สรุป!! โทรคมนาคมและการสือสาร (เพิ่มเติม) ประจำวัน 14/02/2556

( ข้อจำกัดด้านข้อความ ข่าวที่เหลือ UP ผ่าน ช่องทางอื่นแทนครับ )

1....   (ตีตราว่าประมูล3Gถูกต้อง!!!) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) 3Gไทยทำถูกต้อง และ ตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ที่ไทยแล้ว
2....   THCOM กริ๊ด++(มีกำไรในรอบ 5 ปี) มีกำไรสุทธิ 174 ล้านบาท ขายช่องสัญญาณได้เพิ่ม
3....   ใครจะไปขอใบอนุญติดาวเทียม++ต้องตามหา โคจรดาวเทียมใช้งานได้ เองถึงอนุมัติ
4....   กรุงเทพมหานคร ใช้ LINE ในการ โปรโมทเลือกตั้งผู้ว่าฯ
5....   สแปร์วัน (มือถือ(เผื่อ)ฉุกเฉิน) สแตนด์บายเครื่องได้นาน 2 เดือน ราคาเครื่องละ 2,390 บาท



_________________________________________________

14 กุมภาพันธ์ 2556 ใครจะไปขอใบอนุญติดาวเทียม++ต้องตามหา โคจรดาวเทียมใช้งานได้ เองถึงอนุมัติ

ประเด็นหลัก



    ในส่วนที่ 2 ตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมไม่ได้เป็นสิทธิหรืออธิปไตยของประเทศหนึ่งประเทศใด แต่เป็นทรัพยากรร่วมของทุกประเทศ การใช้งานวงโคจรดาวเทียมจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ไอทียู ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงไอซีทีเป็นผู้ดำเนินการ ดังนั้น วงโคจรดาวเทียมจึงไม่ได้อยู่ในอำนาจของ กสทช. และไม่สามารถจะนำมาประมูลคลื่นความถี่ตามมาตรา 45 ได้
    นอกจากนี้แล้ว  กสทช. ไม่ได้พิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมแก่บริษัทไทยคมฯ เป็นการเฉพาะ  หากต่อไปมีผู้ประกอบการรายอื่นมาขอใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการดาวเทียม  กสทช. ก็จะพิจารณาในเงื่อนไขและหลักการเดียวกัน กล่าวคือ หากผู้ประกอบการมีความพร้อมและมีคุณสมบัติตามกฎหมาย ก็จะได้รับใบอนุญาต เมื่อได้รับใบอนุญาตแล้ว ผู้ประกอบการก็เข้าสู่กระบวนการระหว่างประเทศของไอทียูผ่าน กสทช.และกระทรวงไอซีที เพื่อให้สามารถมีวงโคจรดาวเทียมใช้งานได้   ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้ เป็นแนวทางที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยมีโอกาสมีวงโคจรดาวเทียมเพิ่มขึ้นและมีผู้ประกอบการมากรายขึ้น  และเป็นแนวทางการออกใบอนุญาตผู้ประกอบการดาวเทียมที่ประเทศต่างๆ ใช้กันอยู่โดยทั่วไป

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=168475:2013-02-12-08-26-
29&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491


__________________________________________________


(ตีตราว่าประมูล3Gถูกต้อง!!!) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) 3Gไทยทำถูกต้อง และ ตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ที่ไทยแล้ว


ประเด็นหลัก



พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (14 ก.พ.) กทค. ได้รับมอบรายงานผลการศึกษาและประเมินการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ (3จี) ฉบับสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมาของประเทศไทย จากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) โดยผลการศึกษาและการประเมินการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ (3จี) ของประเทศไทย จาก ITU สรุปได้ว่า กสทช. โดย กทค. ประสบความสำเร็จในการประมูลคลื่นความถี่ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดสรรคลื่นความถี่ตามมาตรฐานสากล โดยมีหลักการ วัตถุประสงค์ การออกแบบ และผลที่ได้รับจากการประมูลคลื่นความถี่ สอดคล้องกับหลักปฏิบัติสากล

ทั้งนี้ ผลการศึกษาและประเมินจาก ITU ระบุว่า การจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ ของ กสทช. โดย กทค. ครั้งที่ผ่านมา มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรม ปราศจากข้อสงสัย ทางด้านกฎระเบียบ และกฎหมาย อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติการประมูลคลื่นความถี่ในประเทศต่างๆ หลายประเทศทั่วโลก ขณะที่ การออกใบอนุญาตที่ผ่านมา มีเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ เรื่อง การใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน และ MVNO ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการแข่งขัน





นายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) ที่ ชั้น 5 อาคารศูนย์ฝึกอบรม บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ถนนแจ้งวัฒนะ ว่า ประเทศไทยได้เริ่มเข้าเป็นสมาชิก ITU ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2426 ซึ่งในสมัยนั้นใช้ชื่อว่า สหภาพโทรเลขระหว่างประเทศ (International Telegraph Union) ที่ผ่านมากระทรวงไอซีทีได้มีส่วนร่วมดำเนินการต่างๆ ในกิจกรรมของ ITU และได้รับเลือกให้เป็นกรรมการบริหารของสภาสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศถึง 7 สมัย

นอกจากนั้นประเทศไทยยังได้รับเลือกจาก ITU ให้เป็นที่ตั้งของสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เนื่องจากเห็นว่า กรุงเทพมหานครเป็นที่ตั้งขององค์การโทรคมนาคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (Asia Pacific Telecommunity : APT) และ United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (UNESCAP) ประกอบกับเป็นศูนย์กลางของสายการบินต่างๆ ซึ่งการได้ทำหน้าที่ประเทศเจ้าภาพที่เป็นที่ตั้งสำนักงานของประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยสามารถติดต่อขอรับความร่วมมือทางวิชาการจาก ITU เพื่อพัฒนาบุคลากรและรับวิทยาการที่ทันสมัยได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งจะช่วยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโทรคมนาคมในภูมิภาคต่อไป ซึ่งสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ ITU เดิมตั้งอยู่ที่ชั้น 3 อาคาร 6 บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถนนแจ้งวัฒนะ



http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%
B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/204881/ITU-
%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8
%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A53%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%82%
E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%
99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1
http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B
8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/204871/itu-
%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%87-
%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%
B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%81
%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2


___________________________________________



14 กุมภาพันธ์ 2556 กรุงเทพมหานคร ใช้ LINE ในการ โปรโมทเลือกตั้งผู้ว่าฯ

ประเด็นหลัก



นอกจากนี้ ยังให้หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านระบบสารสนเทศ  และการสื่อสาร หรือไอที ส่งข้อความสั้น (SMS) ผ่านผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตลอดจนทางแอพพลิเคชั่น “ไลน์ (Line)” เพื่อเป็นการแจ้งเตือนประชาชนผู้มีสิทธิ และลงทะเบียนใช้งานแอพฯ ดังกล่าวผ่านเครือข่ายให้ทราบข้อมูลกำหนดการเป็นระยะๆด้วย ขณะเดียวกัน สำหรับหน่วยงานที่มีที่ทำการตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ริมน้ำ ก็ได้จัดทำกระบวนเรือรณรงค์ตระเวนตามแม่น้ำลำคลองสายต่างๆอีกทางหนึ่งด้วย

นายมานิตกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หลังจาก กทม.ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์การจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ การติดตั้งป้าย คัตเอาต์ ตามหน่วยงานในสังกัด และการปล่อยตัววิ่งบนจอมอนิเตอร์ รวมทั้งป้ายจราจรอัจฉริยะบนสะพานลอยทั่วกรุงเทพฯ เบื้องต้นพบว่าได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดีมาก ทำให้แต่ละวันมีผู้โทร.มาสอบถามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่ง กกต.ยืนยันว่ายังไม่สามารถกระทำได้เพราะเป็นการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น ขณะเดียวกัน กทม.ต้องขอขอบคุณบรรดาผู้สมัครแต่ละรายที่ช่วยสร้างกระแสด้วยการพยายามช่วงชิงพื้นที่ข่าวกันแทบทุกวัน.


http://www.thairath.co.th/content/pol/326522



________________________________________



สแปร์วัน (มือถือ(เผื่อ)ฉุกเฉิน) สแตนด์บายเครื่องได้นาน 2 เดือน ราคาเครื่องละ 2,390 บาท

ประเด็นหลัก



เราสามารถสแตนด์บายเครื่องได้นาน 2 เดือน โทรต่อเนื่องนาน 10 ชั่วโมง หรือใช้เป็นไฟฉายแอลอีดีนานถึง 24 ชั่วโมง ทั้งยังสามารถสำรองไว้ได้ถึง 15 ปีโดยไม่เปิดใช้งาน ทนทานต่อสภาพอากาศหนาวจัดในอุณหภูมิ -40 องศาเซลเซียส และร้อนได้ถึง 60 องศาเซลเซียส ขณะเดียวกันก็สามารถบันทึกหมายเลขโทรออกเร่งด่วน 9 เบอร์สำคัญ ส่วนปุ่มโทรฉุกเฉินฟรีนั้น มีการพัฒนาและสามารถใช้งานได้สำหรับในต่างประเทศเท่านั้น เนื่องจากหมายเลขฉุกเฉินของไทยและฝรั่งเศสไม่ได้ถูกรองรับในการโทรฟรี คุณสมบัติดังกล่าวจึงไม่สามารถใช้งานได้



ยอมรับว่าเราไม่ได้ตั้งเป้าหมายให้สินค้าเราติดตลาดแมส จริงๆ แล้วทุกสินค้าเราจะเน้นที่อรรถประโยชน์ในการใช้งาน และสามารถตอบสนองความต้องการของบุคคลเฉพาะกลุ่ม กับมือถือสแปร์ วัน ก็คงจะตามชื่อคือช่วยเก็บสแปร์ฉันไว้ซักเครื่องเถอะ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเมื่อไหร่จะจำเป็นต้องใช้ โดยในต่างประเทศจำหน่ายอยู่ที่ราคา 99 เหรียญ แต่ในประเทศไทยเราขอให้เขาสนับสนุนจึงได้เปิดตัวที่ราคาเครื่องละ 2,390 บาท หรือ 2,300 บาทต่อเครื่อง เมื่อซื้อเป็นแพ็ก 4 เครื่อง


http://www.thairath.co.th/content/tech/326547


_______________________________________


14 กุมภาพันธ์ 2556 THCOM กริ๊ด++(มีกำไรในรอบ 5 ปี) มีกำไรสุทธิ 174 ล้านบาท ขายช่องสัญญาณได้เพิ่ม


ประเด็นหลัก




บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)  THCOM ประกาศผลการดำเนินงานปี 2555 มีกำไรสุทธิรวม 174 ล้านบาท   เติบโต265% เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่ขาดทุนสุทธิ 476 ล้านบาท


ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยคม กล่าวต่อว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวมในปี 2555 ทั้งสิ้น 7,266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% จากปี 2554 โดยรายได้หลักกว่า 86% มาจากธุรกิจดาวเทียม โดยมีรายได้จากการให้บริการวงโคจรดาวเทียมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งสิ้น 6,279 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% จากปีก่อน อันเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 13.8% จากการเติบโตของธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและการให้บริการเสริมแก่ลูกค้าของดาวเทียมไทยคม 5 และรายได้จากการให้บริการดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ที่เพิ่มขึ้น 7.7% จากการรับรู้รายได้ตลอดปีของการให้บริการแก่ลูกค้าตามสัญญาที่เกิดขึ้นในปี 2554 เช่น การให้บริการแก่ ซอฟท์แบงค์ เมียแซท และเอ็นบีเอ็น โค

“ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา จะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของการเติบโตในปี 2556 และปีต่อๆ ไป ธุรกิจดาวเทียมของไทยคมมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจดาวเทียมเป็นส่วนที่ทำรายได้หลักให้บริษัทฯ ถึง 86% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถขายช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 6 ล่วงหน้าได้แล้วถึง 40% ทั้งนี้ จะเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วและชัดเจนขึ้นอีก หลังการส่งดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจรในปีนี้ รวมถึงดาวเทียมไทยคม 7 ในปี 2557” นางศุภจี  กล่าว


ส่วนรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจดาวเทียม โดยที่มีรายได้จากการให้บริการวงโคจรดาวเทียมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งสิ้น 6,279 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 จากปีก่อน อันเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.8 จากการเติบโตของธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและการให้บริการเสริมแก่ลูกค้าของดาวเทียมไทยคม 5


http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-32/10607-thcom-5.html
http://www.thairath.co.th/content/tech/326627

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่