เมื่อปี 50 ที่ผ่านมาเราได้พบรักกับ ผช.คนหนึ่ง ตอนแรกๆก็ไม่คิดว่ามันจะไม่พัฒนากลายมาเป็นความรักเพราะทำงานที่เดียวกันจึงเกิดความสนิทกัน เขาไปมาหาสู่กันทุกวัน เราถามว่าคุณมีแฟนหรือยัง เขาตอบ ไม่มีครับ แต่เคยมีสมัยเรียน ป.ตรี แล้วก็เลิกกันไปนานแล้ว จากนั้นเราก็คบหาดูใจกัน จนพัฒนากลายเป็นความรัก ผญ.เราถ้าได้รักใครคน ย่อมเสียสละ และให้ได้ทุกอย่างเพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข และเราเชื่อว่าผู้หญิงเราทุกคนต้องเป็นอย่างเรา (ช่วยเหลือในเรื่องความจำเป็นพื้นฐานและปัจจัยสี่) เขาอยู่อย่างสบายมากที่มาเจอความรักอย่างเรา เพราะคอยช่วยเหลือยามเขาไม่มีอะไรสักอย่าง จนหัวหน้าเขา ที่ให้เขาไปอยู่บ้านพักด้วยกันอิจฉา
จากนั้นเขามาสารภาพกับเราว่า เขาเคยมีเมียมาก่อนหน้าที่จะมาคบกับเรา และเลิกกันไปแล้ว เขาว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งท้องกับเขา และมีเหตุต้องแท้งลูก จากนั้นก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป จนกระทั้งได้มาเจอเรา เรา เสียความรู้สึกมาระยะหนึ่ง แต่ก็คิดว่า เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ช่างเถอะในเมื่อปัจจุบัน ผญ.คนนั้นก็ไปมีคนใหม่แล้ว และเขาก็มามีเราก็ค่อยคบหาดูใจกันไปเป็นกำลังใจให้กันยามไม่มีใคร
ต้นปี 51 มีเหตุที่เขาต้องย้ายไปทำงานทางภาคเหนือตอนล่าง เพราะสอบรับราชการได้ ไปทำงานที่ใหม่ไม่มีรถไปทำงาน บ่นว่าลำบากมากต้องอาศัยรถเพื่อนร่วมงานเข้าในพื้นที่ทุกวัน เราจึงเอาเงินให้ 30,000 บาทให้ไปซื้อมอไซค์ และเขาก็ผ่อนส่งให้เราเดือนละ2,000 บาท ทุกเดือน ในระหว่างที่ผ่อนส่งให้ยังไม่หมดนั้น มีบางอย่างที่เราดูเหมือนเขาจะพยายามตีตัวออกห่าง เหมือนกับเขาจะมีผู้หญิงอีกคน จากการสังเกต คำพูด การมีเวลาให้กัน จนวันสุดท้ายที่ส่งเงินครบ เขาเอามาให้ที่หอพัก และก็กลับจากนั้นเราโทรติดต่อก็ไม่รับสาย วันเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ เกิดช่วงปลายปี 53
จากนั้นมีข้อความส่งมาทางเมลล์บอกว่า ผมต้องเลือกทางเดินของตัวเอง ขอโทษทุกอย่าง ไม่อยากจะโกหกอีกต่อไปแล้ว ผมอยู่ทางนี้คบกับใครคนหนึ่งเกินเลยไม่สามารถกลับไปได้ ผมต้องรับผิดชอบเขา เรื่องมีบ้าน มีรถยนต์ เรียนต่อ ป.โท ที่ ม.เกษตรศาสตร์ วันศุกร์ต้อง ไปนอนค้างบ้านเขา เขามีบ้านอยู่ กทม. ผมต้องไปนอนที่บ้านเขา เพราะใกล้กับ ม.เกษตร เขามีพ่อแม่ และเสียชีวิตหมดแล้ว และมีพี่ชายคนหนึ่งเป็นตำรวจ อยู่ชายแดนใต้ ถูกยิงเสียชีวิต เขาตัวคนเดียว และเขาต้องดูแลหลานชายตัวเล็กๆ อีกคนหนึ่ง อย่างไงๆ ผมก็ไม่กลับไปหาคุณอีกแล้ว เจ็บมากคะ...แต่ก็ยืนด้วยลำแข้งตนเองได้
วันเวลาผ่านไปได้ประมาณ 8 เดือน กลับมาขอเราให้อภัย บอกว่า ผมขอโทษทุกอย่างที่ทำให้คุณเสียใจกับเรื่องราวที่ผ่านมา ขอให้คุณยกโทษให้ผม คุณเป็นคนที่ใช่สำหรับผม ผญ.คนนั้น เขาโกหกผม สิ่งที่เขาพูดและแสดงออกไม่มีความจริงเลย เขามีสามีแล้ว และมีลูกชาย 1 คน ที่เขาอ้างว่าเป็นหลาน ผมจะทำเรื่องย้ายมาอยู่ทางเหนือ และให้คุณหาซื้อที่ดินราคาพอซื้อได้สักแปลงหนึ่ง เราจะมาสร้างครอบครัวกัน เราจะเพาะกล้ายางพาราที่นั่น แล้วผมจะเอาไปขายให้เกษตรกร ซึ่งผมกำลังส่งเสริมให้เขาปลูกกันอยู่ ผมจะมาติดตากล้ายางเอง (เขาเป็นเกษตรตำบลค่ะ)
ด้วยความหลงผิดคิดว่าเขาจะกลับตัวเป็นคนดีเหมือนเดิม เราจึงตัดสินใจอภัยเขา และลงทุน เช่าที่ดินข้างๆ สำนักงานเราเอง เพาะกล้ายางพารา ทั้งที่ตัวเองไม่เคยทำ มันเป็นอะไรที่หนักมากสำหรับ ผญ.คนหนึ่งที่ต้องทำสวนคนเดียว หลังเลิกงานเราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดทำงาน ใส่ชุดคนสวน เข้าไปดูแปลงเพาะทุกวัน จ้างเขาเอาดินมาลง จ้างเขากรอกดินลงถุง จ้างเขาขน เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้กลับบ้าน ต้องเข้าไปดู เราดูแลมันอย่างดี ทำองหมด
วันเวลาผ่านไป จนต้นใหญ่ได้ที่ ที่จะต้องติดตากล้ายางแล้ว เขามาติดให้ไม่กี่ต้น อ้างว่าไม่ค่อยมีเวลา เราจึงไปจ้างคนอื่นมาติดให้ พอถึงเวลาที่ต้องขนย้าย เขาก็เอารถยนต์คันใหม่ซึ่งเราช่วยเขา 40000 บาท(ตอนนี้เขาคืนให้หมดแล้ว) มาขน เราถามว่าขนไปตั้งหลายเที่ยวเยอะมากมายขนาดนี้เอาไปไว้ที่ไหน ตอบว่า เอาไปฝากคนอื่นไว้ มีบางส่วนเอาไว้ที่สำนักงาน เราก็เชื่อใจ
จนกระทั่วอยู่มาวันหนึ่ง เราเจอรูปผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาในเฟสของเขา ยืนถ่ายรูปกลางทะเล เราพยายามเข้าไปดูว่าเป็นใคร ปรากฏว่า เป็นผู้หญิงที่เขากำลังคบหาดูใจกันทั้งที่เขากับเรายังไม่เลิกกันนะ และเราก็ได้พูดทางโทรศัพท์กับผู้หญิงคนนี้ ได้คุยกับแม่เขา ได้คุยกับญาติเขา ผญ.คนนี้พูดว่า ชายคนนี้เข้ามาคบหากับเขาเรากำลังดูใจกัน พี่เขา เอากล้ายางพารามาไว้ที่บ้านตอนนี้แม่กำลังกรอกดินใส่ถุงเพื่อจะเอากล้ายางที่เขาขนมาจากลำปางมาเสียบไว้ นางนี้ว่าชายนี้บอกว่าเขาจ้างลูกน้องเพาะไว้ที่ลำปางเยอะมากๆ ตอนนี้จะหมดสัญญาเช่าแล้ว ต้องรีบขนออก (ทั้งที่เราเป็นคนเพาะกับมือทั้งนั้น) ฉันนี่แหละเป็นคนเพาะกับมือ เธออยากเห็นภาพถ่าย และสัญญาเช่าที่ดินมั้ยจะส่งให้ดู
สุดท้ายมาความจริงมาเปิดเผย
-ไปบอกให้ฝ่ายโน้นว่า ยังไม่มีใคร ตัวคนเดียว อยากมีครอบครัว อยากมีลูก จะกู้เงินมาสู่ขอ เอาหัวหน้ามาเป็นเฒ่าแก่ และแม่มาสู่ขอ ผู้หญิงที่ผ่านมา 4 คน ไม่ได้ยกย่องใครว่าเป็นเมียสักคน ผู้หญิงที่ผ่านมานั้นไม่ได้เกิดจากความรัก เกิดจากความสงสารมากกว่า
-พูดกับนางคนนี้ว่าเราเป็นคนเข้าไปหาเขาก่อน ตอนเริ่มคบกัน และมาบอกเราว่าคนเราตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง
ถามเพื่อนๆในห้องนี้เคยเจอเหมือนเรามั้ย แล้ว คุณคิดอย่างไรกับนางคนนี้ ซึ่งเป็นคนมาทีหลังอันดับที่ 4 ที่อายุอ่อนกว่ามันไป 9 ปี
-ไปพูดให้นางคนนี้ฟังว่า เรานี้กล่าวหาว่านางมีสามีมาก่อนแล้ว ทั้งที่คำนี้ไม่เคยออกจากปากเราเลย สร้างเรื่องให้คนอื่นเชื่อ แล้วโยนผิดให้เรา เพื่อตัวเองจะได้คะแนนนิยมเพิ่ม
ใครเจอความรักที่มีแต่ให้ และตอนนี้ก็ให้ไปแล้ว
จากนั้นเขามาสารภาพกับเราว่า เขาเคยมีเมียมาก่อนหน้าที่จะมาคบกับเรา และเลิกกันไปแล้ว เขาว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งท้องกับเขา และมีเหตุต้องแท้งลูก จากนั้นก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป จนกระทั้งได้มาเจอเรา เรา เสียความรู้สึกมาระยะหนึ่ง แต่ก็คิดว่า เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ช่างเถอะในเมื่อปัจจุบัน ผญ.คนนั้นก็ไปมีคนใหม่แล้ว และเขาก็มามีเราก็ค่อยคบหาดูใจกันไปเป็นกำลังใจให้กันยามไม่มีใคร
ต้นปี 51 มีเหตุที่เขาต้องย้ายไปทำงานทางภาคเหนือตอนล่าง เพราะสอบรับราชการได้ ไปทำงานที่ใหม่ไม่มีรถไปทำงาน บ่นว่าลำบากมากต้องอาศัยรถเพื่อนร่วมงานเข้าในพื้นที่ทุกวัน เราจึงเอาเงินให้ 30,000 บาทให้ไปซื้อมอไซค์ และเขาก็ผ่อนส่งให้เราเดือนละ2,000 บาท ทุกเดือน ในระหว่างที่ผ่อนส่งให้ยังไม่หมดนั้น มีบางอย่างที่เราดูเหมือนเขาจะพยายามตีตัวออกห่าง เหมือนกับเขาจะมีผู้หญิงอีกคน จากการสังเกต คำพูด การมีเวลาให้กัน จนวันสุดท้ายที่ส่งเงินครบ เขาเอามาให้ที่หอพัก และก็กลับจากนั้นเราโทรติดต่อก็ไม่รับสาย วันเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ เกิดช่วงปลายปี 53
จากนั้นมีข้อความส่งมาทางเมลล์บอกว่า ผมต้องเลือกทางเดินของตัวเอง ขอโทษทุกอย่าง ไม่อยากจะโกหกอีกต่อไปแล้ว ผมอยู่ทางนี้คบกับใครคนหนึ่งเกินเลยไม่สามารถกลับไปได้ ผมต้องรับผิดชอบเขา เรื่องมีบ้าน มีรถยนต์ เรียนต่อ ป.โท ที่ ม.เกษตรศาสตร์ วันศุกร์ต้อง ไปนอนค้างบ้านเขา เขามีบ้านอยู่ กทม. ผมต้องไปนอนที่บ้านเขา เพราะใกล้กับ ม.เกษตร เขามีพ่อแม่ และเสียชีวิตหมดแล้ว และมีพี่ชายคนหนึ่งเป็นตำรวจ อยู่ชายแดนใต้ ถูกยิงเสียชีวิต เขาตัวคนเดียว และเขาต้องดูแลหลานชายตัวเล็กๆ อีกคนหนึ่ง อย่างไงๆ ผมก็ไม่กลับไปหาคุณอีกแล้ว เจ็บมากคะ...แต่ก็ยืนด้วยลำแข้งตนเองได้
วันเวลาผ่านไปได้ประมาณ 8 เดือน กลับมาขอเราให้อภัย บอกว่า ผมขอโทษทุกอย่างที่ทำให้คุณเสียใจกับเรื่องราวที่ผ่านมา ขอให้คุณยกโทษให้ผม คุณเป็นคนที่ใช่สำหรับผม ผญ.คนนั้น เขาโกหกผม สิ่งที่เขาพูดและแสดงออกไม่มีความจริงเลย เขามีสามีแล้ว และมีลูกชาย 1 คน ที่เขาอ้างว่าเป็นหลาน ผมจะทำเรื่องย้ายมาอยู่ทางเหนือ และให้คุณหาซื้อที่ดินราคาพอซื้อได้สักแปลงหนึ่ง เราจะมาสร้างครอบครัวกัน เราจะเพาะกล้ายางพาราที่นั่น แล้วผมจะเอาไปขายให้เกษตรกร ซึ่งผมกำลังส่งเสริมให้เขาปลูกกันอยู่ ผมจะมาติดตากล้ายางเอง (เขาเป็นเกษตรตำบลค่ะ)
ด้วยความหลงผิดคิดว่าเขาจะกลับตัวเป็นคนดีเหมือนเดิม เราจึงตัดสินใจอภัยเขา และลงทุน เช่าที่ดินข้างๆ สำนักงานเราเอง เพาะกล้ายางพารา ทั้งที่ตัวเองไม่เคยทำ มันเป็นอะไรที่หนักมากสำหรับ ผญ.คนหนึ่งที่ต้องทำสวนคนเดียว หลังเลิกงานเราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดทำงาน ใส่ชุดคนสวน เข้าไปดูแปลงเพาะทุกวัน จ้างเขาเอาดินมาลง จ้างเขากรอกดินลงถุง จ้างเขาขน เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้กลับบ้าน ต้องเข้าไปดู เราดูแลมันอย่างดี ทำองหมด
วันเวลาผ่านไป จนต้นใหญ่ได้ที่ ที่จะต้องติดตากล้ายางแล้ว เขามาติดให้ไม่กี่ต้น อ้างว่าไม่ค่อยมีเวลา เราจึงไปจ้างคนอื่นมาติดให้ พอถึงเวลาที่ต้องขนย้าย เขาก็เอารถยนต์คันใหม่ซึ่งเราช่วยเขา 40000 บาท(ตอนนี้เขาคืนให้หมดแล้ว) มาขน เราถามว่าขนไปตั้งหลายเที่ยวเยอะมากมายขนาดนี้เอาไปไว้ที่ไหน ตอบว่า เอาไปฝากคนอื่นไว้ มีบางส่วนเอาไว้ที่สำนักงาน เราก็เชื่อใจ
จนกระทั่วอยู่มาวันหนึ่ง เราเจอรูปผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาในเฟสของเขา ยืนถ่ายรูปกลางทะเล เราพยายามเข้าไปดูว่าเป็นใคร ปรากฏว่า เป็นผู้หญิงที่เขากำลังคบหาดูใจกันทั้งที่เขากับเรายังไม่เลิกกันนะ และเราก็ได้พูดทางโทรศัพท์กับผู้หญิงคนนี้ ได้คุยกับแม่เขา ได้คุยกับญาติเขา ผญ.คนนี้พูดว่า ชายคนนี้เข้ามาคบหากับเขาเรากำลังดูใจกัน พี่เขา เอากล้ายางพารามาไว้ที่บ้านตอนนี้แม่กำลังกรอกดินใส่ถุงเพื่อจะเอากล้ายางที่เขาขนมาจากลำปางมาเสียบไว้ นางนี้ว่าชายนี้บอกว่าเขาจ้างลูกน้องเพาะไว้ที่ลำปางเยอะมากๆ ตอนนี้จะหมดสัญญาเช่าแล้ว ต้องรีบขนออก (ทั้งที่เราเป็นคนเพาะกับมือทั้งนั้น) ฉันนี่แหละเป็นคนเพาะกับมือ เธออยากเห็นภาพถ่าย และสัญญาเช่าที่ดินมั้ยจะส่งให้ดู
สุดท้ายมาความจริงมาเปิดเผย
-ไปบอกให้ฝ่ายโน้นว่า ยังไม่มีใคร ตัวคนเดียว อยากมีครอบครัว อยากมีลูก จะกู้เงินมาสู่ขอ เอาหัวหน้ามาเป็นเฒ่าแก่ และแม่มาสู่ขอ ผู้หญิงที่ผ่านมา 4 คน ไม่ได้ยกย่องใครว่าเป็นเมียสักคน ผู้หญิงที่ผ่านมานั้นไม่ได้เกิดจากความรัก เกิดจากความสงสารมากกว่า
-พูดกับนางคนนี้ว่าเราเป็นคนเข้าไปหาเขาก่อน ตอนเริ่มคบกัน และมาบอกเราว่าคนเราตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง
ถามเพื่อนๆในห้องนี้เคยเจอเหมือนเรามั้ย แล้ว คุณคิดอย่างไรกับนางคนนี้ ซึ่งเป็นคนมาทีหลังอันดับที่ 4 ที่อายุอ่อนกว่ามันไป 9 ปี
-ไปพูดให้นางคนนี้ฟังว่า เรานี้กล่าวหาว่านางมีสามีมาก่อนแล้ว ทั้งที่คำนี้ไม่เคยออกจากปากเราเลย สร้างเรื่องให้คนอื่นเชื่อ แล้วโยนผิดให้เรา เพื่อตัวเองจะได้คะแนนนิยมเพิ่ม