“มาร์ค”ตอกอธิบดีดีเอสไอทำหน้าที่ไม่เหมาะสมการันตีและแก้ตัว“จูดี้”ฟอกผิด ขู่เดือดร้อนแน่ จี้รัฐแก้ปัญหา กระตุกสำนึก จนท.ทำตาม กม. .…
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา ณ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาการันตีความบริสุทธิ์ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทยว่าไม่เกี่ยวกับปัญหาโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ(ทดแทน) และอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ในเมื่อเอกสารข้อเท็จจริงกำลังปรากฏถึงผู้เกี่ยวข้องอยู่ เช่น มีเอกสารชัดเจนว่าพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอให้เห็นชอบในแนวทางการประมูล นายธาริต จะตอบประเด็นนี้อย่างไร ซึ่งการที่นายธาริตเปิดสถานที่ราชการให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ออกมาแก้ตัวและรับรอง เป็นเรื่องไม่ปกติ ขณะที่ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ติดตามเรื่องนี้อยู่ แต่ตนยังไม่ทราบจะมี การร้องเรียนอย่างไรบ้าง
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า หัวใจของปัญหาคือการบริหารสัญญามากกว่า และคนที่ทำนโยบายในเวลา 1ปี 6เดือน จะไม่รับผิดชอบได้อย่างไร ปัญหาขณะนี้คือนายธาริต ไม่มีหลักเอาตัวบุคคลเป็นหลัก ไม่ได้เอาเนื้อหาข้อเท็จจริงเป็นหลัก นายธาริต มีเจตนาดำเนินการชัดเจนซึ่งจะเป็นปัญหาในทางกฎหมาย และนายธาริตจะเดือดร้อน เพราะกล่าวหาคนหนึ่ง แต่พอหลักฐานถึงบุคคลหนึ่งก็ตัดตอนออกไปเหมือนจงใจเลือกปฏิบัติ
ส่วนกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ยอมรับการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าทำให้ ต้องขยายอายุสัญญาออกไปนั้น ตนคิดว่าจะกระทบเรื่องการเสียค่าปรับ รวมทั้งจะทำให้ราชการเสียหายได้จึงต้องไล่ดูว่าปัญหามาจากไหน ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา เพราะนโยบายนี้มาจากการดำเนินการของรัฐบาลชุดที่แล้วในการจัดสรรงบประมาณให้ และเป็นความตั้งใจที่ดีต่อข้าราชการตำรวจและประชาชน แต่กลับเอาการเมืองมากล่าวหาโดยไม่ดูข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน
เมื่อถามว่า ดีเอสไอระบุจะสรุปสำนวนให้เสร็จภายใน 30 วัน โดยจะเชิญนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับ สตช. ไปชี้แจงช่วงท้ายการสอบสวนคิดว่าเร่งรีบเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า หากสรุปโดยมีข้อมูลครบก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเชิญตนและนายสุเทพไปแล้วไม่เชิญอีกหลายคนไปชี้แจงจะถือว่านายธาริต ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะมีการฟ้องกลับหรือไม่ ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กำลังดูอยู่
"ผมขอเตือนให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเที่ยงตรง เพราะมีกฎหมายกำกับการทำงานอยู่และหากทำผิดกฎหมาย เลือกปฏิบัติหรือกลั่นแกล้งก็จะมีความผิดทางอาญา ผมเห็นใจคนในดีเอสไอบางคนที่อาจรู้สึกอึดอัด แต่ก็ต้องเลือกที่จะทำงานอย่างเที่ยงตรง หรือทำงานตามใบสั่ง ส่วนที่โฆษกพรรคเพื่อไทยขู่ยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์นั้น อยากให้พรรคเพื่อไทยระวังว่าจะถูกข้อหาใส่ร้ายได้ เพราะนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว.
http://www.thairath.co.th/content/pol/326075
ทีเมื่อก่อนตอนแมงสาปเป็นรัฐบาลก็เห็นยกย่องชมเชยนักหนา แล้วตอนนี้ทำไมโวยวายใหญ่ล่ะ อย่างนี้ก็มีด้วย นะ
'มาร์ค' จวก 'ธาริต' ออกหน้าอุ้ม 'จูดี้' ฟอกผิด [ตอนเป็นรัฐบาลยังเห็นมาร์คยกย่องชมเชยธาริตอยู่นี่นา]
“มาร์ค”ตอกอธิบดีดีเอสไอทำหน้าที่ไม่เหมาะสมการันตีและแก้ตัว“จูดี้”ฟอกผิด ขู่เดือดร้อนแน่ จี้รัฐแก้ปัญหา กระตุกสำนึก จนท.ทำตาม กม. .…
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา ณ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาการันตีความบริสุทธิ์ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทยว่าไม่เกี่ยวกับปัญหาโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ(ทดแทน) และอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ในเมื่อเอกสารข้อเท็จจริงกำลังปรากฏถึงผู้เกี่ยวข้องอยู่ เช่น มีเอกสารชัดเจนว่าพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอให้เห็นชอบในแนวทางการประมูล นายธาริต จะตอบประเด็นนี้อย่างไร ซึ่งการที่นายธาริตเปิดสถานที่ราชการให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ออกมาแก้ตัวและรับรอง เป็นเรื่องไม่ปกติ ขณะที่ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ติดตามเรื่องนี้อยู่ แต่ตนยังไม่ทราบจะมี การร้องเรียนอย่างไรบ้าง
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า หัวใจของปัญหาคือการบริหารสัญญามากกว่า และคนที่ทำนโยบายในเวลา 1ปี 6เดือน จะไม่รับผิดชอบได้อย่างไร ปัญหาขณะนี้คือนายธาริต ไม่มีหลักเอาตัวบุคคลเป็นหลัก ไม่ได้เอาเนื้อหาข้อเท็จจริงเป็นหลัก นายธาริต มีเจตนาดำเนินการชัดเจนซึ่งจะเป็นปัญหาในทางกฎหมาย และนายธาริตจะเดือดร้อน เพราะกล่าวหาคนหนึ่ง แต่พอหลักฐานถึงบุคคลหนึ่งก็ตัดตอนออกไปเหมือนจงใจเลือกปฏิบัติ
ส่วนกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ยอมรับการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าทำให้ ต้องขยายอายุสัญญาออกไปนั้น ตนคิดว่าจะกระทบเรื่องการเสียค่าปรับ รวมทั้งจะทำให้ราชการเสียหายได้จึงต้องไล่ดูว่าปัญหามาจากไหน ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา เพราะนโยบายนี้มาจากการดำเนินการของรัฐบาลชุดที่แล้วในการจัดสรรงบประมาณให้ และเป็นความตั้งใจที่ดีต่อข้าราชการตำรวจและประชาชน แต่กลับเอาการเมืองมากล่าวหาโดยไม่ดูข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน
เมื่อถามว่า ดีเอสไอระบุจะสรุปสำนวนให้เสร็จภายใน 30 วัน โดยจะเชิญนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับ สตช. ไปชี้แจงช่วงท้ายการสอบสวนคิดว่าเร่งรีบเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า หากสรุปโดยมีข้อมูลครบก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเชิญตนและนายสุเทพไปแล้วไม่เชิญอีกหลายคนไปชี้แจงจะถือว่านายธาริต ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะมีการฟ้องกลับหรือไม่ ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กำลังดูอยู่
"ผมขอเตือนให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเที่ยงตรง เพราะมีกฎหมายกำกับการทำงานอยู่และหากทำผิดกฎหมาย เลือกปฏิบัติหรือกลั่นแกล้งก็จะมีความผิดทางอาญา ผมเห็นใจคนในดีเอสไอบางคนที่อาจรู้สึกอึดอัด แต่ก็ต้องเลือกที่จะทำงานอย่างเที่ยงตรง หรือทำงานตามใบสั่ง ส่วนที่โฆษกพรรคเพื่อไทยขู่ยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์นั้น อยากให้พรรคเพื่อไทยระวังว่าจะถูกข้อหาใส่ร้ายได้ เพราะนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว.
http://www.thairath.co.th/content/pol/326075
ทีเมื่อก่อนตอนแมงสาปเป็นรัฐบาลก็เห็นยกย่องชมเชยนักหนา แล้วตอนนี้ทำไมโวยวายใหญ่ล่ะ อย่างนี้ก็มีด้วย นะ