ได้ไปอ่านกระทู้นึงในเว็บต่างประเทศทำให้รู้สึกถึงความแตกต่างของ การเลี้ยงดู+ใช้ชีวิต+วัฒนธรรม

ดิฉันอยู่เดนมาร์กนะคะ วัฒนธรรมตะวันตกมันเป็นมาแบบนี้ค่ะ
แต่เมื่อ 50 ปีก่อน วัฒนธรรมตะวันตกก็เหมือนฝั่งเอเชียบ้านเราปัจจุบันนี้ค่ะ
ในอนาคตอีก 50 ปีข้างหน้าวัฒนธรรมเอเชีย อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ ใครจะรู้
ดูอย่างการอยู่กินฉันท์สามีภรรยาก่อนแต่งงานเป็นต้น

เด็กอายุครบ 18 ปี ตามกฎหมาย ถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้วค่ะ
ที่เดนมาร์ก พ่อแม่ ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนลูกอีกต่อไปค่ะ เพราะถือว่าผิดกฎหมาย
เด็กคนไหนที่ไม่ได้แยกบ้านออกไปอยู่ต่างหากถือว่าผิดปกติค่ะ
เด็กที่ย้ายบ้านออกไปจากพ่อแม่แล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะภูมิใจในตัวเองมากๆนะคะ
คือพวกเขาสามารถมีชีวิตของพวกเขาได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่อีกต่อไปค่ะ
ส่วนเรื่องความใกล้ชิดกันในครอบครัว ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ก็เหมือนกันทั้งโลกแหล่ะค่ะ
มีทั้งที่ผูกพันกันมากกับครอบครัว และไม่แยแสครอบครัวเลยก็มี

เด็กที่ย้ายบ้านออกไปแล้ว จะเรียนต่อหรือทำงาน ก็เป็นชีวิตที่เด็กตัดสินใจเองค่ะ
พ่อแม่มีสิทธิ์แค่ดูอยู่ห่างๆและให้คำปรึกษาค่ะ
เด็กต้องรู้จักหางานทำเพื่อที่จะมีเงินซื้ออาหาร มีเงินจ่ายค่าเช่าอพาตเมนท์ ซึ่งราคาแต่ละอย่างแพงมากๆ

ขออธิบายถึงระบบการศึกษาของที่นี่นิดนึงนะคะ
การศึกษาของเดนมาร์ก ไม่ได้แบ่งแยกเด็กให้เรียนแยกสายกันค่ะ
คือของไทย เด็กที่เรียนจบมัธยมต้นแล้ว จะเลือกเรียนต่อสายอาชีพหรือว่ามุ่งสายยาวไปมหาวิทยาลัย
ก็จะแบ่งสายอาชีพอย่างเด่นชัดตั้งแต่นั้นเลย
เด็กที่เรียนสายอาชีพก็เรียนจบก่อน มีงานทำก่อน แต่อาจจะเป็นงานที่ไม่ได้เงินเดือนสูง
ซึ่งภายหลังเด็กสามารถเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้

แต่การศึกษาของเดนมาร์ก เด็กทุกคนต้องเรียนสายอาชีพค่ะ เป็นภาคบังคับ
การเรียนต่อสายอาชีวะของที่นี่ ก็เป็นเด็กเรียนค่ะ
ไม่ใช่ภาพเด็กที่ชอบยกพวกตีกัน หรือไม่มีความสามารถพอจะเรียนต่อสายมหาวิทยาลัยได้

เพราะฉะนั้นเด็กที่นี่พออายุครบ 18 ปี เขาก็เรียนจบสายอาชีพกันหมดแล้ว
สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ค่ะ
ถ้าเด็กแยกบ้านออกไปจากพ่อแม่แล้ว และเขาอยากเรียนต่อในระดับวิชาชีพชั้นสูงและระดับมหาวิทยาลัยเขาก็สามารถทำได้ค่ะ
เพราะการศึกษาของเดนมาร์กฟรี ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนจบด็อกเตอร์
และเด็กทุกคนจะได้รับเงินเดือนทุกเดือนค่ะ
แต่เพราะค่าครองชีพของที่นี่สูงติดอันดับต้นๆของโลก
ทำให้เด็กที่แยกบ้านออกไปจำเป็นต้องทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย หรือไม่ก็ทำงานไปสักสองสามปีเพื่อเก็บเงิน แล้วก็เรียนต่อค่ะ

แต่ปัจจุบันนี้ เด็กบางคนก็ขอที่จะอยู่กับพ่อแม่เองเรียนในขณะที่เรียนต่อระดับที่สูงขึ้นไป
เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆค่ะ และเด็กก็ได้รับเงินเดือนระหว่างเรียน
แต่ก็ใช่ว่าเมื่อเด็กอาศัยอยู่กับพ่อแม่แล้วจะฟรีนะคะ พ่อแม่ก็คิดค่าเช่าบ้านและค่าอาหารค่ะ แต่อาจจะไม่ได้แพงเหมือนกับแยกบ้านไปอยู่ต่างหาก

เด็กตะวันตก จะโตเป็นผู้ใหญ่เร็วเพราะวัฒนธรรมเป็นมาแบบนี้ค่ะ แยกบ้านออกไปเร็ว รับผิดชอบชีวิตตัวเองเร็ว

ดิฉันเป็นคนไทย แต่ก็ทำงานหาเงินตั้งแต่เรียนชั้นประถมค่ะ
พอเรียนมหาวิยาลัย ก็ทำงานพาร์ทไทม์ควบคู่กันไป หาเงินเรียนเองตั้งแต่อายุ 18 ปี
และช่วยเหลือค่าใช้จ่ายที่บ้านค่ะ ถึงดิฉันจะไม่ได้แยกบ้านอยู่กับพ่อแม่เพราะวัฒนธรรม
แต่ดิฉันก็มีความคิดว่า พออายุ 18 ปี ก็ต้องทำงาน หาเงิน รับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้ค่ะ

จะแยกบ้านหรืออยู่กับพ่อแม่ ก็ไม่สำคัญเท่า การสอนเด็กให้มีความรับผิดชอบต่อชีวิตตนเองค่ะ