย่อยชักดาบ
แต่เกิดจากการปล่อยเงินกู้ผิดปกติให้กลุ่มธุรกิจไม่กี่กลุ่ม
ล้วงไส้ออกมาล้างดูแล้วมีเพียง 25 บริษัท
บางรายได้รับอัดฉีดเงินกู้สูงถึงสองพันล้านบาท
สรุปว่างานนี้ต้องมีการสอบสวนชำระสะสางกันขนาดใหญ่
“แม่ลูกจันทร์” ตั้งคำถามทิ้งไว้เพื่อหาคำตอบ
ธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อธนาคารทั้งระบบ ได้ตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อไอแบงก์บ้างหรือเปล่า??
กระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดูแลอย่างไรปล่อยให้หนี้เน่าบานอลึ่งฉึ่ง??
ตัดตอนบางส่วนจากไทยรัฐ
สัญาณเตือน ต้มยำกุ้งวิกฤตทางการเงินรอบใหม่
ระบบการเงินพังระเนนระนาด แบงก์ทรัสต์ล้มกันเป็นแถบ ทุนสำรองประเทศเหี้ยนเต้ หนี้เน่าหนี้เสียมโหฬารบานไม่หุบ
เกิดวิกฤติหนี้เน่าก้อนใหญ่ใน ธนาคารของรัฐพร้อมกัน 2 แห่ง
เป็นสัญญาณเตือนอันตรายว่า วิกฤติการเงินรอบใหม่มีโอกาสย้อนรอยกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง??
ธนาคารของรัฐ 2 แห่ง ที่ตรวจพบปริมาณหนี้เสียสูงผิดปกติ ได้แก่...
1, ธนาคารเอสเอ็มอีแบงก์ ซึ่งกระ-ทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่เข้าควบคุมกิจการ และตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อทั้งระบบ
อาการล่าสุดอยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัส
2, ธนาคารอิสลาม หรือไอแบงก์ กระ- ทรวงการคลังในฐานะหุ้นใหญ่ กำลังเร่ง ล้างไส้หนี้เน่ากันอุตลุด
เช็กอาการล่าสุดอยู่ในขั้นวิกฤติ ระดับฝีหัวช้างแตก
หนี้เน่าสามหมื่นเก้าพันล้านบาท เท่า กับ 1 ใน 4 ของยอดสินเชื่อทั้งหมด
พูดง่ายๆคือ ไอแบงก์ปล่อยเงินกู้ 100 บาท เป็นหนี้เน่าลืมใส่ยากันบูดถึง 30 บาท
อนึ่ง ผลการตรวจสอบล่าสุด ยังพบหนี้เน่ามหาศาลของไอแบงก์ ไม่ใช่เกิดจากลูกค้ารายย่อยชักดาบ
แต่เกิดจากการปล่อยเงินกู้ผิดปกติให้กลุ่มธุรกิจไม่กี่กลุ่ม
ล้วงไส้ออกมาล้างดูแล้วมีเพียง 25 บริษัท
บางรายได้รับอัดฉีดเงินกู้สูงถึงสองพันล้านบาท
สรุปว่างานนี้ต้องมีการสอบสวนชำระสะสางกันขนาดใหญ่
“แม่ลูกจันทร์” ตั้งคำถามทิ้งไว้เพื่อหาคำตอบ
ธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อธนาคารทั้งระบบ ได้ตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อไอแบงก์บ้างหรือเปล่า??
กระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดูแลอย่างไรปล่อยให้หนี้เน่าบานอลึ่งฉึ่ง??
ตัดตอนบางส่วนจากไทยรัฐ