......................จังหวัดในแถบภาคเหนือของไทย ถือว่าเป็นแหล่งปลูกข้าวพันธุ์ดีอีกแหล่งหนึ่ง ซึ่งนอกเหนือจากสายพันธุ์ที่ปลูกและคิดค้นโดยคนไทยเองแล้ว ยังเป็นแหล่งปลูกข้าวสายพันธุ์ต่างประเทศอย่าง “ข้าวญี่ปุ่น” ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นเรื่อยๆและดูจะมีอนาคตมากที่สุดในขณะนี้
นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ปัจจุบันกรมการข้าวร่วมกับภาคเอกชนหลายรายในการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตข้าวญี่ปุ่นโดยเน้นพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน คือ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และลำพูน เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม และมีพื้นฐานการปลูกข้าวญี่ปุ่นมานานแล้ว ที่สำคัญกรมฯ มีศูนย์วิจัยข้าวเชียงรายซึ่งเป็นศูนย์วิจัยข้าวแห่งแรกที่นำข้าวญี่ปุ่นเข้ามาทดลองปลูกในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นฐานปฏิบัติการหลักในการศึกษาพันธุ์ข้าวญี่ปุ่น โดยพันธุ์ที่ดีที่สุดในขณะนี้คือพันธุ์ ก.วก.1 และ ก.วก.2 ได้รับการรับรองพันธุ์และได้รับการจัดอยู่ในเกรดบีบวก จากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้รับความนิยมจากภัตตาคารของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงใช้พื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าวเป็นพื้นที่นำร่อง และขยายผลไปยังพื้นที่อื่นต่อไป ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็เป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่ง ฉะนั้นขณะนี้ศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอน จึงได้เริ่มมีการทดลองปลูกเพื่อศึกษาผล
โดยปัจจุบันมีการปลูกข้าวญี่ปุ่นประมาณ 60,000 ไร่ทั่วประเทศ และคาดว่าจะสามารถขยายพื้นที่การปลูกเป็น 100,000 ไร่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนได้ภายใน 3 ปี สำหรับข้าวญี่ปุ่นพันธุ์ ก.วก.1 และ ก.วก.2 เป็นข้าวเจ้านาสวน ไม่ไวต่อช่วงแสง มีลักษณะเด่นคือให้ผลผลิตสูงในสภาพดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถปรับตัวได้ดีในพื้นที่ดินนาเขตภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนได้ดีกว่าข้าวญี่ปุ่นพันธุ์อื่นๆ คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี ตรงตามมาตรฐานสำหรับผู้บริโภคข้าวญี่ปุ่น ราคาสูงกว่าข้าวทั่วไป นอกจากนี้ ข้าวญี่ปุ่นที่ปลูกในประเทศไทยถือว่าอยู่ในระดับพรีเมี่ยม ที่มีคุณภาพเทียบเท่าข้าวที่ปลูกในประเทศญี่ปุ่น และมีต้นทุนต่ำกว่า เชื่อว่าในอนาคตสามารถที่จะส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวอีกว่า หากเกษตรกรรายใดสนใจผลิตข้าวญี่ปุ่นต้องประสานกับภาคเอกชนที่มีโรงงานอุตสาหกรรมและมีการส่งเสริมอยู่ เพื่อจะได้มีตลาดรองรับแน่นอน แต่หากสนใจเรื่องเมล็ดพันธุ์ หรือเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ สามารถติดต่อศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย เลขที่ 474 ม.9 ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย หรือโทร.053-721578 เรามีความพร้อมที่จะจำหน่ายเมล็ดพันธุ์หลัก พันธุ์ขยาย อีกทั้งมีความพร้อมในเรื่องเทคโนโลยีที่ผลิตข้าวญี่ปุ่น เพราะงานวิจัยนี้เราทำต่อเนื่องมากว่า 20 ปีแล้ว
“ข้าวญี่ปุ่น” นับว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง และมีอนาคตไกล เพราะไม่เพียงช่วยลดการนำเข้าได้เท่านั้น ในอนาคตยังสามารถส่งออกนำเงินเข้าประเทศได้อีกด้วย
ที่มา
http://www.naewna.com/local/40630 
กรมการข้าวเร่งส่งเสริมเกษตรกรภาคเหนือปลูกข้าวญี่ปุ่น หวังส่งออกตีตลาดญี่ปุ่นในอนาคต
นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ปัจจุบันกรมการข้าวร่วมกับภาคเอกชนหลายรายในการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตข้าวญี่ปุ่นโดยเน้นพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน คือ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และลำพูน เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม และมีพื้นฐานการปลูกข้าวญี่ปุ่นมานานแล้ว ที่สำคัญกรมฯ มีศูนย์วิจัยข้าวเชียงรายซึ่งเป็นศูนย์วิจัยข้าวแห่งแรกที่นำข้าวญี่ปุ่นเข้ามาทดลองปลูกในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นฐานปฏิบัติการหลักในการศึกษาพันธุ์ข้าวญี่ปุ่น โดยพันธุ์ที่ดีที่สุดในขณะนี้คือพันธุ์ ก.วก.1 และ ก.วก.2 ได้รับการรับรองพันธุ์และได้รับการจัดอยู่ในเกรดบีบวก จากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้รับความนิยมจากภัตตาคารของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงใช้พื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าวเป็นพื้นที่นำร่อง และขยายผลไปยังพื้นที่อื่นต่อไป ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็เป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่ง ฉะนั้นขณะนี้ศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอน จึงได้เริ่มมีการทดลองปลูกเพื่อศึกษาผล
โดยปัจจุบันมีการปลูกข้าวญี่ปุ่นประมาณ 60,000 ไร่ทั่วประเทศ และคาดว่าจะสามารถขยายพื้นที่การปลูกเป็น 100,000 ไร่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนได้ภายใน 3 ปี สำหรับข้าวญี่ปุ่นพันธุ์ ก.วก.1 และ ก.วก.2 เป็นข้าวเจ้านาสวน ไม่ไวต่อช่วงแสง มีลักษณะเด่นคือให้ผลผลิตสูงในสภาพดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถปรับตัวได้ดีในพื้นที่ดินนาเขตภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนได้ดีกว่าข้าวญี่ปุ่นพันธุ์อื่นๆ คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี ตรงตามมาตรฐานสำหรับผู้บริโภคข้าวญี่ปุ่น ราคาสูงกว่าข้าวทั่วไป นอกจากนี้ ข้าวญี่ปุ่นที่ปลูกในประเทศไทยถือว่าอยู่ในระดับพรีเมี่ยม ที่มีคุณภาพเทียบเท่าข้าวที่ปลูกในประเทศญี่ปุ่น และมีต้นทุนต่ำกว่า เชื่อว่าในอนาคตสามารถที่จะส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวอีกว่า หากเกษตรกรรายใดสนใจผลิตข้าวญี่ปุ่นต้องประสานกับภาคเอกชนที่มีโรงงานอุตสาหกรรมและมีการส่งเสริมอยู่ เพื่อจะได้มีตลาดรองรับแน่นอน แต่หากสนใจเรื่องเมล็ดพันธุ์ หรือเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ สามารถติดต่อศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย เลขที่ 474 ม.9 ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย หรือโทร.053-721578 เรามีความพร้อมที่จะจำหน่ายเมล็ดพันธุ์หลัก พันธุ์ขยาย อีกทั้งมีความพร้อมในเรื่องเทคโนโลยีที่ผลิตข้าวญี่ปุ่น เพราะงานวิจัยนี้เราทำต่อเนื่องมากว่า 20 ปีแล้ว
“ข้าวญี่ปุ่น” นับว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง และมีอนาคตไกล เพราะไม่เพียงช่วยลดการนำเข้าได้เท่านั้น ในอนาคตยังสามารถส่งออกนำเงินเข้าประเทศได้อีกด้วย
ที่มา http://www.naewna.com/local/40630