ติดตามบทความด้านการลงทุนได้ที่
http://www.facebook.com/longtoondotcom
วงการโบรกฯคาดหุ้นไทยร่วงช่วงนี้แค่ปรับฐานระยะสั้น หลังไร้เงาข่าวดีใหม่หนุน ขณะที่ต่างชาติขายหนัก 3 วันติด รวม 8.3 พันล้านบาทไม่น่ากังวล เป็นการขายทำกำไร-ปรับพอร์ตลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจนมาตรการสกัดทุนนอกไหลเข้าของรัฐ ลุ้นปลายเดือน ก.พ.56 ดัชนีฯ คืนชีพ รับเลือกตั้งอิตาลีชัดเจน-กนง ลดดอกเบี้ยอีก 0.25% แนะลุยกลุ่มอสังหาฯ หุ้นปันผลสูง-ผลประกอบการดี
*** บล.กสิกรไทย คาดหุ้นไทยปรับฐานช่วงสั้น
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้เป็นลักษณะการปรับฐานในช่วงสั้น เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนการลงทุน โดยปัจจัยภายนอกประเทศ ตัวเลขเศรษฐกิจก็ยังดี แม้จะไม่มาก ส่วนประเด็นกังวลเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯก็ยังไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นรุนแรง ส่วนกระแสการสกัดเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศอาจทำให้ปริมาณการซื้อขายชะลอลงไปบ้าง แต่ยังเชื่อว่าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ตลาดหุ้นต่างประเทศจะเริ่มฟื้นตัวจากประเด็นการเลือกตั้งในประเทศอิตาลี ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็จะฟื้นตัวได้ไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ จะอยู่ในกรอบ 1,485-1,500 จุด โดยกลยุทธ์ในการลงทุนในช่วงนี้แนะนำหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% หรืออยู่ที่ 2.50% และหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานหากราคาปรับตัวลดลงจนอยู่ในราคาที่เหมาะสม
***ชี้ต่างชาติขายหุ้นทำกำไร
นายเผดิมภพ กล่าวต่อไปว่าจากการที่นักลงทุนต่างชาติได้เริ่มมีสัญญาณขายสุทธิออกมาในตลาดหุ้นไทย มองว่าเป็นการขายทำกำไรในช่วงสั้น เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ากระทบบรรยากาศการลงทุน ประกอบกับตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมามากพอสมควร จึงถือว่าเป็นการปรับฐานในระยะสั้นเท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีความกังวลเกี่ยวกับกระแสมาตรการสกัดการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งถ้าหากปรับลดลงจะมีผลต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่า
ทั้งนี้หากมาประเมินยอดการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติก็มีเพียงไม่กี่พันล้านบาท แต่ปริมาณการซื้อขายที่เข้ามาในตลาดหุ้นไทยยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะชะลอไปบ้างในช่วงนี้ ซึ่งเชื่อว่าเงินลงทุนจากต่างชาติยังไม่ได้ไหลออกไปนอกประเทศไทย แต่เป็นเพียงรอหาจังหวะกลับเข้ามาซื้อใหม่อีกรอบ โดยต้องติดตามประเด็นหลักจากการเลือกตั้งในอิตาลี วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 โดยในเบื้องต้นเชื่อว่าจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งจะรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไป ได้แก่ ประเด็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เกี่ยวกับเพดานหนี้ว่าจะมีข้อสรุปอย่างไรในเดือนพฤษภาคม และการพิจารณางบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในปลายเดือนมีนาคม 2556
" เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติคงจะขายหุ้นเพื่อทำกำไรไปบ้าง ซึ่งยอดขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเป็นเพียงการปรับพอร์ตเล็กน้อย เพราะรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับกระแสนโยบายสกัดเงินทุนไหลเข้าของรัฐบาล ประกอบกับยังไม่มีข่าวบวกและข่าวลบใหม่ๆเข้ามา รวมถึงราคาหุ้นก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเยอะแล้ว แต่ก็เชื่อว่าตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ.เป็นต้นไป เงินจะไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง" นายเผดิมภพ กล่าว
ขณะเดียวกันยังคาดว่าการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% อยู่ที่ 2.50% แต่ในเบื้องต้นคงจะไม่มีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนของต่างชาติมากนัก เพราะภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี แม้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นการช่วยลดแรงกดดันจากการไหลเข้าของเงินลงทุนต่างชาติที่หันมาเก็งกำไรอัตราดอกเบี้ยของไทยที่ค่อนข้างสูงก็ตาม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะส่งผลบวกต่อในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จึงแนะนำให้เข้าลงทุน
หุ้นไทยพักฐานช่วงสั้น-ต่างชาติยังไม่หนี
วงการโบรกฯคาดหุ้นไทยร่วงช่วงนี้แค่ปรับฐานระยะสั้น หลังไร้เงาข่าวดีใหม่หนุน ขณะที่ต่างชาติขายหนัก 3 วันติด รวม 8.3 พันล้านบาทไม่น่ากังวล เป็นการขายทำกำไร-ปรับพอร์ตลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจนมาตรการสกัดทุนนอกไหลเข้าของรัฐ ลุ้นปลายเดือน ก.พ.56 ดัชนีฯ คืนชีพ รับเลือกตั้งอิตาลีชัดเจน-กนง ลดดอกเบี้ยอีก 0.25% แนะลุยกลุ่มอสังหาฯ หุ้นปันผลสูง-ผลประกอบการดี
*** บล.กสิกรไทย คาดหุ้นไทยปรับฐานช่วงสั้น
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้เป็นลักษณะการปรับฐานในช่วงสั้น เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนการลงทุน โดยปัจจัยภายนอกประเทศ ตัวเลขเศรษฐกิจก็ยังดี แม้จะไม่มาก ส่วนประเด็นกังวลเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯก็ยังไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นรุนแรง ส่วนกระแสการสกัดเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศอาจทำให้ปริมาณการซื้อขายชะลอลงไปบ้าง แต่ยังเชื่อว่าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ตลาดหุ้นต่างประเทศจะเริ่มฟื้นตัวจากประเด็นการเลือกตั้งในประเทศอิตาลี ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็จะฟื้นตัวได้ไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ จะอยู่ในกรอบ 1,485-1,500 จุด โดยกลยุทธ์ในการลงทุนในช่วงนี้แนะนำหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% หรืออยู่ที่ 2.50% และหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานหากราคาปรับตัวลดลงจนอยู่ในราคาที่เหมาะสม
***ชี้ต่างชาติขายหุ้นทำกำไร
นายเผดิมภพ กล่าวต่อไปว่าจากการที่นักลงทุนต่างชาติได้เริ่มมีสัญญาณขายสุทธิออกมาในตลาดหุ้นไทย มองว่าเป็นการขายทำกำไรในช่วงสั้น เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ากระทบบรรยากาศการลงทุน ประกอบกับตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมามากพอสมควร จึงถือว่าเป็นการปรับฐานในระยะสั้นเท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีความกังวลเกี่ยวกับกระแสมาตรการสกัดการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งถ้าหากปรับลดลงจะมีผลต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่า
ทั้งนี้หากมาประเมินยอดการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติก็มีเพียงไม่กี่พันล้านบาท แต่ปริมาณการซื้อขายที่เข้ามาในตลาดหุ้นไทยยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะชะลอไปบ้างในช่วงนี้ ซึ่งเชื่อว่าเงินลงทุนจากต่างชาติยังไม่ได้ไหลออกไปนอกประเทศไทย แต่เป็นเพียงรอหาจังหวะกลับเข้ามาซื้อใหม่อีกรอบ โดยต้องติดตามประเด็นหลักจากการเลือกตั้งในอิตาลี วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 โดยในเบื้องต้นเชื่อว่าจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งจะรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไป ได้แก่ ประเด็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เกี่ยวกับเพดานหนี้ว่าจะมีข้อสรุปอย่างไรในเดือนพฤษภาคม และการพิจารณางบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในปลายเดือนมีนาคม 2556
" เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติคงจะขายหุ้นเพื่อทำกำไรไปบ้าง ซึ่งยอดขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเป็นเพียงการปรับพอร์ตเล็กน้อย เพราะรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับกระแสนโยบายสกัดเงินทุนไหลเข้าของรัฐบาล ประกอบกับยังไม่มีข่าวบวกและข่าวลบใหม่ๆเข้ามา รวมถึงราคาหุ้นก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเยอะแล้ว แต่ก็เชื่อว่าตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ.เป็นต้นไป เงินจะไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง" นายเผดิมภพ กล่าว
ขณะเดียวกันยังคาดว่าการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% อยู่ที่ 2.50% แต่ในเบื้องต้นคงจะไม่มีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนของต่างชาติมากนัก เพราะภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี แม้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นการช่วยลดแรงกดดันจากการไหลเข้าของเงินลงทุนต่างชาติที่หันมาเก็งกำไรอัตราดอกเบี้ยของไทยที่ค่อนข้างสูงก็ตาม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะส่งผลบวกต่อในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จึงแนะนำให้เข้าลงทุน