จากข่าวสดออนไลน์
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakE1TURJMU5nPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE15MHdNaTB3T1E9PQ==
"แพนเค้ก" พร้อมมารดาและ"พัตเตอร์"น้องชายนำทรัพย์สินที่ตอนแรกคิดว่าถูกขโมย ดอดเข้าพบตำรวจกลางดึก ยืนยันคดีโจรย่องเบาเข้าบ้านเกิดจากเหตุเข้าใจผิด แม่นางเอกสาวอ้างวันเกิดเหตุกินยาจนเบลอจำไม่ได้ว่านำทรัพย์สินไปวางที่ไหน ขณะที่พัตเตอร์ระบุปีนเข้าห้องน้ำบ้านพี่สาวจริง อ้างได้ยินเสียงผิดปกติขณะที่คนในบ้านไม่อยู่ เลยปีนเข้าไปดูจนทิ้งรอยมือ-เท้าเอาไว้ ตร.เผยเชื่อเจ้าทุกข์เข้าใจผิดจริงไม่เข้าข่ายแจ้งความเท็จให้ทำเรื่องถอนแจ้งความได้
ความคืบหน้าคดีย่องเบาเข้าบ้านดาราสาว "แพนเค้ก"เขมนิจ จามิกรณ์ เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ภายหลังครอบครัวออกมาระบุว่าเข้าใจผิดต้องการถอนแจ้งความ ขณะที่ตำรวจตรวจพบรอยนิ้วมือปีนเข้าบ้านเป็นของ "พัตเตอร์" นายภัทรนันท์ จามิกรณ์ น้องชายนางเอกสาว ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวว่าเมื่อกลางดึกที่ ผ่านมา แพนเค้ก พร้อมด้วยพัตเตอร์ น้องชาย และนางนวลนงค์ จามิกรณ์ มารดา นำทรัพย์สินที่เข้าใจว่าถูกขโมยมาแสดง พร้อมเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมก่อนทำเรื่องขอถอนแจ้งความ
พ.ต.อ.สราวุธกล่าวว่าแยกสอบทั้งหมดเป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบว่าคดีนี้เป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริง โดยเมื่อวันเกิดเหตุ ทางผู้เสียหายคิดว่ามีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ แต่ต่อมาพบว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดและมาให้การเพิ่มเติมว่าได้ของกลางกลับคืนมาครบทุกอย่าง ทางผู้เสียหายก็มั่นใจว่าไม่มีการลักทรัพย์ จึงไม่มีการกระทำผิด ทางเจ้าหน้าที่จะทำเรื่องถอนแจ้งความต่อไป
"คดีนี้ไม่ถือว่าผู้เสียหายแจ้งความเท็จ เพราะเจ้าหน้าที่วิเคราะห์จากเจตนาการแจ้งความในวันเกิดเหตุ ทางผู้เสียหายเห็นร่องรอยปรากฏว่ามีร่องรอยคนร้ายเข้ามาในบ้าน พร้อมกับทรัพย์สินหายไป จึงคิดว่ามีคนเข้ามาลักทรัพย์ พออีกวันนำคนในบ้านมาพิมพ์ลายนิ้วมือและนิ้วเท้าเพื่อส่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ต่อมาในวันที่ 28 ม.ค. ทางครอบครัวของนักแสดงชื่อดังก็ได้เดินทางมาพิมพ์ลายนิ้วมือเพิ่ม ทำให้เชื่อได้ว่าไม่มีเจตนาแจ้งความเท็จ แต่เป็นการสำคัญผิด อีกทั้งการสอบปากคำครอบครัวของนักแสดงชื่อดัง ไม่พบพิรุธ ทางพัตเตอร์ก็ให้การไม่พบพิรุธ ทุกคนให้การสอดคล้องกันเป็นประโยชน์" พ.ต.อ.สราวุธกล่าว
ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวอีกว่านายภัทรนันท์ หรือพัตเตอร์ รับว่าปีนเข้าห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านพี่สาว เพราะได้ยินเสียงผิดปกติในขณะที่คนในบ้านออกไปกินอาหาร โดยปิดล็อกประตูหน้า พัตเตอร์ตัดสินใจปีนเข้าไปดูจึงทิ้งรอยมือและรอยเท้าเอาไว้ ทางพัตเตอร์นั้นมีเหตุอันควรให้เข้าไปในบ้าน แต่รายละเอียดที่ว่าเข้าไปทำไม เป็นเรื่องของการสอบสวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พบว่าสามารถรับฟังได้ ส่วนขั้นตอนการถอนคดี ทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมเอกสารเสนอตามลำดับขั้นบังคับบัญชา เพื่อเสนอขอถอนเลขคดีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับนางนวลนงค์ มารดา ให้การกับตำรวจว่าวันเกิดเหตุไปกินอาหารกับลูกสาวเมื่อกลับมาก็กินยาแก้แพ้ ก่อนเข้านอน จนตอนเช้าตื่นมาไม่เห็นเครื่องประดับวางอยู่บนอ่างล้างหน้า ซึ่งเป็นจุดที่วางไว้เป็นประจำ ประกอบกับเห็นรอยมือรอยเท้าจึงเข้าใจว่ามีขโมย จนภายหลังพบว่าที่แท้เก็บเครื่องประดับไว้ในลิ้นชักห้องทำงานชั้นล่าง แต่จำไม่ได้เพราะเบลอจากฤทธิ์ยา อีกทั้งเครื่องประดับดังกล่าวใช้สลับกับลูกสาวทำให้เกิดความสับสนขึ้น
ด้านแพนเค้กกล่าวว่า เรื่องนี้ถือได้ว่าดำเนินการเสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้ว ทรัพย์สินได้ที่คิดว่าหายไปคือ ต่างหู แหวนเพชร และนาฬิกา ก็ได้คืนหมดแล้ว ส่วนแม่ของนางเอกสาวกล่าวว่า พบเจ้าหน้าที่ตำรวจถอนแจ้งความเรียบร้อย เรื่องคดีเป็นอันจบไม่มีอะไร ส่วนรายละเอียดอื่นนอกจากนี้ขออนุญาตไม่พูดถึง เพราะอย่างที่บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร ผบก.น.3 กล่าวว่าครอบครัวของแพนเค้ก ได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมกับนำทรัพย์สินที่เคยบอกว่าสูญหายไปมาแสดง พร้อมกับให้ปากคำ ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิดกันเองภายในครอบครัว เนื่องจากแพนเค้กได้นำของทั้งหมดไปวางไว้บริเวณที่เกิดเหตุ แล้วนางนวลนงค์ได้นำไปเก็บไว้ให้แล้วลืมว่าเป็นผู้นำเอาไปเก็บไว้ให้ด้วยตัวเอง
"ส่วนกรณีที่ตรวจพบว่ามีรอยนิ้วมือของน้องชายภายในบ้านนั้น ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะเป็นคนภายในครอบครัว อาศัยอยู่ภายในบ้านเดียวกัน จึงมีรอยนิ้วมือนิ้วเท้า ซึ่งก็มีของบุคคลอื่นอยู่ในบริเวณดังกล่าวด้วย ขณะนี้สั่งทำเรื่องถอดเลขทางคดีออกแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ภายในอาทิตย์หน้า" ผบก.น.3 กล่าว
แพนเค้กควงพัตเตอร์พบตร.-ยุติคดีแล้ว น้องรับปีนบ้าน อ้างประตูล็อก!
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakE1TURJMU5nPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE15MHdNaTB3T1E9PQ==
"แพนเค้ก" พร้อมมารดาและ"พัตเตอร์"น้องชายนำทรัพย์สินที่ตอนแรกคิดว่าถูกขโมย ดอดเข้าพบตำรวจกลางดึก ยืนยันคดีโจรย่องเบาเข้าบ้านเกิดจากเหตุเข้าใจผิด แม่นางเอกสาวอ้างวันเกิดเหตุกินยาจนเบลอจำไม่ได้ว่านำทรัพย์สินไปวางที่ไหน ขณะที่พัตเตอร์ระบุปีนเข้าห้องน้ำบ้านพี่สาวจริง อ้างได้ยินเสียงผิดปกติขณะที่คนในบ้านไม่อยู่ เลยปีนเข้าไปดูจนทิ้งรอยมือ-เท้าเอาไว้ ตร.เผยเชื่อเจ้าทุกข์เข้าใจผิดจริงไม่เข้าข่ายแจ้งความเท็จให้ทำเรื่องถอนแจ้งความได้
ความคืบหน้าคดีย่องเบาเข้าบ้านดาราสาว "แพนเค้ก"เขมนิจ จามิกรณ์ เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ภายหลังครอบครัวออกมาระบุว่าเข้าใจผิดต้องการถอนแจ้งความ ขณะที่ตำรวจตรวจพบรอยนิ้วมือปีนเข้าบ้านเป็นของ "พัตเตอร์" นายภัทรนันท์ จามิกรณ์ น้องชายนางเอกสาว ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวว่าเมื่อกลางดึกที่ ผ่านมา แพนเค้ก พร้อมด้วยพัตเตอร์ น้องชาย และนางนวลนงค์ จามิกรณ์ มารดา นำทรัพย์สินที่เข้าใจว่าถูกขโมยมาแสดง พร้อมเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมก่อนทำเรื่องขอถอนแจ้งความ
พ.ต.อ.สราวุธกล่าวว่าแยกสอบทั้งหมดเป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบว่าคดีนี้เป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริง โดยเมื่อวันเกิดเหตุ ทางผู้เสียหายคิดว่ามีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ แต่ต่อมาพบว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดและมาให้การเพิ่มเติมว่าได้ของกลางกลับคืนมาครบทุกอย่าง ทางผู้เสียหายก็มั่นใจว่าไม่มีการลักทรัพย์ จึงไม่มีการกระทำผิด ทางเจ้าหน้าที่จะทำเรื่องถอนแจ้งความต่อไป
"คดีนี้ไม่ถือว่าผู้เสียหายแจ้งความเท็จ เพราะเจ้าหน้าที่วิเคราะห์จากเจตนาการแจ้งความในวันเกิดเหตุ ทางผู้เสียหายเห็นร่องรอยปรากฏว่ามีร่องรอยคนร้ายเข้ามาในบ้าน พร้อมกับทรัพย์สินหายไป จึงคิดว่ามีคนเข้ามาลักทรัพย์ พออีกวันนำคนในบ้านมาพิมพ์ลายนิ้วมือและนิ้วเท้าเพื่อส่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ต่อมาในวันที่ 28 ม.ค. ทางครอบครัวของนักแสดงชื่อดังก็ได้เดินทางมาพิมพ์ลายนิ้วมือเพิ่ม ทำให้เชื่อได้ว่าไม่มีเจตนาแจ้งความเท็จ แต่เป็นการสำคัญผิด อีกทั้งการสอบปากคำครอบครัวของนักแสดงชื่อดัง ไม่พบพิรุธ ทางพัตเตอร์ก็ให้การไม่พบพิรุธ ทุกคนให้การสอดคล้องกันเป็นประโยชน์" พ.ต.อ.สราวุธกล่าว
ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวอีกว่านายภัทรนันท์ หรือพัตเตอร์ รับว่าปีนเข้าห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านพี่สาว เพราะได้ยินเสียงผิดปกติในขณะที่คนในบ้านออกไปกินอาหาร โดยปิดล็อกประตูหน้า พัตเตอร์ตัดสินใจปีนเข้าไปดูจึงทิ้งรอยมือและรอยเท้าเอาไว้ ทางพัตเตอร์นั้นมีเหตุอันควรให้เข้าไปในบ้าน แต่รายละเอียดที่ว่าเข้าไปทำไม เป็นเรื่องของการสอบสวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พบว่าสามารถรับฟังได้ ส่วนขั้นตอนการถอนคดี ทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมเอกสารเสนอตามลำดับขั้นบังคับบัญชา เพื่อเสนอขอถอนเลขคดีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับนางนวลนงค์ มารดา ให้การกับตำรวจว่าวันเกิดเหตุไปกินอาหารกับลูกสาวเมื่อกลับมาก็กินยาแก้แพ้ ก่อนเข้านอน จนตอนเช้าตื่นมาไม่เห็นเครื่องประดับวางอยู่บนอ่างล้างหน้า ซึ่งเป็นจุดที่วางไว้เป็นประจำ ประกอบกับเห็นรอยมือรอยเท้าจึงเข้าใจว่ามีขโมย จนภายหลังพบว่าที่แท้เก็บเครื่องประดับไว้ในลิ้นชักห้องทำงานชั้นล่าง แต่จำไม่ได้เพราะเบลอจากฤทธิ์ยา อีกทั้งเครื่องประดับดังกล่าวใช้สลับกับลูกสาวทำให้เกิดความสับสนขึ้น
ด้านแพนเค้กกล่าวว่า เรื่องนี้ถือได้ว่าดำเนินการเสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้ว ทรัพย์สินได้ที่คิดว่าหายไปคือ ต่างหู แหวนเพชร และนาฬิกา ก็ได้คืนหมดแล้ว ส่วนแม่ของนางเอกสาวกล่าวว่า พบเจ้าหน้าที่ตำรวจถอนแจ้งความเรียบร้อย เรื่องคดีเป็นอันจบไม่มีอะไร ส่วนรายละเอียดอื่นนอกจากนี้ขออนุญาตไม่พูดถึง เพราะอย่างที่บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร ผบก.น.3 กล่าวว่าครอบครัวของแพนเค้ก ได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมกับนำทรัพย์สินที่เคยบอกว่าสูญหายไปมาแสดง พร้อมกับให้ปากคำ ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิดกันเองภายในครอบครัว เนื่องจากแพนเค้กได้นำของทั้งหมดไปวางไว้บริเวณที่เกิดเหตุ แล้วนางนวลนงค์ได้นำไปเก็บไว้ให้แล้วลืมว่าเป็นผู้นำเอาไปเก็บไว้ให้ด้วยตัวเอง
"ส่วนกรณีที่ตรวจพบว่ามีรอยนิ้วมือของน้องชายภายในบ้านนั้น ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะเป็นคนภายในครอบครัว อาศัยอยู่ภายในบ้านเดียวกัน จึงมีรอยนิ้วมือนิ้วเท้า ซึ่งก็มีของบุคคลอื่นอยู่ในบริเวณดังกล่าวด้วย ขณะนี้สั่งทำเรื่องถอดเลขทางคดีออกแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ภายในอาทิตย์หน้า" ผบก.น.3 กล่าว